เลือกปลั๊กราง ปลั๊กสามตา ให้ใช้งานได้ปลอดภัย เหมาะกับการใช้งาน

เลือกปลั๊กราง ปลั๊กสามตา ให้ใช้งานได้ปลอดภัย เหมาะกับการใช้งาน

เลือกปลั๊กราง ปลั๊กสามตา ให้ใช้งานได้ปลอดภัย เหมาะกับการใช้งาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เลือกปลั๊กราง ปลั๊กสามตา ให้ใช้งานได้ปลอดภัย เหมาะกับการใช้งาน

หลายต่อหลายครั้งที่เรามักจะใส่ใจกับเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือว่า คอมพิวเตอร์ที่ต้องมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีและประหยัดพลังงาน แต่เรามักไม่ค่อยได้ใส่ใจกับแหล่งจ่ายไฟหรือปลั๊กไฟที่นำมาต่อพ่วง โดยเฉพาะกับอุปกรณ์ที่เรียกว่า ปลั๊กราง ที่บางคนยังเลือกใช้แต่ของถูกๆ หรือไม่มีมาตรฐาน จนอาจเกิดความเสียหายต่อคอมพ์หรืออุปกรณ์ตัวโปรดเราได้

เคยสังเกตกันบ้างมั้ยว่า ทำไมบางครั้งจอมอนิเตอร์เสียเร็วจังหรือคอมพิวเตอร์บางครั้งเพาเวอร์ซัพพลาย เสียบ่อยหรือบางทีอาจจะเป็นตู้เย็นหรือพัดลมที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก สิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากแหล่งจ่ายไฟ ทั้งเต้ารับหรือปลั๊กรางสำหรับจ่ายไฟนั่นเอง เพราะมักจะมีอาการไม่ดีให้เราเห็น

อาการแบบไหนที่เรียกว่าไม่ดี
-เสียบปลั๊กแล้วมีประกายไฟให้เห็น
-ไฟดับเป็นระยะ ช่วงเวลาที่ใช้งาน
-มีเสียงดังแปลกๆ เมื่อเสียบปลั๊ก
-เกิดความร้อนสูง เมื่อเอามือจับที่ปลั๊กไฟ
-มีไฟรั่ว เมื่อไปโดนที่ปลั๊กราง
-เต้าเสียบไม่แน่น โยกคลอนตลอดเวลา

เลือกปลั๊กราง อย่างไรดี
การเลือกปลั๊กราง มีข้อสังเกตสำคัญเพียงไม่กี่ข้อเท่านั้น แต่ก็ต้องมองให้ละเอียดถี่ถ้วน เพราะอย่าลืมว่าเราต้องใช้งานไปอีกนาน การลงทุกเพียงครั้งเดียวด้วยงบประมาณที่เราพอจะหามาได้น่าจะเป็นทางออกที่ดี ที่สุด เพราะนอกจากจะใช้งานได้อย่างปลอดภัยแล้ว ก็ยังไม่ต้องซื้อกันบ่อยๆ ให้เปลืองเงิน

1. เลือกปลั๊กที่มีมาตรฐานหรืออย่างน้อยก็ต้องมีมาตรฐาน มอก. กำกับเอาไว้ เพื่อให้มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่ามีการควบคุมคุณภาพการผลิต
2. เลือกปลั๊กรางที่มีวัสดุในการผลิตที่มีคุณภาพ ปัจจุบันมีให้เลือกทั้งพลาสติก PVC และ AVC ซึ่งพลาสติก PVC แม้จะมีความแข็งแรงก็จริง แต่ AVC ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันและยังทนอุณหภูมิได้สูงอีกด้วย
3. มีสวิทช์คุมการทำงานบนปลั๊กราง อย่างน้อยๆ คือ หนึ่งสวิทช์ขึ้นไป บางรุ่นอาจมีมาให้ทุกเต้าเสียบ ก็ถือว่ายิ่งดี เพราะเราสามารถกำหนดให้สวิทช์ตัวใดทำงานก็ได้ ไม่ต้องไหลเข้าระบบทั้งหมดและมีฟิวส์ตัดการทำงาน
4. มีสายที่ยาวเพียงพอต่อความต้องการของเรา ไม่สั่นหรือยาวจนเกินไป

5. ต้องไม่มีเศษเกินส่วนใดของสายไฟ ยื่นออกมาจากตัวราง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดไฟช็อตหรือลัดวงจรได้
6. ดูปริมาณวัตต์หรือแอมป์ของปลั๊กรางให้เหมาะสม เพื่อให้รองรับกระแสไฟจากอุปกรณ์ได้เพียงพอ
7. องค์ประกอบอื่นๆ ให้ดูตามสมควร อย่างเช่น มีพอร์ตสำหรับ USB Charger มาให้หรือช่องเสียบสายโทรศัพท์กันสัญญาณรบกวน
8. อาจจะลองนำปลั๊กที่ใช้อยู่ประจำไปลองเสียบเข้ากับปลั๊กรางที่ต้องการซื้อ ดูว่าหลวมหรือแน่นเกินไปหรือเปล่า
9. บางรุ่นอาจมีระบบ Surge Protection ช่วยป้องกันไฟกระชากได้ในระดับหนึ่ง
10. สายไฟเส้นใหญ่ ให้ข้อดีในเรื่องของความทนทาน ไม่แตกหักพับงอได้ง่าย ทนโหลดของกระแสไฟได้มากขึ้น
11. มีการรับประกันที่มั่นใจได้

ทั้งหมดนี้เป็นข้อสังเกตแบบคร่าวๆ ในการเลือกปลั๊กรางให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ซึ่งความจริงแล้วก็ยังรายละเอียดเบื้องลึกในเรื่องของการวางผังวงจรและวัสดุ ภายในที่มีผลต่อการใช้งาน อย่างไรก็ดีในเบื้องต้นอาจจะไม่ได้หาปลั๊กรางตามเงื่อนไขได้ง่ายนัก แต่ได้บ้างบางส่วนก็ถือว่าใช้งานได้มั่นใจยิ่งขึ้น อย่าลืมว่าอุปกรณ์ที่เราใช้ ซื้อหามาในราคาที่แสนแพง การไปพึ่งปลั๊กรางที่ไม่ได้มาตรฐาน ถือเป็นความเสี่ยงที่ไม่คุ้มค่าเลยจริงๆ

ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook