ไขปริศนา"ผ้าห่อศพแห่งตูริน"

ไขปริศนา"ผ้าห่อศพแห่งตูริน"

กิลลิโอ ฟานติ ศาสตราจารย์ด้านแมคานิคอล แอนด์ เธอมัล เมเชอร์เมนท์ จากมหาวิทยาลัยปาดัว ทางเหนือของอิตาลี ใช้วิชาการสมัยใหม่ตรวจสอบวิเคราะห์ "ผ้าห่อศพแห่งเมืองตูริน" ผืนผ้าลินินความยาว 14 ฟุต ที่สืบทอดกันมาเป็นมรดกล้ำค่าของคริสตชนคาทอลิก ด้วยเชื่อถือกันว่า ผ้าผืนดังกล่าวคือผืนผ้าที่เคยใช้ห่อพระศพของพระเยซู หลังสิ้นพระชนม์ขณะถูกตรึงกางเขน เมื่อ 2,000 ปีที่ผ่านมา

มีหลายประเด็นที่ยังเป็นปริศนาลึกลับ และถกเถียงกันอย่างหนักเกี่ยวเนื่องกับผ้าผืนนี้ ซึ่งปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ที่วิหารแห่งเมืองตูริน และแต่ละปีเรียกผู้ศรัทธาเดินทางไปเยี่ยมชมมากมายนับแสนคน ตั้งแต่เรื่องอายุที่แท้จริงของผืนผ้า ว่า เก่าแก่อยู่ในยุคเดียวกันกับที่พระเยซูมีพระชนม์ชีพอยู่จริงหรือไม่ หรือเป็นผลงาน "ลวงโลก" ชิ้นสำคัญที่แนบเนียนอย่างยิ่งจากยุคกลาง เช่นเดียวกับข้อเท็จจริงที่ว่า ภาพที่ปรากฏอยู่ในผืนผ้า เป็นเงาร่างที่ชัดเจนของชายผมยาว มีหนวดเครา มีร่องรอยของการถูกตรึงกางเขน รอยมงกุฎหนามบริเวณหน้าผากและมีกระทั่งบาดแผลคมหอกบริเวณทรวงอกนั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร?

เคยมีผู้พยายามใช้วิทยาศาสตร์ไปศึกษาผ้าผืนนี้มาแล้วหลายครั้ง ในปี 1988 เคยมีการนำเอาเส้นใยจากผ้าผืนนี้ไปตรวจสอบหาอายุด้วย คาร์บอน-14 จากห้องปฏิบัติการทั้งที่ ออกซ์ฟอร์ดในอังกฤษ, ซูริกในสวิส, และแอริโซนา ในสหรัฐอเมริกา ผลออกมาไม่สอดคล้องกับเรื่องราวของการเป็นผ้าห่อศพ เพราะมีอายุอยู่ระหว่างปี 1260 ถึง 1390 เท่านั้นเอง แต่ก็กลายเป็นข้อถกเถียงกันขึ้นมาอีก หลังจากที่มีผู้อ้างว่าผลตรวจสอบดังกล่าวผิดพลาดเพราะไปดึงเส้นใยจากส่วนของผืนผ้าที่ผ่านการซ่อมแซมมาในยุคกลางของยุโรป

ศาสตราจารย์ ฟานติ ใช้เวลา 15 ปีในการศึกษาวิจัยแล้วก็ใช้แสงอินฟาเรด กับเครื่องสเปคโตรสโคปี เพื่อวัดความหนาแน่นเชิงรังสี ที่จะนำมาวิเคราะห์เส้นใยของผ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดผืนหนึ่งของโลกผืนนี้ และพบว่า อายุที่แท้จริงของ "ผ้าห่อศพแห่งเมืองตูริน" ผืนนี้อยู่ที่ระหว่าง 300 ปีก่อนคริสต์ศักราชจนถึงคริสต์ศักราช 400 ซึ่งถือว่าอยู่ในยุคเดียวกับที่พระเยซูมีพระชนม์อยู่ได้เลยทีเดียว

ศาสตราจารย์ ฟานติ ที่เป็นคาทอลิกเคร่งครัดผู้หนึ่ง ยังอธิบายที่มาของการเกิดภาพปริศนาบนผืนผ้าเอาไว้ด้วยว่า ภาพที่บังเกิดขึ้นมานั้นเกิดขึ้นจากการ "ระเบิด" ของ "การแผ่รังสี" ที่พิเศษพิสดารเป็นอย่างยิ่ง ฟังดูถึงแม้ว่า ศาสตราจารย์ผู้นี้ไม่ใช้คำว่า "ปาฏิหาริย์" ก็ดูใกล้เคียงเป็นอย่างยิ่ง

แต่ผลการตรวจสอบอายุของผืนผ้า กลับสอดคล้องกับการศึกษาวิจัยครั้งแรกๆ ที่ผู้วิจัยพบว่า บนผืนผ้ามีฝุ่นและละอองเกสรดอกไม้ที่มีอายุย้อนหลังไปในยุคเมื่อ 2,000 ปีก่อนเช่นกัน

ข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากการวิจัยครั้งนี้ของศาสตราจารย์ กิลลิโอ ฟานติ มีการบันทึกไว้เป็นหนังสือภาษาอิตาลีใช้ชื่อว่า "อิล มิสแตโร เดลลา ซินโดเน" หรือ "ปริศนาแห่งผืนผ้า" ที่คาดหมายกันว่า จะส่งผลให้มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กันใหม่อีกรอบ

ระหว่างผู้ที่เชื่้อถือศรัทธากับผู้ที่กังขาพยายามหาความจริง!