Uber ฉาวอีกหลังพนักงานก่อคดี "ข่มขืนผู้โดยสาร"

กลับมาเป็นประเด็นดังไปทั่วโลกอีกครั้งสำหรับ Uber หลังจากเกิดคดีพนักงานขับรถข่มขืนผู้โดยสาร และดูเหมือนจะเป็นข่าวที่ร้ายแรงและตรงข้ามกับนโยบายของ Uber แบบสิ้นเชิงในเรื่องของความปลอดภัย

โดยเว็บไซต์  www.buzzfeed.com ได้นำเสนอข่าวของพนักงานขับรถ Uber ทำการข่มขืนผู้โดยสารหญิงวัย 26ปี หลังจากเธอกำลังเดินทางกลับบ้านด้วยบริการอูเบอร์ ในคืนวันเสาร์ที่กรุงนิวเดลี เมืองหลวงประเทศอินเดีย

ตามรายงานเบื้องต้นนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวได้ใน ใช้งาน "แอพอูเบอร์" เพื่อเรียกรถกลับบ้านหลังจากเธอรัปประทานอาหารค่ำกับเพื่อนนอกบ้างเสร็จ เวลาประมาณ 22.00 ขณะเดินทางนั้นเธอได้เผลอหลับไป 

และเมื่อตื่นขึ้นมาตัวเธอเองต้องตกใจสุดขีดเพราะรถ Uber คันดังกล่าวได้จอดอยู่ในมุมมืดและค่อนข้างเปลี่ยว ซึ่งเธออ้างว่าคนขับได้ทำร้ายร่างกายเธอและข่มขืนพร้อมทั้งขู่จะฆ่าให้ตายหากเธอนำเรื่องนี้ไปบอกตำรวจหรือพูดกับใคร!!

จากนั้นคนขับรถ Uber ได้ขับรถพาเธอไปส่งยังบริเวณใกล้ๆ บ้านบริเวณตอนเหนือของกรุงนิวเดลีและได้ไล่เธอลง เธอดึงได้ถ่ายรูปป้ายทะเบียนรถไว้ และเข้าแจ้งความในที่สุด  (จากการตรวจสอบจากแพทย์หญิงได้รุบุว่า หญิงสาวคนดังกล่าวถูกข่มขืนจริง

โดยในขณะนี้นั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้วคือนาย ชีพ กุมาร ยาดาฟ คนขับแท็กซี่วัย 32 ปี พร้อมทั้งเตรียมดำเนินคดีกับทางบริษัท Uber ด้วยเช่นกันในข้อหาไม่ตรวจสอบประวัติของพนักงานขับรถเท็กชี่ให้รอบคอบ และไม่ติดเครื่องหาหาพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียมในตัวรถ

ส่วนทางด้านโฆษกของ Uber ก็ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบพร้อมแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบปัญหาดังกล่าวเช่นกัน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ดูเหมือนจะค่อนข้างส่งผลกระทบโดยตรงเรื่องความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับนโยบายของทางบริษัทที่มีการเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยและเทคโนโลยีชั้นนำมาโดยตลอดนั้นเอง และตอนนี้นั้น Uber ก็ยังเปิดบริการปกติในประเทศต่างๆ แม้จะถูกประกาศว่าเป็นบริการผิดกฎหมายก็ตามรวมทั้งประเทศไทยด้วย

 ซึ่งล่าสุดทางอินเดียก็มีการแบน Uber ไปเรียบร้อยแล้ว งานนี้ทาง Uber คงต้องรับศึกหนักและคงดิ้นกันอีกยกใหญ่ กว่าธุรกิจจะกลับมาเข้าที่อีกครั้ง