พรีวิว ไอโฟน 5 (iPhone 5 preview) : บทความพรีวิว iphone5 แบบน้ำจิ้ม ก่อนจำหน่ายจริงในไทย

พรีวิว ไอโฟน 5 (iPhone 5 preview) : บทความพรีวิว iphone5 แบบน้ำจิ้ม ก่อนจำหน่ายจริงในไทย

พรีวิว ไอโฟน 5 (iPhone 5 preview) : บทความพรีวิว iphone5 แบบน้ำจิ้ม ก่อนจำหน่ายจริงในไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พรีวิว ไอโฟน 5 (iPhone5 preview) : บทความพรีวิว iPhone5 แบบน้ำจิ้ม ก่อนจำหน่ายจริงในไทย

[18-กันยายน-2555] ในที่สุด ไอโฟนรุ่นใหม่แห่งปี 2012 ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) ก็เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าวลือหนาหู ที่ออกมาก่อนหน้านั้นว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) จะมีรูปร่างคล้าย iPhone 4S แต่ตัวเครื่องยาวขึ้นเท่านั้น ซึ่งการเปิดตัว ไอโฟน 5 (iphone 5) ในครั้งนี้ แน่นอนครับว่า ไม่มีจุดไหนบน iphone 5 ที่ไม่ตรงกับข่าวลือเลย เพราะข่าวลือเป็นอย่างไร ไอโฟน 5 (iPhone 5) ก็ออกมาลักษณะนั้น แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับ ไอโฟน 5 (iPhone 5) มีการพัฒนาจาก iPhone 4S อย่างไร ดีขึ้น แย่ลง หรือเท่าเดิม วันนี้ เราจะมาพรีวิว iphone 5 กันครับ

ซึ่งเว็บไซต์ไอทีต่างประเทศหลายเว็บไซต์ ได้ทำการ พรีวิว ไอโฟน5 (iphone5 preview) เอาไว้บ้างแล้ว เพื่อเป็นการตอบรับกระแสที่ร้อนแรงของ iphone5 เว็บไซต์ techmoblog จึงไม่รอช้า รีบนำบทความ พรีวิว iphone 5 มาให้ชมกัน มาดูกันว่า iPhone 5 (ไอโฟน5) ที่บอกว่า ยาวขึ้นนั้น จะยาวมากกว่าเดิมขนาดไหน ดูน่าเกลียดหรือเปล่า มาชมกันครับ

iPhone5 ยาวขึ้น บางลง ด้านหลังเป็นโลหะ


อย่างที่ทราบกันครับว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5)) นั้น ตัวเครื่องบางลงกว่า iPhone 4S ถึง 18% จากเดิม 9.3 มิลลิเมตร เหลือเพียง 7.6 มิลลิเมตร เท่านั้นครับ ซึ่งนอกจากตัวเครื่องจะบางลงแล้ว ยังทำให้น้ำหนักเบาด้วย จาก 140 กรัม เหลือ 112 กรัม เบาลง 20%

มาดูหน้าตาของ ไอโฟน 5 (iPhone 5) กันเลยดีกว่า


เทียบกับรุ่นพี่ iPhone 4S (ซ้าย) จะเห็นว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5)) ตัวเครื่องยาวขึ้นเล็กน้อย

ด้านข้างตัวเครื่อง จะเห็นว่า ยังคงมีปุ่มควบคุมเหมือนเดิม นั่นก็คือ ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง, ปุ่มปิดเสียง มีขีดด้านข้าง 2 ขีดเหมือน iPhone 4s แต่สิ่งที่ต่างไปก็คือ ไอโฟน 5 (iphone 5) ตัวเครื่องบางกว่า

ด้านข้างอีกด้านหนึ่งครับ เป็นช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano-SIM card


พอร์ตการเชื่อมต่อ Lightning connector เล็กลงกว่าพอร์ตแบบเดิมๆ เหลือ 8-pin ส่วนช่องเสียบหูฟัง ย้ายจากบนมาล่าง ที่เหลือเป็นลำโพง และไมโครโฟนครับ

มาดู ไอโฟน 5 (iPhone 5) สีขาว หรือ White & Silver กันบ้างครับ เนื่องจากแสงไฟเป็นสีส้ม สีอาจจะเพี้ยนเล็กน้อย

ด้านหลังครับ กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + ไฟแฟลช และไมโครโฟน

iPhone5 รันระบบปฏิบัติการ iOS 6

อย่างที่ทราบกันครับว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) นั้น รันด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 6 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่ได้มีการปรับปรุงการทำงานมากมาย รวมไปถึงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ด้วย เช่น Passbook, ใช้ Apple Maps แทน Google Maps, ระบบนำทางแบบ Turn-by-Turn navigator หรือแม้แต่ การเพิ่มฟีเจอร์การถ่ายภาพแบบพาโนราม่า (Panorama) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่บน iOS 6 ครับ

ซึ่ง iOS 6 จะเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้ดาวน์โหลด ในวันที่ 19 กันยายนนี้ สามารถใช้ได้ทั้ง iPhone 3GS, iPhone 4, iPhone 4S, iPad 2 และ The new iPad (iPad 3) ครับ

ความรู้สึก หลังได้สัมผัสกับ iPhone5

เนื่องจาก ไอโฟน 5 (iPhone 5) ยังไม่เข้าไทย ทำให้ผมยังไม่มีโอกาสที่จะสัมผัสกับ ไอโฟน 5 (iPhone 5) แบบเต็มๆ เลยขอหยิบยกความเห็นจากเว็บต่างประเทศที่ได้สัมผัสกับ iphone 5 มาบอกเล่ากันให้ฟังครับ

cnet : ในส่วนของหน้าจอนั้น มีการปรับปรุงเล็กน้อย รู้สึกได้ทันทีเมื่อสัมผัสว่า น้ำหนักเบาลงมาก แต่ถ้าหากเทียบกันระหว่าง iPhone 4S กับ ไอโฟน 5 (iphone 5) ต้องบอกว่า ถ้าหากปิดหน้าจอ แล้วนำ 2 รุ่นนี้มาเทียบกัน แยกไม่ออกว่ารุ่นไหนคือ iPhone 4s หรือ ไอโฟน5 (iphone5) เนื่องจากเหมือนกันมาก แต่โดยรวมแล้ว ถือว่า ดี หน้าจอใหญ่ขึ้น และละเอียดขึ้นกว่ารุ่นก่อนครับ

Techradar : ถ้ามองในภาพรวมแล้ว ไอโฟน 5 (iPhone 5) ถือว่า มีการปรับปรุงมากกว่ารุ่นก่อน แต่ไม่ถึงขึ้นอัพเกรด ซึ่งสิ่งที่ Apple พลาดไปก็คือ การตัดฟีเจอร์ NFC ออก เพราะถ้าหาก ไอโฟน5 (iphone5) มีเทคโนโลยี NFC แล้ว น่าจะทำให้ Passbook ใช้งานได้ดีขึ้น และหลากหลายมากกว่านี้ แต่ถ้าหากถามว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) จะขายดีแบบเทน้ำเทท่ามั๊ย Techradar บอกว่า แน่นอนครับ

สำหรับบทความ พรีวิว ไอโฟน5 (iphone5 preview) ข้างต้น เป็นเพียงน้ำจิ้มครับ ยังไม่มีการเจาะลึกถึงฟีเจอร์การใช้งานมากเท่าที่ควร โดยรวมแล้ว แค่เฉพาะรูปร่างภายนอกเท่านั้น ส่วน บทความ รีวิว ไอโฟน5 (iphone5 preview) จากเว็บไซต์ techmoblog เร็วๆ นี้ คงจะได้อ่านกันอย่างแน่นอน อย่าลืมติดตามครับ :)

รายละเอียดเพิ่มเติม : cnet.com , techradar.com

ขอบคุณ เนื้อหา และภาพประกอบ: techmoblog

Facebook :

สำหรับใครที่ชื่นชอบข่าวสารด้านไอทีได้ตลอด 24 ชั่งโมง สามารถกด Like Facebook..ได้เลยที่นี่!!

Facebook :

สำหรับใครที่ชื่นชอบข่าวสารด้านไอทีได้ตลอด 24 ชั่งโมง สามารถกด Like Facebook..ได้เลยที่นี่!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook