ขาย iPad 4, iPad mini ไปซื้อ iPad 5, iPad mini Retina ดีไหม? คุ้มไหม?

ขาย iPad 4, iPad mini ไปซื้อ iPad 5, iPad mini Retina ดีไหม? คุ้มไหม?

ขาย iPad 4, iPad mini ไปซื้อ iPad 5, iPad mini Retina ดีไหม? คุ้มไหม?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ขาย iPad 4, iPad mini ไปซื้อ iPad 5, iPad mini Retina ดีไหม? คุ้มไหม?

ก็เปิดตัวกันไปอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ กับ iPad Air หรือ iPad รุ่นที่ 5 รวมไปถึงยังมี iPad mini Retina ที่ต่อยอดมาจากความสำเร็จของ iPad mini อีกด้วย ซึ่งเชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนให้ความสนใจ iPad รุ่นใหม่นี้ทั้งสองรุ่น เพราะจากการที่ได้รับการปรับปรุ่งเปลี่ยนแปลงพอสมควร ในราคาที่เท่าเดิม ทำให้บางคนอาจจะคิดขาย iPad เครื่องเก่ามาซื้อ iPad ใหม่ก็เป็นไปได้

ในบทความนี้เราก็เลยจะมานำเสนอกันหน่อยว่า ถ้าจะขาย iPad 4, iPad mini ไปซื้อ iPad 5, iPad mini Retina มันจะดีหรือเปล่า ที่ก่อนอื่นเราต้องมาดูกันว่า iPad รุ่นใหม่อย่าง iPad 5, iPad mini Retina มีอะไรที่เหนือกว่าบ้าง ซึ่งเดี๋ยวจะขอแยกกล่าวเป็นรุ่นๆ นะครับ

สิ่งที่ iPad Air เหนือกว่า iPad 4

  • ดีไซน์สวยกว่าเดิม โดยต่อยอดมาจาก iPad mini
  • ตัวเครื่องบางกว่า (7.4 ม.ม.) ทำให้พกพาได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • ตัวเครื่องเบากว่าเดิม (469 กรัม) ทำให้หยิบถือนานๆ ไม่เป็นภาระมาก
  • ตัวเครื่องเล็กกว่าเดิม ด้วยดีไซน์ใหม่ขอบจอด้านข้างแคบลง
  • ประสิทธิภาพแรงกว่าเดิม ด้วยชิปประมวลผล Apple A7
  • กล้องความละเอียดเท่าเดิมแต่มีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
  • ไมโคโฟนติดตั้งมาเป็นแบบคู่ ทำให้คุณภาพดีกว่าเดิม
  • มีสีใหม่ให้เลือกคือ Space Gray (มาแทนสีดำแบบเดิมๆ)
  • ฟรีแอพพลิเคชั่น iPhoto, iMovie, GarageBand, Pages, Number, Keynote

เรียกได้ว่าจากข้อดีของ iPad Air ที่เหนือกว่า iPad 4 รุ่นก่อน มีอยู่หลากหลายข้อด้วยกัน แต่ที่เป็นปัจจัยจริงนอกเหนือจากสเปกที่ดีขึ้นน่าจะเป็นเรื่องของน้ำหนักและ ความบาง เพราะจะทำให้เราใช้งานได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น ถือได้นานมากยอ่ง นอนเล่นได้นานมากยิ่งขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าอาจจะดูไม่ใช่นวัตกรรมอะไรใหม่ๆ แต่ก็เป็นอะไรที่เราสามารถใช้งานได้จริงๆ และเป็นความต้องการที่เราต้องการจริงๆ

 

โดยในส่วนของราคาของ iPad Air ก็คาดการณ์ว่าคงจะมาเท่าเดิมคือเริ่มต้นที่ 16,500 บาท ซึ่งถ้าในตอนนี้ถ้าเราขาย iPad 4 เป็นของมือสองก็จะได้ประมาณ 12,000 บาท ((กรณีสภาพดีของครบ)) เทียบแล้วก็จะเห็นว่าเราจำเป็นต้องเพิ่มส่วนต่างประมาณ 4,500 บาท คิดง่ายๆ ลองนำไปหาร 365 วันก็จะพบว่าตกวันละ 12 บาทเท่านั้น ที่อย่างไรก็ตามตรงนี้แต่ละคนคงต้องคำนวณเองว่าเหมาะสมที่จะอัพเกรดเป็น iPad Air หรือเปล่า แต่โดยส่วนตัวแล้วถ้าเราเป็นคนที่ใช้งาน iPad เป็นประจำอยู่แล้ว ก็คุ้มค่าที่เปลี่ยนเป็น iPad Air นะครับ รับรองว่าอย่างน้อยๆ มือเราจะล้าน้อยลงอย่างแน่นอน 

 สิ่งที่ iPad mini Retina เหนือกว่า iPad mini

  • มาพร้อมหน้าจอเทคโนโลยี Retina Display ที่สวยกว่าเดิม
  • ความละเอียดอยู่ที่ 2048 x 1536 พิกเซล ที่ความหนาแน่นพิกเซล 326 ppi
  • ประสิทธิภาพแรงระดับ iPad Air เพราะใช้ชิป Apple A7 เหมือนกัน
  • สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน 10 ชั่วโมง
  • มีสีใหม่ให้เลือกคือ Space Gray (มาแทนสีดำแบบเดิมๆ)
  • ฟรีแอพพลิเคชั่น iPhoto, iMovie, GarageBand, Pages, Number, Keynote

หลักๆ เลยข้อดีที่ iPad mini Retina เหนือกว่ารุ่นก่อนก็คือ หน้าจอเป็นแบบ Retina Display ที่การันตีได้เลยว่าดีกว่าเดิมแบบรู้สึกได้ เพราะจากส่วนที่เคยใช้มาสำหรับ iPad mini รุ่นแรก ต้องบอกว่าหน้าค่อนข้างแย่ทีเดียว ฉะนั้นในรุ่นใหม่นี้ทาง Apple ก็เลยส่ง iPad mini รุ่นสองที่มาพร้อม Retina Display ตามคาด รวมไปถึงสเปกยังถือว่าจัดเต็ม ด้วยชิปประมวลผลตัวเดียวกับที่ใช้ใน iPad Air และ iPhone 5s ทีเดียว เรียกได้ว่าในเรื่องของวความช้าหรือประตุกทีเกิดขึ้นกับ iPad mini รุ่นเก่า จะไม่เกิดขึ้นกับ iPad mini Retina แน่นอน

สำหรับราคาของ iPad mini Retina ก็ถือว่าสูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย (คาดประมาณ 1,500 บาท) จากเดิมที่ iPad mini รุ่นเก่าขาย 11,500 บาท ก็อาจจะปรับขึ้นมาเป็น 12,900 บาท ซึ่งในตอนนี้ถ้าเราจะขาย iPad mini เป็นมือสองล่ะก็จะอยู่ที่ประมาณ 8,000 – 9,000 บาท (กรณีสภาพดีของครบ) แน่นอนว่าในการเพิ่มส่วนต่าง อาจจำเป็นต้องเพิ่มประมาณ 4,000 – 5,000 บาทเลยทีเดียว แต่ถ้าถามว่าคุ้มค่าไหม คงขึ้นอยู่กับความจำเป็นของแต่ละคน ซึ่งน้อยๆ สมมุติว่าเราขายรุ่นเก่ามาซื้อ iPad mini Retina ก็รับประกันได้ว่า เราจะได้ประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดมากกว่าเดิมแน่นอน จากการที่หน้าจอมีความสวยงามและละเอียดขึ้น อีกทั้งการใช้งานต่างๆ ก็มีความลื่นไหลจากสเปกที่ใหม่ล่าสุด

สรุปง่ายๆ สำหรับคนที่มีความคิดที่จะ iPad 4, iPad mini แล้วไปซื้อ iPad 5 หรือ iPad mini Retina ล่ะก็ ต้องบอกว่าคุ้มค่าและเหมาะสมครับ สำหรับคนที่ใช้งาน iPad เป็นประจำและให้ความสำคัญในเรื่องของประสบการณ์ใช้งานที่ดี ที่สำคัญยังได้แอพพลิเคชั่นที่เคยเสียเงินมาใช้งานฟรีๆ อีกด้วย อย่าง iPhoto, iMovie, GarageBand, Pages, Number, Keynote ซึ่งนับได้ว่าเป็นแอพพลิเคชั่นระดับคุณภาพของทาง Apple ทั้งนั้น

ส่วนใครถ้าคิดว่า iPad ไม่ค่อยได้ใช้งานมากนัก หรือก็ยังพอใช้งานได้อยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องตามกระแสไปซื้อรุ่นใหม่ตามคนอื่นนะครับ เพราะเป็นการจ่ายเงินที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่เลย (ซื้อมาก็ไม่ค่อยจะได้ใช้)

ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook