Olympus OMD EM5 MK II รีวิวแบบชาวบ้านๆ

Olympus OMD EM5 MK II รีวิวแบบชาวบ้านๆ

Olympus OMD EM5 MK II รีวิวแบบชาวบ้านๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่หลายๆ คนอยากจับจองเป็นเจ้าของ สำหรับ Olympus OMD EM5 MK II สำหรับทีมงาน Sanoo! Hitech เองก็เช่นกัน ด้วยเคยได้ลองเล่นกล้อง Mirrorless ในตระกูล OMD มาแล้วรู้สึกประทับใจ 

     หากมีโอกาสก็อยากที่จะได้ลองเล่น Olympus OMD EM5 MK II บ้าง? (แอบหวังว่า Olympus Thailand ) จะส่งเครื่องมาให้ลองเล่นนะครับ

     Olympus OM-D E-M5 Mark II กล้อง Mirrorless ดีไซน์วินเทจสวย ต่อยอดจากรุ่นก่อน ให้ความละเอียดสูงถึง 40 ล้านพิกเซล


     กล้อง Mirrorless รุ่นใหม่ โอลิมปัส โอเอ็ม-ดี อี-เอ็ม5 มาร์คทู มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงินและสีดำ โดยเริ่มจำหน่ายแล้วในราคา 1,099 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 35,800 บาท)

     ไหนๆ ก็ยังไม่ได้เครื่องมารีวิว วันนี้ทางทีมงานก็เลย Inbox ไปหา คุณ tamrong สมาชิกเว็บ Pantip เพื่อขออนุญาตนำรีวิวกล้อง Olympus OMD EM5 MK II มาให้อ่านกัน

เริ่มต้นรีวิว Olympus OMD EM5 MK II กันดีกว่ครับ

     ก่อนอื่น ขอขอบคุณ บริษัท Olympus Thailand จำกัด ที่กรุณาให้ยืมกล้อง EM5 MK II พร้อมเลนส์อีก 4 ตัว อันได้แก่ 14-150 II, 12-40mm f2.8 Pro, 17/1.8, 75/1.8 มาทดลองใช้ร่วมกันครับ

     รีวิวนี้ผู้เขียนได้รับการสนับสนุน ให้ยืม กล้อง + เลนส์ จากตัวแทนจำหน่ายเท่านั้นผู้เขียน ไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ และ ค่าเดินทาง ค่าน้ำมัน ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ก็ควักกระเป๋าเองทั้งหมด ทำรีวิวด้วยความอยากรู้อยากลอง เผื่อจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อพี่ๆน้องๆน้าๆทุกท่านครับ ขอบคุณครับ

     รูปทุกรูปในรีวิวนี้ เป็น file JPG ออกมาจากกล้องครับ ย่อด้วยโปรแกรม photoscape และอาจมีการ ย่อ ใส่กรอบ หรือ ปรับแต่งด้วย photoscape เล็กๆน้อยๆ แต่ก็เป็นการปรับแต่งมาอย่างเบาบางที่สุด ถ้าปรับค่าอะไร ก็จะพยายามไม่ให้เกิน 3% ของภาพเดิม เพื่อรักษา ลักษณะไฟล์ภาพ ให้ใกล้เคียงกับภาพที่ออกมาจากกล้องให้มากที่สุดครับ

     หลังจากการเปิดตัว Olympus OMD  EM5  ตัวแรก ในปี 2012  ก็เป็นที่ฮือฮาอย่างมากในบรรดานักเล่นกล้องอ่ะครับ   เพราะว่ามันเป็นกล้องที่แบบว่า  สุดยอดเรโทร หน้าตาย้อนยุคสุดๆ  ครบถ้วนเบ็ดเสร็จ และมาพร้อมกันสั่นเทพ 5 แกน  เลยทำให้เป็นที่พูดถึง และจับตามองอย่างมากเลยอ่ะครับ  

     ผมก็เสียตังค์ให้เค้าไปเหมือนกัน  รีวิว em5 ตัวแรกครับ http://topicstock.pantip.com/camera/topicstock/2012/05/O12121182/O12121182.html

     ปกติสินค้ากล้องดิจิตอล อายุ product life cycle มันสั้น   บางรุ่น  6 เดือน ออกตัวใหม่  บางรุ่นก็ปีกว่า แต่ของ EM5  ตัวแรก นี่ ลากยาวมาได้เกือบๆสองปีกว่าๆอ่ะครับ  ถือว่า เป็นอายุสินค้า ที่ยาวมากๆสำหรับสินค้าประเภทกล้องดิจิตอลอ่ะนะครับ คือว่า ฟังชั่นที่ให้มา  มันก็ดี  จนไม่รู้จะไปปรับไปเปลี่ยนอะไรมากมายได้อ่ะครับ    

     แต่แล้วหลังจากขายกันมาสองปีกว่าๆ  ในที่สุด  ก็ได้เวลาที่จะเปิดตัว  ทายาทอสูร  ออกมาเป็น EM5 รุ่นที่สองครับ หน้าตาปุ่มปรับต่างๆนี่ แบบว่าหล่อหลอมออกมาจาก  DNA  บรรพบุรุษ OM1  เลยครับ คล้ายกันมากๆ ยิ่งใส่เลนส์ OM นี่ ยิ่งเหมือน  OM1 เข้าไปใหญ่ วางอยู่ข้างๆกัน เวลารีบๆนี่ อาจจะหยิบผิดหยิบถูก  สับสนไม่รู้ว่าตัวใหนกล้องฟิล์ม  ตัวใหนกล้องดิจิตอลเลยทีเดียว

     แฟลชที่แถมมาให้ในกล่อง ก็เป็นตัวใหม่  ที่เป็นทรง  retro  เหมือนกันครับ หันขึ้น หันซ้าย หันขวา  ยิงสะท้อนเพดานได้ และความแรงของแฟลชก็เพิ่มจากเดิม เผื่อไว้สะท้อนเพดานลงมาครับ

     แค่เห็นหน้าตานี่ ก็กระชากใจวัยรุ่นแล้วอ่ะครับ เห็นน้องๆที่ชอบตั้งกระทู้ถามหากล้องฟิล์ม OM10 กัน เก็บตังค์ค่าล้างฟิล์มมาสอยตัวนี้เหอะครับเก่งกว่ากันเยอะ  ถ่ายภาพแบบ vintage ได้เหมือนกัน 555

     MK II  ตัวนี้  มีอะไรใหม่ๆมั่ง อย่างแรกเลย ปุ่มเยอะขึ้นครับ ให้น้องคนนึงจับดู  น้องเค้าบอก เฮ้ย  ทำไมปุ่มมันเยอะอย่างนี้วะพี่

     คือว่าชอบมีคนบ่นว่า กล้อง mirrorless ปุ่มน้อย control ไม่ดีเท่า DSLR  เค้าเลยยัดปุ่มมาให้เพียบเลยครับมาเป็นท้าวแสนปมเลย ปุ่มเต็มตัว  

     มี  fn1  fn2  fn3  fn4   ซ้ายขวาหน้าหลัง  และอื่นๆอีกมากมาย รวมๆแล้ว  ปรับตั้งได้เป็นสิบปุ่มอ่ะครับ จะเอาปุ่มใหน ไว้ตรงใหน  ก็สามารถปรับตั้งได้ตามใจเรา

มีปุ่มล๊อค dial  และย้ายสวิทซ์เปิดปิด มาอยู่ด้านบน แบบ EM1  

     ช่องมองภาพ ไฮโซขึ้น ละเอียดขึ้นกว่าเดิม  ใหญ่โตกว้างขวาง สบายตากว่าเดิม แบบว่าปกติผมก็ใช้ EM10  เป็นกล้องประจำตัวอยู่   พอมาส่องช่องมองภาพของ EM5 M2  จนชินนี่ พอกลับไปใช้ EM10 แล้วรู้สึกเลยว่าของเราทำไมมันเล็กจังฟะ    

     และเอาใจสาวก selfie   สาวๆอ่ะครับ  จอพลิกกลับมา  ถ่ายตัวเองได้ครับ

     นอกจากนั้น ก็ปรับปรุงเรื่องความทรหดอดทนของเดิม กันได้ทั้งน้ำกระเด็นใส่   ทั้งกันฝุ่น  ตอนนี้  กันหนาวได้ด้วยอ่ะครับ แบบว่าเอาไปหมกในหิมะนานๆ กล้องก็ไม่น๊อคครับ  

     ภาพจาก olympus นะครับ   ผมหละอยากจะเอาน้ำราดดูเล่นๆแบบนี้เหมือนกัน แต่ไม่กล้าเพราะกล้องไม่ใช่ของผมเป็นของคนอื่น รีวิวก็ทำให้เค้าฟรีๆ  เกิดไปทำกล้องเค้าพังขึ้นมานี่  ได้ควักเนื้อ เถือหนังกันเลยทีเดียวหละ แฮ่ๆ

     และจุดขายอีกอย่างของค่ายนี้ คือ ความเล็กกระทัดรัดอ่ะครับเล๊กเล็ก  กล้องก็ตัวเล็ก เลนส์ก็ตัวเล็ก  ขนาดเลนส์ super tele ของเค้า  ยังตัวเล็กเท่าขวดน้ำเองอ่ะครับ

     กล้อง + เลนส์ชุด เที่ยวทั่วโลก  3 ตัว ยัดใส่กระเป๋าถือเล็กๆได้สบายๆอ่ะครับ   เวลาใช้ ก็เบาๆสบายๆครับ 

     อ้า....ลืมเปรียบเทียบขนาดตัวกับกล้องต่างๆ เทียบกับ EM10  นี่ ไล่เลี่ยกันมากครับแกล้งใส่เลนส์ใหญ่ ให้ EM10  ดูใหญ่กว่า  

เทียบกับ A7 MK II A7  หนักกว่าแน่นอน เพราะเป็นกล้อง FF  ครับ 

     เรื่องบอดี้ว่ากันไปจบแล้วการที่เปลี่ยนจาก mark I  มา  mark II  นี่มันมีฟังชั่นอะไรเพิ่มขึ้นมามั่ง เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังอ่ะครับ ยืมเค้ามาราวๆ 10 วัน  ตั้งแต่วันวาเลนไทน์ จนคืนกล้องเค้าไปเมื่อวันก่อนนี่  ยังเล่นไม่ครบเลยอ่ะครับ ลูกเล่นมันเยอะเวอร์ๆ เล่นกันไม่หมดไม่สิ้น  

อย่างแรกเรื่องกันสั่นในกล้องเขาเคลมว่าดีกว่าเดิมขึ้นไปอีกระดับครับ  ผมว่าของเดิม  มันก็แสนจะดีอยู่แล้วอ่ะครับ  เป็นกล้องที่ถ่ายง่ายชะมัด  

ใครๆ ที่เคยใช้ จะรู้ว่ากันสั่น 5 แกน  ในกล้อง olympus นี่ เป็นกันสั่นที่เจ๋งอันดับต้นๆของกล้อง mirrorless ทั้งหลายทั้งปวง  พอได้ลองกันสั่นอันใหม่นี่  ต้องยอมรับ ว่ามันเก่งขึ้นไปอีกระดับครับ  

ตัวเดิมใช้กับเลนส์  14mm  ไม่ใช้ขาตั้งกล้อง กลั้นหายใจ ขมิบตูด  แขนชิดลำตัว  ถ่ายได้ราวๆ  1/2  วินาที อ่ะครับ  แต่ตัวใหม่นี่  คนๆเดิมๆ มือๆเดิม  ถ่ายท่าเดิม ได้ราวๆ 1 วินาที ครับ ส่วนถ้าถ่ายสบายๆไม่ต้องเกร็งเท่าเดิมนี่ 1/2 ,1/4mวินาทีนี่ ได้มาง่ายๆเลยครับ    

วันแรกที่ได้กล้องมาลองเอาไปถ่ายวัด "อินทขิล" สะดือเมืองเชียงใหม่ครับ ถ่ายแบบไม่ได้เกร็งมากกลั้นหายใจเฮือกนึงแล้วกดเลย  

ส่วนรูปนี้เกร็งๆ หน่อยครับกลั้นหายใจยาวๆ ได้ไฟรถ ลากไป  1 วินาที  

     วันต่อๆมา  ยังไม่หายข้องใจเรื่องกันสั่น  เลยไปลองดูอีกรอบครับ วัดปงสนุก  จังหวัดลำปาง   คุกเข่าถ่าย  ในอุโบสถ ที่แสงน้อยๆครับ 0.625 วินาที นี่   ถ่ายสัก 10 รูป ได้ภาพนิ่งแทบทุกรูปครับ

ความไวชัตเตอร์   1 วินาที นี่ได้ประมาณครึ่งๆครับ  ถ่าย 10 ได้ 5 

     1.6 วินาทีได้มั่งไม่ได้มั่งถ่าย 10 รูป   ได้รูปชัดราวๆ 2-3 รูป ครับ ที่ไม่ชัดภาพรวมก็ยังชัด แต่พอซูมขยายออกมาแล้วมันก็สั่นๆเบลอนิดๆ 

สนับสนุนเนื้อหา: tamrong

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook