10 สิ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยี...ที่ทำเสร็จปุ๊บรู้สึกเสียใจปั๊บ

10 สิ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยี...ที่ทำเสร็จปุ๊บรู้สึกเสียใจปั๊บ

10 สิ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยี...ที่ทำเสร็จปุ๊บรู้สึกเสียใจปั๊บ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

10 สิ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยี...ที่ทำเสร็จปุ๊บรู้สึกเสียใจปั๊บ

ส่วนใหญ่เรื่องพวกนี้มักเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเร็วมาก แต่เวลาจะแก้ไขหรือเปลี่ยนกลับนี่สิยากซะเหลือเกิน

1. กด ‘อัพเดต’ บนอะไรก็ตาม
ผมแค่อยากเล่นเกม Fifa เพียงแผล็บเดียวก่อนเข้านอน แต่เครื่องเล่นเกมของผมทำให้ผมเชื่อว่าผมจะต้องอัพเดตเสียก่อน มันอาจนำสิ่งสนุกๆ แปลกใหม่หรืออุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยขนาดบะเริ่มก็ได้ใครจะรู้ แม้สิ่งนี้จะให้เวลาผมมากพอที่จะไปห้องครัวและเอาหมูออกมาต้มเก็บไว้กินได้ทั้งตัว อ่านหนังสือชีวประวัติของสตีฟ จ็อบส์หนาเตอะที่ตั้งแต่ซื้อมายังไม่ได้แตะต้องและเรียนภาษารัสเซีย แต่สิ่งที่ผมทำคือนั่งจ้องจอทีวีจนกระทั่งแถบสถานะบ่งบอกว่ามันได้อัพเดตไปแล้ว 24 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถึงตอนนั้นก็เช้าแล้วและได้เวลาที่ผมจะต้องไปทำงานพอดี

2. ซื้อชาจากตู้หยอดเหรียญ
หรือเครื่องดื่มร้อนๆ อะไรก็ตาม จริงๆ นะ ผมว่าของเหลวที่ก้นถังขยะในห้องครัวยังมีรสชาติดีกว่าเครื่องดื่มจากตู้หยอดเหรียญในออฟฟิศ T3 เสียอีก ขอบคุณพระเจ้าที่มันไม่มี ‘ซุปไก่’ ให้เลือก

3. ตอบตกลงที่จะช่วยใครบางคนขนของย้ายบ้าน
นี่คือสูตรสำเร็จ: เพื่อนคนหนึ่งบอกว่าเขาจะย้ายบ้านในวันหยุดสุดสัปดาห์ + ผมบอกไปว่าผมจะช่วย + เขาบอกว่า “ไม่เป็นไร ไม่ต้องหรอก” = ผมจะไม่เป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน อย่างไรก็ตาม บางครั้งก็มีคนงี่เง่าบางคนที่ไม่ทำตามสูตรอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ซึ่งหมายความว่าผมจะต้องใช้เวลายามเช้าของวันเสาร์ได้ยินประโยคอย่าง “ตอนนี้เอาแค่เครื่องซักผ้าลงมาจากห้องเพดานก่อน” แทนที่จะนอนบนเตียงอ่านหนังสือพิมพ์บน iPad

4. ซื้ออีบุ๊คจากนักเขียนที่ตีพิมพ์หนังสือขายเอง
อาจเป็นสไตล์การเขียนที่ใช้ย่อหน้ายาวเฟื้อยหนึ่งย่อหน้า อาจเป็นการใช้ฟอนต์ Comic Sans อาจเป็นการไม่ใช้เครื่องหมายวรรคตอน หรืออาจเป็นเพราะตัวละครสามคนมีชื่อเหมือนกัน...จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามมันมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับหนังสือที่ผมซื้อมาอ่าน ที่ทำให้ผมคิดว่ามันอาจไม่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนวนิยายดีเด่นประจำปี Man Booker  อ้อ ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้วก็น่าจะลองอ่านสักหน่อย ‘บทที่หนึ่ง...’

5. เอาเงินที่ได้มาทั้งหมดใส่กลับลงตู้วิดีโอเกมตอบคำถาม
ผมเล่นเกมตอบคำถามหัวข้อต่างๆ ตั้งแต่ ‘เพลงดังแห่งยุค 80’ ‘ดาราอังกฤษที่คว้ารางวัลออสการ์’ และ ‘วิทยาศาสตร์’ จนฟาดเงินรางวัลมาเหนาะๆ สองปอนด์ (ประมาณ 90 บาท) สำหรับความทุ่มเทพยายาม (และสำหรับเงินแปดปอนด์ (ประมาณ 360 บาท) ที่ผมเสียเงินหยอดเหรียญเล่นไปแล้ว) ผมรู้สึกฮึกเหิมหลังจากที่คว้าเงินรางวัลที่อาจเปลี่ยนชีวิตผมได้ จนลืมไปว่าตู้เกมตอบคำถามทุกตู้จะยากขึ้นทันทีหลังจากจ่ายเงินรางวัล ผมหยิบเหรียญที่ได้มาหยอดกลับเข้าไปในช่องและเลือกหัวข้อ ‘สุนัขของเหล่าดาราคนดัง’ สำหรับคำถามแรก ‘สุนัขของบุตรชายคนที่สามของประธานาธิบดีประเทศโบลิเวียคนที่ 12 ชื่ออะไร? A: Tygeragi B: Tgyergi C: Tgergai.’ ซวยเลย

6. เหวี่ยงและวางสายใส่แฟน
เพราะผมรู้ว่ายังไงๆ ผมก็ต้องยอมแพ้และง้อเธอวันยังค่ำ ผมจึงรีบโทรกลับทันทีเพื่อขอโทษ ซึ่งวิธีนี้ก็สุ่มเสี่ยงต่อการที่เธอจะเล่นตัวและเป็นฝ่ายได้เปรียบมากยิ่งขึ้นด้วยการไม่รับสาย ผลลัพธ์: ไม่ว่าวิธีไหนผมก็แพ้

7. แตะไอคอนบน Wii U ผิดตัว
ผมอยากดูภาพยนตร์จาก Netflix แต่นิ้วมืออวบๆ เอื่อยๆ ที่รังเกียจสไตลัสของผมกลับเผลอไปโดน ‘Parental Controls’ (จำกัดการใช้งานเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกๆ เข้าถึงคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสม) ส่งให้ผมเข้าสู่กระแสลมหมุนสีขาวที่ให้ความรู้สึกคล้ายจุดหลบภัย ซึ่งเป็นสถานที่ที่เวลาไม่มีความหมายและเสียงเพลงประหลาดหลอนๆ คอยสะกดจิตให้ผมหลงเชื่อว่าผมได้ตายหรือถูกกดศีรษะลงใต้น้ำ อีกไม่นานทางบริษัทก็จะส่งอัพเดตตัวใหม่ๆ ออกมาหลายตัว เพื่อลดระยะเวลาแห่งการรอคอยอันสุดแสนทรมานนี้ ซึ่งถึงเวลานั้นผมคงหลุดพ้นจาก ‘Parental Controls’ พอดี

8. เตรียมตัวเตรียมใจดูละครทีวีเรื่องใหม่
เพิ่งจะนั่งดูได้เพียงห้านาทีของตอนแรก ผมก็รู้แล้วว่าผมคิดผิดมหันต์ แต่แฟนของผมนี่สิชอบนักชอบหนาละครพีเรียดย้อนยุคในช่วงเปลี่ยนศตวรรษใหม่ เกี่ยวกับครอบครัวอเมริกันขี้เก๊กเจ้าของห้างสรรพสินค้า ซึ่งแต่ละตอนยาวหนึ่งชั่วโมง ผมจะต้องใช้เวลายามค่ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะจบอีกหลายเดือน

9. สั่งสินค้าในเว็บไซต์แต่ดันใส่ที่อยู่เก่า
มันเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเร็วมาก แต่เวลาจะแก้ไขหรือเปลี่ยนกลับนี่สิยากซะเหลือเกิน คลิกผิดเพียงครั้งเดียวก็เหลือทางเลือกง่ายๆ เพียงอย่างเดียว นั่นคือมอบชุดดีวีดีบ็อกเซตมูลค่า 100 ปอนด์ (ประมาณ 4,500 บาท) ที่เพิ่งสั่งซื้อให้กับคนที่เช่าแฟลตเก่าที่ผมเคยอยู่ แต่ถ้าผมแวะไปหาพวกเขาผมก็ต้องหาเหตุผลมาอธิบายถึง ‘สิ่งของ’ ที่ผมแช่ไว้ในช่องแข่แข็งนานเป็นปี หรือถ้าโทรไปคุยกับร้านค้าปลีกออนไลน์ ผมก็คงต้องใช้เวลาสี่ชั่วโมงอธิบายเรื่องราวของผมให้กับคนที่ไม่ยินดียินร้ายต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อให้เขาเปลี่ยนที่อยู่ในแบบฟอร์มสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ซึ่งเขาก็คงจะไม่ทำให้

10. รับสายโทรศัพท์หมายเลขที่ไม่รู้จัก
ปล่อยให้เข้าวอยซ์เมลไปเลย เชื่อผม! ถ้าเขาอยากคุยกับคุณจริงๆ เขาก็คงทิ้งข้อความไว้หรือส่งข้อความมา “อ้อ แต่ถ้าเป็นอะไรที่สำคัญละ...ผมอาจจะได้รางวัลแจ็กพ็อต Euromillions” คุณอาจคิดเช่นนี้ ก็ได้ รับสายสิ “คลิก...[เสียงแข็งๆ คล้ายโรบอต] เราเชื่อว่าคุณได้ซื้อกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองการว่างงานและป่วย โดยได้รับข้อมูลเงื่อนไขการคุ้มครองที่ไม่ถูกต้อง...” งานเข้าเลยทีนี้

ที่มา: ขอขอบคุณ T3 ผู้สนับสนุนเนื้อหา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook