สงครามสินค้าไอทีระอุ จีนลั่นพร้อมตอบโต้

สงครามสินค้าไอทีระอุ จีนลั่นพร้อมตอบโต้"บ.ตะวันตก เอาคืนเล่นงานบริษัทจีน

สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ว่า จีนได้ประกาศขู่จะตอบโต้สหภาพยุโรปหากกลุ่มเปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการต่อ บริษัทด้านสินค้าไอทีของจีน ว่ามีพฤติกรรม"ทุ่มตลาด"และกรณีกล่าวหาว่า รัฐบาลจีน"ให้เงินช่วยเหลือสนับสนุน"แก่บริษัทดังกล่าว หรือบ."หัวเว่ย"และ"ZTE"

โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า ที่ผ่านมา บริษัทสินค้าไอทีของยุโรป ได้เข้ามาหารายได้จากตลาดผู้บริโภคของจีน มากกว่าที่จีนได้จากผู้บริโภคยุโรปด้วยซ้ำ และการสอบสวนฯดังกล่าวจะเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างจีนและ สหภาพยุโรป และจีนจะ"ใช้มาตรการอ้างสิทธิปกป้อง"ผลประโยชน์ด้านการค้าของจีน"ตามกฎหมาย ขององค์การการค้าโลก และกฎหมายจีน โดยจีนไม่ต้องการที่จะทำ"สงครามการค้า"กับ"ยุโรป"เพราะหากเกิดขึ้น ย่อมจะไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน

รายงานระบุว่า การสอบสวนดังกล่าวจะเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นโดยมีเพียงคณะกรรมการยุโรปเท่า นั้นที่เป็นฝ่ายอนุมัติ โดยไม่มีการร้องขอจากบริษัทเอกชนยุโรป โดยที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่สินค้าไอทีของยุโรป เช่น อีริกส์สัน.โนเกีย,ซีเม็น และอัลคาเทล ต่างประสบภาวะขาดทุน จากการนำเข้าสินค้าอุปกรณ์ไอทีจากจีนซึ่งมีราคาถูกกว่า แต่กลุ่มไม่ต้องการฟ้องร้องทางการจีนอย่างเป็นทางการ เพราะเกรงว่า จีนจะตอบโต้ และคาดว่า การสอบสวนของคณะกรรมการยุโรปต่อข้อสงสัยกรณีการทุ่มตลาดและการช่วยเหลือด้าน การเงินของทางการจีนต่อบริษัทไอทีจีน จะมีอุปสรรคยากลำบาก เนื่องจากบริษัทไอทียุโรป จะไม่ให้เอกสารยืนยันแก่คณะกรรมการยุโรป

ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัทสองยักษ์ใหญ่ไอทีของจีน"หัวเว่ย"และ"ZTE"ของจีน ได้ปฎิเสธว่าได้รับการสนับสนุนด้านการลงทุน ที่ผิดกฎหมายการค้ายุโรปจากรัฐบาลจีน รวมทั้งปฎิเสธว่าบริษัทไม่ได้ขายอุปกรณ์ไอทีในราคาต่ำกว่าต้นทุน เพื่อรักษาสัดส่วนในตลาดสินค้าไอทีของกลุ่มด้วย ด้านเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปเผยว่า ที่ผ่านมา กลุ่มได้เปิดการเจรจากับทางการจีนเป็นเวลากว่าปี ต่อปัญหาดังกล่าว แต่ผลที่ออกมาถือว่าน่าผิดหวัง 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า เหตุการณ์นี้ยังถือเป็นความขัดแย้งด้านการค้าล่าสุดของจีนกับยุโรป โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายต่างมีปัญหาพิพาททางการค้าหลายประเภท ตั้งแต่สินค้าเกษตร รวมทั้งเหล็กเส้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้ตัดสินใจที่บังคับใช้มาตรการตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้านำเข้า"แผง โซลาร์ เซลล์"ของจีน เป็นมูลค่า 47 เปอร์เซนต์ ซึ่งกลุ่มอ้างว่าเพื่อปกป้องพฤติกรรมการทุ่มตลาดของสินค้าจีน ทั้งนี้จีนซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับสองของโลก และสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นพันธมิตรการค้าใหญ่ของจีน ต่างมีการค้าร่วมกันเมื่อปีที่แล้วเป็นมูลค่ากว่า 564,000 ล้านดอลลาร์