สงครามมือถือปะทุเปิดศึกแย่งลูกค้า "ทรูมูฟเอช"จัดหนักดันยอดโค้งท้าย

สงครามมือถือปะทุเปิดศึกแย่งลูกค้า "ทรูมูฟเอช"จัดหนักดันยอดโค้งท้าย

สงครามมือถือปะทุเปิดศึกแย่งลูกค้า "ทรูมูฟเอช"จัดหนักดันยอดโค้งท้าย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สงครามมือถือปะทุเปิดศึกแย่งลูกค้า "ทรูมูฟเอช"จัดหนักดันยอดโค้งท้าย

"สงครามราคา" ปะทุดูดลูกค้าข้ามค่าย "ทรูมูฟ เอช" จัดหนักแจกเน็ตฟรี 4 GB เรียกลูกค้าทดลองใช้บริการ 3G ไม่ลืมเอาใจคนชอบคุยโปรโมชั่น "1 วัน 1 บาท" ฟาก "ดีแทค" ยอมรับคู่แข่งแรงจริงงัดโปรโมชั่นสู้เต็มสูบ ด้าน "เอไอเอส" ชี้ลูกค้า 3G ยังโฟกัสคุณภาพบริการมากกว่า "ราคา"



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแข่งขันในธุรกิจโทรศัพท์มือถือเริ่มกลับมาร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังจาก "ทรูมูฟ เอช" มีแคมเปญรับเน็ต 3G ฟรี 4 GB สำหรับใครก็ได้ที่มีโทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบ 3G คลื่น 850 และ 2100 MHz กับซิมทรูมูฟ เอช ทั้งลูกค้าใหม่ ลูกค้าเดิม อัพเกรดหรือย้ายค่ายเบอร์เดิมมีสิทธิ์ทดลองใช้เน็ต 3G จากทรูมูฟ เอช ฟรี เพียงกด *850# แล้วโทร.ออกก็ได้สิทธิ์ใช้ดาต้าฟรี 2 GB นาน 30 วัน เมื่อหมดแล้วกดรหัสยืนยันการใช้อีกครั้ง ใน 2 GB ที่เหลือจะแบ่งให้ใช้เดือนละ 200 MB นาน 10 รอบบิล และใช้ได้ 7 วันต่อเดือน กรณีระบบเติมเงินต้องมีเงินในระบบอย่างน้อย 50 บาท และยังมีโปรโมชั่น "1 วัน 1 บาท" สำหรับระบบเติมเงินด้วย โดยให้โทร.หาเลขหมายในเครือข่ายทรู ทั้งทรูมูฟ และทรูมูฟ เอช คิดค่าบริการนาทีแรก 1 บาท จากนั้นได้โทร.ฟรีถึงเที่ยงคืน (ให้โทร.ต่อเนื่องได้ไม่เกิน 60 นาที ส่วนเกินคิดนาทีละ75 สตางค์) ใช้อินเทอร์เน็ตคิดค่าบริการ 2 บาท/MB

นอกจากแพ็กเกจค่าโทร.ราคาถูกต่าง ๆ แล้ว ที่ผ่านมายังมีการนำโทรศัพท์เคลื่อนที่หลายรุ่นที่มีราคาไม่แพง และรองรับการใช้งาน 3G เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเปิดตัวสมาร์ทโฟนและแท็บเลตภายใต้แบรนด์ "ทรู"

จากรายงานผลประกอบการของกลุ่มทรูในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ระบุว่า ทรูมีฐานลูกค้าทั้งสิ้น 22.1 ล้านราย เป็นทรูมูฟ18.2 ล้านราย และทรูมูฟ เอช 3.9 ล้านรายซึ่งเป้าฐานลูกค้าในปีนี้ของทรูมูฟ เอช อยู่ที่ 6 ล้านเลขหมาย

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นหรือดีแทค กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า แคมเปญของทรูมูฟ เอช ส่งผลกระทบต่อการใช้งานของลูกค้าดีแทคที่ใช้ดาต้า เพราะมีลูกค้าบางส่วนทั้งระบบเติมเงินและรายเดือนชะลอการใช้งานหรือขอหยุดใช้ดาต้าไปก่อน ทำให้ปริมาณการใช้ดาต้าโดยรวมลดลง คาดว่าลูกค้าเหล่านั้นคงหันไปใช้ซิมของคู่แข่ง แต่ไม่ได้ถึงกับทำให้ลูกค้าย้ายค่ายเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด และขณะนี้การใช้งานของลูกค้าดีแทคเริ่มกลับมาเป็นปกติ อาจเพราะระยะเวลาในการใช้อินเทอร์เน็ตฟรีของคู่แข่งใกล้หมด ทำให้ลูกค้าที่หายไป 80-90% กลับมาเปิดใช้แล้ว แสดงว่าความเชื่อมั่นในระบบยังอยู่แต่หยุดใช้เพื่อลองระบบใหม่ที่เปิดให้ใช้ฟรีเท่านั้น

"ผมมองว่าการที่คู่แข่งทำอย่างนั้นเพราะต้องการลูกค้ามากขึ้น แต่ทำแบบนี้เท่ากับเป็นการเริ่มต้นไพรซ์วอร์หรือสงครามราคาช่วงปลายปีอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมคาดไว้แล้วแต่แรกว่าต้องเกิดขึ้นจึงมีแผนสำรองไว้บ้าง และต้องยอมรับว่าคู่แข่งทำได้แรงจนดูดลูกค้าไปได้พักใหญ่ แต่ที่หายไปจริง ๆ ไม่กลับมามีเพียง 10% ถือว่าได้ไม่คุ้มเสียก็คงไม่ผิด เพราะลูกค้าเราก็ไม่ได้หายไปเท่าไร"

ขณะเดียวกัน ดีแทคได้ออกแคมเปญย้ายค่ายเบอร์เดิมเพื่อจูงใจลูกค้าค่ายอื่นให้มาใช้บริการ เช่น ถ้าย้ายมาในระบบรายเดือนจะได้ "ดีแทค ไตรเน็ต โฟน" รุ่นโจอี้ มูลค่า 2,590 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจที่ราคามากกว่า 500 บาท หรือรับส่วนลดค่าเครื่อง 600-1,000 บาท รวมถึงรับฟรีอินเทอร์เน็ตจำนวน 1 GB นาน 6 รอบบิล และถ้าย้ายมาในระบบเติมเงินได้สิทธิ์โทร.ฟรี 100 นาที/เดือน นาน 12 เดือน หรือเน็ตฟรี 1 เดือนเมื่อสมัครโปรโมชั่นเสริมเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต หรือค่าบริการฟรี 1 เดือน พร้อมรับส่วนลด 100 บาท นาน 12 เดือน เมื่อสมัครโปรโมชั่นสมาร์ทโฟน

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่น "แฮปปี้ขาเม้าท์"สำหรับระบบเติมเงินเพื่อตอบโต้โปรโมชั่น 1 วัน 1 บาทด้วย เช่น โปรเม้าท์มาราธอน ผู้ใช้เลือกเบอร์ในระบบดีแทค 1 เลขหมาย คิดค่าโทร.นาทีละ 1 สตางค์ ตลอด 24 ชั่วโมง (เบอร์อื่นนาทีละ 99 สตางค์)

ปัจจุบันลูกค้าดีแทคมีอยู่ 27 ล้านเลขหมายในจำนวนนี้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 10 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นไตรเน็ต 6 ล้านเลขหมาย คาดว่าในสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 10 ล้านเลขหมาย ซึ่งส่วนใหญ่ย้ายจาก 2G เดิมมาไตรเน็ต 3G ขณะที่จำนวนคนใช้อินเทอร์เน็ตจะเพิ่มเป็น 11-12 ล้านเลขหมาย

ด้านนายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า คุณภาพโครงข่ายและประสิทธิภาพในการให้บริการยังเป็นตัวแปรหลักในการเลือกใช้ระบบ 3G ทำให้การใช้กลยุทธ์ราคาหรือโปรโมชั่นแรง ๆ จึงดึงลูกค้าได้เพียงบางส่วน ต่างจากในอดีตที่โครงข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ลูกค้าจะเริ่มกลับมาเรียกร้องให้มีโปรโมชั่นที่เน้น "ราคา"

สำหรับในขณะนี้มีผู้ให้บริการเพียงรายเดียวใช้กลยุทธ์ "ราคา" จึงยังไม่ถึงช่วง "ไพรซ์วอร์" จริง ๆ แต่ถ้าเครือข่ายพร้อมและผู้บริโภคเรียกร้อง ก็พร้อมส่งแคมเปญและโปรโมชั่นออกมาดึงดูดใจลูกค้าให้อยู่ในระบบ และหาลูกค้าใหม่จากค่ายอื่น

ขณะที่ฐานลูกค้าเอไอเอสในปลายปีนี้จะมีทั้งหมด 40 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นลูกค้าที่ใช้งานเอไอเอส 3G คลื่น 2.1 GHz ร่วม 12 ล้านเลขหมาย และมียอดผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 14 ล้านเลขหมาย

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ทั้ง 3 ค่ายยังเปิดตัวไอโฟน 5S และ 5C พร้อมกันเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเอไอเอสและดีแทคใช้วิธีเดียวกัน คือ เปิดรับจองซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต และนัดให้ลูกค้าที่ลงทะเบียนมารับเครื่องที่ศูนย์บริการในแต่ละพื้นที่ ก่อนที่จะวางขายอย่างเป็นทางการในวันที่28 ต.ค.นี้ ขณะที่ทรูมูฟ เอช เป็นเจ้าเดียวที่จัดงานเปิดตัวเต็มรูปแบบ ตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีที่ 24 ต.ค. โดยให้ลูกค้ามารอต่อคิวเครื่อง โดยแต่ละค่ายตั้งราคาใกล้เคียงกันเช่น ไอโฟน 5S ของเอไอเอส ราคาเครื่องพร้อมแพ็กเกจ 23,900 บาท, 27,500 บาท และ 30,900 บาท ตามความจุ ส่วนดีแทคอยู่ที่ 23,650 บาท, 27,350 บาท และ 30,950 บาท ส่วนทรูมูฟ เอช ราคา 23,900 บาท, 27,500 บาท และ 30,900 บาท ขณะที่ไอโฟน 5C ทั้ง 3 ค่ายตั้งราคาความจุ 16 GBเท่ากันคือ 19,900 บาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook