จ่อเชือด 233 ทีวีดาวเทียมเถื่อน กสทช.ให้เวลาอีก 1 เดือนเข้าระบบ สิ้น มิ.ย.เจอหนักปรับรายวัน

จ่อเชือด 233 ทีวีดาวเทียมเถื่อน กสทช.ให้เวลาอีก 1 เดือนเข้าระบบ สิ้น มิ.ย.เจอหนักปรับรายวัน

จ่อเชือด 233 ทีวีดาวเทียมเถื่อน กสทช.ให้เวลาอีก 1 เดือนเข้าระบบ สิ้น มิ.ย.เจอหนักปรับรายวัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จ่อเชือด 233 ทีวีดาวเทียมเถื่อน กสทช.ให้เวลาอีก 1 เดือนเข้าระบบ สิ้น มิ.ย.เจอหนักปรับรายวัน

กสทช.จ่อ เชือดทีวีดาวเทียมเถื่อน 233 ราย ชี้ให้เวลาเข้าระบบถึง 30 มิ.ย.นี้ หากเลยกำหนดจะโดนโทษทางปกครองและอาญา เริ่มจากเบาไปหนัก ตั้งแต่ตักเตือน ปรับไม่เกิน 5 ล้าน ถ้ายังดื้องัด กม.กสท.ปรับวันละ 5 หมื่น คุกอีก 5 ปี

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยผลประชุมบอร์ด กสท. วันที่ 3 มิถุนายน ว่า มีมติขยายเวลาการขอใบอนุญาตกิจการบริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์สำหรับกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่หรือช่องรายการเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม จากเดิมกำหนดให้สิ้นสุดการขอรับใบอนุญาตวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ เพิ่มเติมอีก 30 วัน หรือสิ้นสุดการขอรับใบอนุญาตในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เนื่องจากสำนักงาน กสทช.ต้องใช้เอกสารในการพิจารณาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ประกอบการบางรายยังประสบปัญหาการนำส่งเอกสารไม่ครบ จึงจัดให้มีการขยายเวลาในครั้งนี้ขึ้น

พ.อ.นทีกล่าวว่า นอกจากนี้บอร์ด กสท.ยังได้มีคำสั่งให้สำนักงาน กสทช. จัดทำรายชื่อผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการช่องรายการดังกล่าวภายหลังครบกำหนดรับคำขอใบอนุญาตที่ได้รับใบอนุญาตเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวน 506 ราย นำส่งไปให้ผู้ประกอบกิจการโครงข่ายทั้งระบบชาติ 10 ราย และระดับท้องถิ่น 400 ราย เพื่อรับทราบและอนุญาตให้นำช่องรายการดังกล่าวส่งสัญญาณผ่านไปยังโครงข่ายของเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมนั้นๆ

พ.อ.นทีกล่าวว่า สำหรับช่องรายการเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าช่องรายการที่ยังไม่ได้รับอนุญาตทั้งที่ยังไม่ยื่นเรื่องขอใบอนุญาตและอยู่ในระหว่างรอรับการพิจารณามีทั้งสิ้น233 ช่องราย โดยช่องรายการเหล่านี้หากครบกำหนดการขอใบอนุญาตแล้วจะไม่สามารถนำช่องรายการไปออกอากาศได้ และหากฝ่าฝืนจะมีโทษทั้งทางปกครองและอาญา ตั้งแต่ตักเตือน สั่งปรับไม่เกิน 5 ล้านบาท และหากยังไม่หยุดจะสั่งปรับวันละ 50,000 บาท และจำคุก 5 ปี ตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551


ที่มา : นสพ.มติชน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook