10 สิ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยี... ที่เราจะทำเฉพาะเมื่ออยู่สูงถึง 33,000 ฟุตจากพื้นโลกเท่านั้น

10 สิ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยี... ที่เราจะทำเฉพาะเมื่ออยู่สูงถึง 33,000 ฟุตจากพื้นโลกเท่านั้น

10 สิ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยี... ที่เราจะทำเฉพาะเมื่ออยู่สูงถึง 33,000 ฟุตจากพื้นโลกเท่านั้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

10 สิ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยี... ที่เราจะทำเฉพาะเมื่ออยู่สูงถึง 33,000 ฟุตจากพื้นโลกเท่านั้น

1. ซื้ออุปกรณ์ไฮเทคกุ๊กกิ๊กที่ไม่จำเป็นรวมเบ็ดเสร็จพอๆ กับค่าตั๋วเครื่องบิน
ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความสูงทำให้สมองขาดอากาศหรืออาการเบื่อสุดขีดกันแน่ เราเอาเงินที่พกติดตัวสำหรับใช้จ่ายในช่วงวันหยุดซื้อนาฬิกา Rotary หนึ่งเรือน เมาส์คอมพิวเตอร์รูปทรงรถหนึ่งอัน โมเดลเครื่องบินจำลองหนึ่งลำและหัวเสียบปลั๊กไฟอเนกประสงค์สำหรับเดินทางต่างประเทศอีกหนึ่งตัว แต่ซวยจริงๆ ที่เราลืมไอ้ตัวหลังสุดไว้ในแท็กซี่ขณะเดินทางไปโรงแรม

2. กลัวสมาร์ทโฟนของเราเอง
เรารู้ว่าจะไม่มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นถ้าเราไม่เปิดใช้โหมด Airplane พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นในรายการ Mythbusters ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินบรรดาพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ออกอาการจริงจังจนเวอร์บรรยายถึงอันตรายเราก็อดไม่ได้ที่จะวิตกกังวลว่าถ้าขืนแอบเล่นเกม New Star Soccer ขณะเครื่องบินเหินขึ้นฟ้านั้นน่าจะไม่ต่างอะไรกับการดึงสลักออกจากระเบิดน้อยหน่า แต่มันก็ไม่ได้หยุดเราจากการแอบเล่นหรอกนะ

3. ประเมินความยาวของหนังดังฮอลลีวูดผิดไป
"ถ้าผมดูหนังสามเรื่องพร้อมกับรับประทานอาหารสองมื้อและแวะเข้าห้องน้ำด้วย แถมด้วยการ์ตูน Simpsons ตอนเก่าสุดๆ อีกเล็กน้อยก็น่าจะให้ผมมีอะไรทำตลอดเส้นทางจนถึง Oz แล้ว" แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้นน่ะสิ ปรากฏว่าหนังปกติไม่ได้ยาวแปดชั่วโมงและหลังจากที่ดู The Inbetweeners Movie เป็นครั้งที่สามเราก็เริ่มเกิดอาการแผลกดทับจากการนั่งแช่นานๆ และตอนนี้ก็เพิ่งจะผ่าน Luton เอง

4. อย่าทำงานเป็นอันขาด
เอาโน้ตบุ๊คติดตัวมาด้วยงั้นเหรอ ก็กะว่าจะอัพเดตตารางเอกสารสำคัญๆ หรืออ่านนวนิยายฆ่าเวลาเร็วๆ ไม่มีทางซะหรอกอย่าฝัน ทีแรกก็ "กะว่าจะดื่มไวน์แดงขวดเล็กสักขวดแล้วเริ่มลุยเลย" กลับกลายเป็น "ขอไวน์แดงสี่ขวดแล้วดู Game of Thrones เก้าชั่วโมงรวด...โดยหยุดพักทุกๆ ห้านาทีเพื่อเช็คดูว่าภาพเครื่องบิน GPS ที่เคลื่อนที่บนจอนั้นคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว" มันยังคงย่ำต๊อกอยู่ที่เดิมนั่นแหละ

5. ตั้ง iPod ให้เล่นเพลงแบบสุ่ม
เราสร้างเพลย์ลิสต์ที่เต็มไปด้วยเพลงจากศิลปินใหม่กำลังมาแรงเพื่ออวดรสนิยมการฟังเพลง ซึ่งจริงๆ แล้วเพลงเหล่านี้เป็นเพลงที่เพื่อนที่เท่และอินเทรนด์กว่าเราแนะนำมาล้วนๆ แต่โชคไม่เข้าข้างซะเลย เราเกลียดทุกเพลง ได้เวลากดข้ามเพลงอย่างบ้าคลั่งไปเรื่อยๆ ทีละเพลงในลิสต์เพลงที่เราเปิดฟังบ่อยที่สุด แน่นอน เพลงเหล่านี้เราซื้อมาหลายทศวรรษที่ผ่านมา เราค้นหาอย่างคลุ้มคลั่ง และลุ้นว่าจะได้เพลงที่ทำให้เราสนใจอยากฟังต่อหลังจากคอรัสท่อนแรกก่อนที่น้ำตาจะซึมนิดๆ ขณะฟัง Three Lions ห้าครั้งรวด หรือว่าเราไม่น่าดื่มไวน์ขวดที่ห้า

6. ฟังรายการสอนฝึกสมาธิ
หลังจากที่เปลี่ยนสถานีเพลงมาแล้วถึงสิบเอ็ดสถานีซึ่งฟังเผินๆ ดูเหมือนว่าแต่ละสถานีจะเล่นเพลง Rockstar โดย Nickelback ในที่สุดเราก็มาหยุดที่คลื่นวิทยุอันดับที่ 12 ซึ่งเป็นเสมือนสถานที่หลบภัยทางจิตใจ นั่นคือรายการเพลงประโลมจิตด้วยเสียงคลื่นทะเลซัดกระทบฝั่งและเสียงทุ้มลึกของผู้ชายคอยบอกเราให้สูดลมหายใจเข้า คล้ายกับสิ่งที่คุณอาจได้ยินในกรณีที่เครื่องบินจะต้องแล่นลงจอดฉุกเฉินในทะเล ล้อเล่นน่า ถ้านั่นเกิดขึ้นจริงละก็เราคงตายในทันทีที่เครื่องบินกระทบผิวน้ำ ‘และทำใจให้ผ่อนคลาย...'

7. นอนหลับโดยไม่ได้ถอดหูฟังออก
หูข้างหนึ่งที่มีหูฟังสอดอยู่กดทับกับพนักพิงศีรษะที่แข็งโป๊กพอๆ กับขนมปังค้างคืน ซึ่งทำให้เราตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกเหมือนกับว่าใครบางคนเอานิ้วโป้งแยงเข้าไปในสมองซีกซ้ายของเราอย่างช้าๆ พร้อมกับส่งเสียงการทำสมาธินานติดต่อกันสามชั่วโมง แล้วอาการภายนอกละเป็นอย่างไร หูข้างหนึ่งบวมเป่งแดงแปร๊ดราวกับบีทรูต

8. ดูหน้าตัวเองโดยใช้กระจก Gorilla Glass
เราไม่ใช่คนเจ้าสำอางค์หรือหลงตัวเอง เราเพียงแต่ต้องการตรวจเช็คให้แน่ใจว่าใบหน้าเราไม่ได้ดูซีดเผือดคล้ายคนตับแข็งตายและมีจุดกระดำกระด่างที่มองเห็นได้แม้จะปกคลุมด้วยหนวดเคราเหมือนอย่างที่กระจกทุกบานบนเครื่องทำให้เราเชื่อเช่นนั้น เอ่อ ดูๆ แล้วเราก็ยังดูหล่อดีอยู่นะ

9. ถ่ายวิดีโอห่วยที่สุดเท่าที่เคยทำ
ใช่แล้ว คลิปก้อนเมฆลอยฟูฟ่องที่ถ่ายผ่านหน้าต่างเครื่องบินหนาๆ เถอะน่า เราเชื่อว่าโลกนี้ยังต้องการคลิปแบบนี้อีกสักคลิป

10. ลดมาตรฐานด้านเทคโนโลยีของตัวเองลง
ในฐานะเซียนแห่งความเรียบง่ายคนหนึ่ง เราตัดสินใจเดินทางแบบเบาสบายและทิ้ง gadget หลายตัวไว้ที่บ้าน ก็สมัยนี้เครื่องบินไม่ต่างอะไรกับศูนย์บันเทิงเริงรมย์กลางอากาศไม่ใช่เหรอ หลังจากเล่นเกม Tetris ที่ยาวนานที่สุดและกราฟิกอืดอาดมากที่สุดซึ่งดูเหมือนซอร์สโค้ดจะเป็นของรัสเซียดั้งเดิม ขณะเดียวกันก็แกล้งทำเป็นประหลาดใจกับข่าวอัพเดตจาก Sky News ที่โผล่ออกมาบนจอเป็นระยะๆ บนเครื่องที่ปราศจากสัญญาณ Wi-Fi เราก็สรุปได้เลยว่าเราเข้าใจผิดเกี่ยวกับเครื่องบิน ไม่เป็นไร แคตตาล็อกสินค้าบนเครื่องอยู่ไหนนะ ขอดูอีกซิ...

ที่มา : T3 [มีนาคม]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook