IG vs Vine มีอะไรต่าง?

IG vs Vine มีอะไรต่าง?

IG vs Vine มีอะไรต่าง?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

IG vs Vine มีอะไรต่าง?

นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักแอพฯชื่อ "Vine" แอพฯน้องใหม่ในเครือ Twitter ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในขณะนี้ แต่เหนือฟ้าก็ย่อมมีฟ้าเพราะการมาของฟีเจอร์ถ่ายและแชร์วีดีโอสั้นของ "Instagram" พร้อมคุณลักษณะการใช้งานที่เหนือกว่าทำให้ IG โดดเด่นแซงหน้า Vine ไปได้เพียงชั่วพริบตา

แอพพลิเคชั่น "Vine" หลายคนสงสัยว่ามันคืออะไร ทำไมถึงดัง?

สาเหตุที่ Vine เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วนั้นก็เพราะการใช้งานของมันดันไปตรงกับฟีเจอร์เสริมของแอพฯพี่เบิ้มอย่าง Instagram นั้นก็คือการถ่ายวิดีโอแล้วอัพโหลดลงบนแอพฯผ่านสังคมออนไลน์ เป็นที่รู้กันว่า Instagram นั้นขึ้นชื่อเรื่องการแชร์รูปผ่าน social media เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นฟีเจอร์เสริมอย่างการถ่ายวิดีโอจึงจัดเต็มเรื่องการใช้งาน ส่วน Vine ที่มีผู้สร้างเดียวกับ Twitter จึงมีจุดเด่นอยู่ที่ความสั้น กระชับของได้ใจความตามแบบฉบับ Twitter

ตารางเปรียบเทียบ IG และ Vine


สรุปความต่าง IG และ Vine

1. ทำไมต้อง 6.5 วินาที?สาเหตุที่วีดีโอบน Vine ถ่ายได้แค่ 6.5 วินาทีเป็นเพราะทางผู้สร้างแอพฯ ต้องการท้าทายความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้และเพื่อให้ไฟล์วิดีโอไม่ใหญ่เกินไปจนเป็นอุปสรรคในการรับชมบนอุปกรณ์พกพาประเภทสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่การเชื่อมต่อกับอินเตอร์ไร้สายยังมีข้อจำกัดเรื่องความเร็ว

2. ฟีเจอร์เสริมในตัวแอพฯ Instagram ทำได้ดีกว่าไม่ว่าจะเป็นโหมด ถ่ายภาพแบบ cinema ลดการสั่นไหวของภาพ, การใส่กรอบ, ลบวีดีโอตัวล่าสุดหรือการ Tag ภาพแผนที่ไปพร้อมๆกับการแชร์สถานที่ รวมไปถึงฟิลเตอร์ ในขณะที่ Vine มีเพียงการแชร์สถานที่ โหมดภาพแบบร่าง(ฟีเจอร์เสริมเร็วๆนี้) โหมดเล่นซ้ำ และที่สำคัญไม่สามารถลบวีดีโอตัวใดที่โพสต์ลงไปแล้วได้ อุปสรรคสำคัญต่อการสร้างคลิปต่อเนื่อง(กรณีลบวีดีโอไม่ได้ คาดว่าอาจมีการปรับปรุงอัพเดตเพิ่มเติมในอนาคต)

3. ในด้านความหลากหลาย วีดีโอบน Vine สามารถนำไปทำเป็น GIF Animation ได้จากฟีเจอร์เล่นซ้ำรวมไปถึงความสะดวกในการเล่นวีดีโอบนหน้าแอพฯอื่นที่นำโค้ดไปฝากไว้ได้ทันทีแต่ Instagram ยังไม่สามารถทำได้


Note: ทั้ง Instagram และ Vine มีแนวคิดการพัฒนาที่แตกต่างกัน ในขณะที่ Instagram มีฟีเจอร์เสริมต่างๆเหมือนกับ Facebook และเน้นที่การติดต่อแบบเล่าเรื่องราวแต่ Vine กลับมีพื้นฐานมาจาก Twitter ซึ่งเน้นในการสื่อสารที่รวดเร็ว สั้นและกระชับ ดังนั้นแอพฯทั้งสองตัว จึงมีทั้งความเหมือนและความแตกต่าง การที่จะบอกว่าแอพฯตัวใดดีกว่ากัน จึงขึ้นอยู่กับว่าแอพฯตัวใดเหมาะกับผู้ใช้งานมากกว่ากัน

ที่มา: www.arip.co.th

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook