สัมภาษณ์พิเศษ "โอภาส เฉิดพันธุ์" แม่ทัพใหญ่งาน TME

     เหลืออีกเพียงไม่กี่วันงาน Thailand Mobile Expo 2015 (ไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป) มหกรรมโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศก็จะเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ  

     โดยงานนี้ถือว่าเป็นงานที่รวมผู้ให้บริการและค่ายมือถือไว้มากที่สุด รวมถึงมีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ เทคโนโลยีใหม่ๆ แก็ดเจ็ต Wearable ต่างๆ ซึ่งแต่ละค่ายขนมาประชันกันเพื่อโชว์ผู้บริโภคชาวไทยให้ได้ร้องว้าว!

     ถ้านับกันเป็นรายปี Thailand Mobile Expo หรือ TME จัดต่อเนื่องกันมายาวนานถึง 8 ปีแล้ว โดยฝีมือของ "โอภาส เฉิดพันธุ์" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด ซึ่งวันนี้ Sanook! Hitech จะพาไปล้วงเคล็ดลับที่ทำให้งาน TME ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักของชาวไทยมาจนถึงทุกวันนี้     

    กว่าจะได้มาเป็น "Thailand Mobile Expo"

    คุณโอ บอกว่า ก่อนหน้านี้เมืองไทยยังไม่มีงานเปิดตัวมือถือที่เชิญคนปกติเข้าไปร่วมงาน ส่วนใหญ่เป็นการเชิญสื่อมวลชน จึงคิดว่าน่าจะจัดงานที่ให้ลูกค้าหรือกลุ่มบุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาทดลองเล่น และได้เห็นสินค้าใหม่จริงๆ ก่อนตัดสินใจชื้อ จึงเกิดเป็นแนวคิดของจัดงาน Thailand Mobile Expo ขึ้นมา..

     "เราเริ่มจากคุยกับแต่ละแบรนด์เพื่อที่จะจัดงานนี้ เข้าไปขายไอเดียว่าเรามาทำงานที่มีโทรศัพท์มือถือเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ พร้อมกันทุกค่ายเลยดีไหม นี่เป็นไอเดียเมื่อประมาณ 8-9 ปี ก่อน โดยเริ่มจากกลุ่มเล็กๆ ที่แบรนด์นำสินค้าของตนมาเปิดตัวในงานและมีการซื้อขายกันได้เลย จนถึงในปัจจุบัน "Thailand Mobile Expo" มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง"

     สำหรับการจัดงานครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 20 แล้ว ช่วงที่ผ่านมาเริ่มจัดปีละครั้ง จนมาเป็น 2-3 ครั้ง ปัจจุบันตั้งไว้ว่าเป็น 3 ครั้งต่อปี คือช่วงต้นปี จัดในเดือนกุมภาพันธ์, กลางปี เดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน และส่งท้ายปลายปี ในเดือนตุลาคม ถือเป็นโค้ดที่รู้กันว่า คือการประชุมเล็กๆ ของคนในวงการมือถือ

     ในปีนี้คุณโออัพเดทเพิ่มเติมกับทีมงานว่า มีโซนใหม่ที่อยากแนะนำคือ "โซนพลาซ่า" ด้วยเหตุผลที่ว่า วงการมือถือโตขึ้นเรื่อยๆ มีแบรนด์ใหม่เข้ามาร่วมงานมากขึ้นเรื่อยๆ  พื้นที่เริ่มจำกัด ทำให้ต้องเปิดโซนใหม่ขึ้นมารองรับแบรนด์ใหม่ๆ ที่เข้ามาร่วมงาน

     อีกโซนคือ "โซนบอลรูม" เปิดมารองรับการเจริญเติบโตของอุปกรณ์ประเภทของเล่นไฮเทค แก็ดเจ็ต อุปกรณ์เสริม รวมไปถึงอุปกณ์สวมใส่อย่าง Wearble Devices ที่ตอนนี้ตลาดในเมืองไทยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และมาแรงตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว โดยคาดว่าจะมีหลายๆ แบรนด์ นำสินค้ามาจำหน่ายเยอะกว่าทุกปีที่ผ่านมา

     แนวโน้มตลาดสมาร์ทโฟนในเมืองไทย

     คุณโอ ยังให้มุมมองแนวโน้ม ตลาดสมาร์ทโฟนของเมืองไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า ทุกปีมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเทรนต์ของช่วงนั้นๆ อย่างเมื่อ 2-3 ปีก่อนเป็นคิวของแท็บเล็ต พอถัดมาอีกปีความนิยมของผู้บริโภคกลับมาให้ความสำคัญเรื่องของขนาดหน้าจอเป็นหลัก

     อาจจะด้วยกระแสของโลกโซเชียลมีเดียเข้าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนไทยมากขึ้น ไม่ว่าเป็น Facebook, twitter หรือโปรแกรมแชทต่างๆ ทำให้กลุ่มของลูกค้าขยายไปยังกลุ่มใหม่ๆ เช่น กลุ่มผู้ใหญ่ที่ยังใช้สมาร์ทโฟนรุ่นเก่า ที่ต้องการเปลี่ยนเครื่องเป็นรุ่นใหม่ โดยเน้นเรื่องขนาดหน้าจอใหญ่เพื่อให้ใช้งานได้ถนัดขึ้น

     ล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้ว นอกจากเน้นขนาดหน้าจอที่ต้องใหญ่ กลุ่มผู้บริโภคยังเน้นเรื่องสเปคที่ต้องแรง เร็ว ดูถึงหน่วยประมวลผล ว่าทำงานด้วยชิปเซ็ตอะไร เพราะมีเรื่องเกมเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว

     มาถึงต้นปี 2015 ยิ่งเห็นได้ชัดเจนว่า ตลาดของสมาร์ทโฟนที่ยังไปได้อีก คือกลุ่มตลาดล่างและกลาง เนื่องจากยังมีลูกเล่นใหม่ๆ ให้เล่นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจอใหญ่ ตัววัสดุที่ดีขึ้น รวมไปถึงเรื่องการดีไซน์ ที่ดูหรูหรามากขึ้น แต่ราคาไม่แพง ทำให้ปีนี้สมาร์ทโฟนที่อยู่ในช่วงของราคาตั้งแต่ 10,000-15,000 ยังคงมาแรงอยู่ จากกำลังซื้อของผู้ใช้ที่ต้องการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนใหม่ 

     ส่วนกลุ่มตลาดระดับบนหรือ กลุ่ม "ไฮเอนด์" นั้นคุณโอบอกว่า ลูกค้ากลุ่มนี้เริ่มอิ่มตัวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปคหรือการดีไชน์ ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ต้องการเปลี่ยนสมาร์ทโฟน แต่กลับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาซื้ออุปกรณ์เสริมอื่นๆ มาใช้งานแทน 

     ส่วนแบรนด์ไหนจะขายดีและมาแรงที่สุด คงบอกตอนนี้ไม่ได้ แต่ถ้าบูธไหนมีสมาร์ทโฟนราคาตั้งแต่ 8,000-15,000 เยอะ เชื่อว่าในงานขายดีแน่อน แต่ถ้าพิเศษสุดคงเป็น  4 แบรนด์ ที่คราวนี้มาแบบเต็มสูบอย่าง Huawei (หัวเหว่ย), Vivo, LG และ Wiko ส่วนแบรนด์ที่แรงต่อเนื่องคงไม่พ้น  Samsung และ Apple ขึ้นอยู่กับว่าแบรนด์ไหนมีการเปิดตัวรุ่นใหม่หรือไม่

     ปิดท้ายด้วยเรื่องภาพรวมของตลาดสมาร์ทโฟนในเมืองไทยตอนนี้ "คุณโอภาส เฉิดพันธุ์" บอกว่าตอนนี้ยังไม่มีอะไรแปลกใหม่มากนัก  เพราะตัวซอฟแวร์ของแบรนด์แต่ยังคงเหมือนเดิม คงต้องรอช่วงกลางปีว่าจะมีแบรนด์ไหนปรับเปลี่ยนเรื่องของการดีไชน์ใหม่บ้าง ถึงจะทำให้ตลาดกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะตอนนี้สมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ที่อยู่ในท้องตลาดเริ่มตันเรื่องการออกแบบมาสักระยะแล้ว เรียกว่าไม่มีอะไรใหม่นั่นเอง

     ถ้าจะให้รอคงเป็นเรื่องของการเปิดตัว "สมาร์ทโฟนที่นำเทคโนโลยีจอโค้งงอ" ซึ่งคุณโอให้ข้อมูลว่าใกล้จะออกมาให้เราได้เห็นกันแล้ว คาดว่าเป็นช่วงปลายปีนี้หรือประมาณต้นปีหน้า ตามข้อมูลตอนนี้เกือบทุกแบรนด์มีหมดแล้ว อยู่ที่ว่าใครจะส่งสินค้าสู่ตลาดก่อนเท่านั้น และน่าจะทำให้ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งอย่างแน่นอน  เพราะยังมีอีกกลุ่มที่อั้นอยู่ อย่างพวกไฮเอนด์ที่ไม่รู้จะเปลี่ยนมือถืออะไรแล้ว ผู้บริโภคกลุ่มนี้รอเรื่องดีไชน์และพร้อมจะจ่าย  

     ทั้งหมดเป็นคำบอกเล่าของคุณโอ ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็น แม่ทัพใหญ่ของงานไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โปเมืองไทยบอกกับเรา  

     สำหรับ  "งานไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป 2015" จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12-15 กุมภาพันธ์ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  หากใครพอมีเวลาก็ไปเดินเที่ยวงานพร้อมทดลองเล่น สมาร์ทโฟน รุ่นใหม่ๆ ได้ในงานครับ