ระวัง"สงกรานต์"เอฟเฟ็กต์ ...อย่ากะพริบตาโดยเด็ดขาด

ระวัง"สงกรานต์"เอฟเฟ็กต์ ...อย่ากะพริบตาโดยเด็ดขาด

สงกรานต์ปีนี้รัฐบาลใจดีประกาศเป็นวันหยุดยาวถึง 5 วัน หลายคนคงลุ้นว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุปีนี้จะเพิ่มขึ้นหรือว่าลดลงกว่าปีที่แล้ว ยังมีสิ่งที่น่าจับตาดูผลสะเทือนในห้วงวันหยุดสงกรานต์อยู่หลายเรื่อง ตั้งแต่ตลาดหุ้นที่ผันผวนขึ้นลงสลับไปมาไม่รู้ว่าวันสุดท้ายก่อนวันหยุดยาวจะทิ้งทวนหรือไม่ ที่ผ่านมาหากเป็นช่วงวันหยุดยาวเมื่อไหร่ตลาดหุ้นมักจะปิดบวกทุกที อาจจะอธิบายได้ว่าในห้วงนั้นจิตใจของนักลงทุนไม่ได้อยู่กับตลาดหุ้นเท่าไหร่ ปริมาณการซื้อขายก็ไม่มาก แรงซื้อมากกว่าแรงขาย

แนวโน้มราคาหุ้นก่อนหยุดยาวมักจะเป็นช่วงขาขึ้นมากกว่าขาลง

แต่หลังวันหยุดยาววันแรกตลาดหุ้นจะดีหรือไม่ดีนั้นต้องจับตาดู 2-3 ปัจจัยหลักๆ เรื่องแรกกรณีความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีจะเป็นอย่างไร แนวโน้มเป็นไปในทางที่ดีขึ้นหรือเลวลง ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ผ่านมาท่าทียั่วยุกันไปมาทั้งเกาหลีเหนือและสหรัฐอเมริกาเพิ่มดีกรีความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ เกาหลีเหนือก็ส่งสัญญาณว่าไม่ได้เกรงกลัวสหรัฐแต่อย่างใดพร้อมจะทดลองนิวเคลียร์ต่อไป

ความตึงเครียดหากควบคุมไม่ได้หรือว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นย่อมนำไปสู่สงครามอย่างมิอาจปฏิเสธได้ ความไม่แน่นอนนี้ขนาดญี่ปุ่นเองยังไม่ประมาทสั่งให้มีการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธรับมือการโจมตีของเกาหลีเหนือ เช่นเดียวกับเกาหลีใต้ที่เพิ่มกำลังเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

สถานการณ์ไข้หวัด H7N9 ที่ระบาดอยู่ใน 4 มณฑลของจีน ตอนนี้มีผู้เสียชีวิต 8 รายและป่วยอีก 16 คนอาจจะยังไม่มากและยังไม่มีข้อมูลว่าเชื้อนี้ได้ระบาดออกมา นอกประเทศจีนก็ตาม แต่ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะในช่วงสงกรานต์ปริมาณาการเดินทางเข้าออกประเทศมากกว่าสถานการณ์ปกติ

ขณะที่สถานการณ์ในประเทศที่น่าจับตาในช่วงหยุดยาวคงจะเป็นเรื่องที่ศาลโลกเปิดแถลงคดีด้วยวาจากรณีที่กัมพูชายื่นศาลโลกตีความพื้นที่รอบประสาทเขาพระวิหารระหว่างวันที่ 15-19 เม.ย.นี้ ก่อนหน้านี้มีกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า "กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ" รวมตัวประท้วงไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกและพร้อมที่จะเข้ายึดพื้นที่โดยรอบเขาพระวิหารอาจเกิดความวุ่นวายตามมาได้

หยุดยาวปีนี้มีอะไรๆ ให้ตื่นเต้น อาจถึงขั้นเกิด "สงกรานต์เอฟเฟ็กต์"ได้ ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดอย่ากะพริบตาโดยเด็ดขาด