(พิมพ์) น้อยนิด..(ซวย) มหาศาลบนโลกออนไลน์

(พิมพ์) น้อยนิด..(ซวย) มหาศาลบนโลกออนไลน์

(พิมพ์) น้อยนิด..(ซวย) มหาศาลบนโลกออนไลน์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(พิมพ์) น้อยนิด..(ซวย) มหาศาลบนโลกออนไลน์

ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาป้าได้ยินข่าวเรื่องของดาราชื่อดังคู่หนึ่ง (ดังแค่ไหนคิดดู...ขนาดป้าแก่ๆยังได้ยินเรื่องนี้เข้าหู) โดยเรื่องมีอยู่ว่ามีข้อความทางไลน์ที่ฝ่ายชายด่าแม่ฝ่ายหญิง โผล่ออกมาตามสื่อออนไลน์ต่างๆ จนเป็นประเด็นร้อนซู่ๆซ่าๆให้คนเข้าไปขย้ำขุดคุ้ย.... แต่สิ่งที่ป้าจะมาเล่าให้ฟังในวันนี้คงจะไม่พูดเรื่องว่าใครผิดใครถูก แต่ป้ามีประเด็นที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับความน่าสะพรึงบนโลกออนไลน์

เดี๋ยวนี้ใครๆก็ใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ เช่น Facebook, LINE, Instagram บางคนก็ใช้ร่างจริง บางคนก็อวตารเอา สิ่งที่น่าสนใจ คือ คนเรากล้าที่จะบอกเล่าบรรยายความรู้สึกในใจที่ไม่สามารถแหกปากบอกได้ในชีวิตจริง เช่น บางคนถูกเจ้านายใจร้ายกดขี่ข่มเหงเยี่ยงทาส ชีวิตจริงบอก “ค่ะๆ” ก้มหน้าก้มตาทำตามคำสั่ง พอนอกเวลางาน กลายร่างเป็นขุ่นแม่มาลี ด่าสาปแช่งแบบร้ายกาจลงบนพันธุ์ทิพย์ ให้คนมารุมแล้วปูเสื่อต้มมาม่ากินกัน เป็นต้น

ภาพโดย คุณหมอแมวน้ำ ชะลาล่า


สิ่งที่อยากจะมาเตือนหลานๆของป้า คือ เรื่อง การระบายความโกรธลงบนโลกออนไลน์
   
ตามธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อมีสิ่งที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง, ถูกทำให้ด้อยค่า เช่น การด่าเหยียดหยาม จะทำให้เรามีอารมณ์โกรธ (สมมุติว่าความโกรธ คือ ลูกระเบิด) เมื่อเราเกิดอารมณ์นี้ขึ้นมา (Emotional response) นอกจากความรู้สึกที่เกิดขึ้น “ฉันโกรธแล้วนะ” ร่างกายจะมีการหลั่งสารอะดรีนาลินเพิ่มขึ้น (Physiological response) ทำให้ใจเต้นแรง มือสั่น ปากสั่น หายใจหอบเร็ว ท้องปั่นป่วน

บางคนสามารถรับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังโกรธ แต่บางคนอาจไม่รู้ ตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะถ้าเรามีสติรับรู้ว่าเราโกรธ เราจะพยายามควบคุมตนเองให้ระบายความโกรธไปในทางที่เหมาะสม (Anger management)
เช่น บางคนใช้วิธีเดินแยกตัวออกไปสงบตัวเอง (Time out), บางคนไปชกหมอน (Acting out), บางคนไปเม้าท์มอยกับคนใกล้ชิด (Ventilation) เมื่อได้ระบายความโกรธ (หรือเป็นการขว้างลูกระเบิดออกไป บึ้ม!!!) อารมณ์จะดีขึ้น ร่างกายจะมีการปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ
   
แต่เนื่องจากในปัจจุบันจากการที่เทคโนโลยีมันล้ำมากกก รวดเร็ว ทันใจ แค่คว้าไอโฟนขึ้นมาก็สามารถระบายความโกรธบนโลกออนไลน์ได้ เช่น พิมพ์ด่าคู่อริด้วยถ้อยคำหยาบคายแบบตรงๆ (ไม่ใช้อักษรย่อ) บอกชื่อแซ่อีกฝ่าย กะเอาให้ตายคาที่, บางทีเอาเรื่องลับๆรูปฉาวๆมาโพสต์เพื่อทำให้อีกฝ่ายอับอาย, บางคนกล่าวลอยๆขึ้นมาเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นข้อความแล้วเดือดดาลขึ้นมา ซึ่งการแสดงความโกรธแบบนี้มีจุดประสงค์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแก้แค้น ให้อีกฝ่ายต้องตายตกไปตามกัน, ได้ความสะใจที่อีกฝ่ายต้องเดือดร้อน หรืออีกหลายๆเหตุผล พอได้ระบายแล้วจะรู้สึกฟินๆโล่งๆที่ปล่อยระเบิดทำลายอีกฝ่ายได้สำเร็จ หัวเราะฮ่าๆสะจาย ไม่ก็ตั้งหน้าตั้งตาหาเรื่องมาทำลายอีกฝ่ายต่อ

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้ทำลงไป บางคนกลับมานั่งคิดนอนคิด เห็นว่ามันดูเป็นการกระทำที่ออกจะเด็กน้อย งี่เง่า ขาดวุฒิภาวะ (Immaturity) น่าจะมีอะไรซวยๆตามมาจากการกระทำแบบนี้ เลยเข้าไปตามลบสเตตัสหรือรูปนั้น แต่บางคนต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลเสียที่ตามมาจากการไปปาระเบิดลงบนออนไลน์ เช่น โพสต์ด่าเจ้านายแบบเฉียดๆ บังเอิญมีคนหวังดีเอาไปบอกเจ้านาย ทำให้โดนไล่ออกในเวลาต่อมา หรือไปโพสต์ว่าคนนั้นคนนี้ จนโดนฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทเอา ถ้าเป็นดาราหรือคนที่มีชื่อเสียงไปโพสต์โจมตีอีกฝ่าย ช่วงแรกๆกระแสดี มีลูกหาบเข้ามาช่วยถล่มฝ่ายตรงข้าม ปรากฏว่าครึ่งหลังอาจต้องเงิบไป เพราะมีฝ่ายแอนตี้มาขุดคุ้ยเรื่องฉาวๆเอาคืนบ้าง

จะเห็นได้ว่าความโกรธที่ระบายลงบนโลกออนไลน์นั้น มันกลายเป็นของสาธารณะ (Public) หยุดการแพร่กระจายได้ยาก บางทีตอนแรกเจ้าตัวอาจแค่ต้องการให้อีกฝ่ายแสบๆคันๆ ไม่ได้คิดว่าเรื่องจะบานปลายกลายเป็นเรื่องกระฉ่อน พอเกิดดราม่าขึ้นมาจะแม้จะไปตามลบสเตตัสหรือลบรูปแล้วก็ตาม แต่หากมีคนแค้ปภาพบนหน้าจอที่แสดงความโกรธนั้นแล้วแชร์ออกไปเรื่อยๆ ยังไงความโกรธที่ได้จารึกลงบนโลกออนไลน์มันจะยังคงอยู่ ตามหลอกหลอนเราไปเรื่อยๆ ที่สำคัญการกระทำแบบนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างตรงจุด (เกาไม่ถูกที่คัน) หากแต่จะเพิ่มปมปัญหาให้แก้ยากขึ้นเรื่อยๆ

ตัวอย่างจากกรณีของดาราชายหญิงที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ (ป้าขอวิเคราะห์ตามข่าวที่ออกมา มิได้ลำเอียงหรือเป็นติ่งของฝ่ายใด) จากเริ่มแรกเหมือนจะมีข้อบาดหมางใจ (Conflict)อะไรกันบางอย่าง เรื่องถูกโหมให้โกรธกันรุนแรงมากขึ้นทั้งโดยเจ้าตัวเองและคนรอบข้าง ต่างฝ่ายต่างมีข้อความที่ปลุกปั่นยุงยงให้อีกฝ่ายโกรธ (Hate speech) เมื่อถึงจุดๆหนึ่งฝ่ายชายได้แสดงความโกรธผ่านทางคำพูดที่ลงในไลน์กลุ่ม ซึ่งอาจแค่ต้องการสื่อสารว่า “เราโกรธแม่ของเธอมาก” แต่ไม่ได้หมายความว่าจะกระทำอย่างที่ได้พิมพ์ลงไป (หากใครงงๆว่าเกิดอะไรขึ้น ลอง search หาข้อมูลได้ ป้าไม่ขอเล่ารายละเอียดละกัน มัน sensitive) แต่เมื่อมีคนหนึ่งในกลุ่มทำภาพข้อความนั้นหลุดออกไป จากเดิมที่เป็นเรื่องที่รู้กันไม่กี่คน กลายเป็นเรื่องที่คนไทยเกินล้านรู้เรื่อง ตามประสาของมนุษย์ เมื่อมีเรื่องดราม่าย่อมยิ่งอยากรู้อยากเห็น จนมีการขุดคุ้ยเรื่องราว โยงส่งผลกระทบไปถึงอีกหลายๆคน

ข้อคิดจากเรื่องนี้ คือ หากคุณมีความโกรธ คุณควรจะระบายความโกรธด้วยวิธีที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่นน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะระบายความโกรธลงบนโลกออนไลน์ เพราะสิ่งที่ทำลงไปมันจะกลายเป็นเรื่องสาธารณะ ถ้าคุณอยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาทำให้คุณโกรธ คุณควรคุยกับเขาตรงๆ (I message) ว่ารู้สึกอย่างไร เพราะอะไร (อันนี้ดีสุด เพราะจะได้เคลียร์ให้จบๆ) แต่ถ้าทำไม่ได้ควรพยายามสื่อสารด้วยวิธีอื่นแทน เช่น ผ่านคนกลาง ถ้าท้ายที่สุดแล้วไม่รู้จะจัดการกับความโกรธยังไง

ป้าแก่ๆคนนี้ยินดีให้คำปรึกษานะจ๊ะ...
                                                                   
คุณหมอแมวน้ำชะลาล่า
พ.ญ. ปรานี ปวีณชนา
sealchalala@gmail.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook