พาเที่ยวจงกวนชุนย่าน MBK แห่งปักกิ่ง

     วันนี้ถือเป็นวันพิเศษเพราะมีคนรู้จักซึ่งเป็นคนไทยมาเรียนที่ปักกิ่งจะพา เราทัวร์แบบน้ำจิ้มๆ ไปก่อน

     เริ่มจากเราต้องเดินออกหลังบริษัทแล้วไปขึ้นรถไฟสถานี Xi'er qi เพื่อไปยังย่าน zhonggcuancun คล้ายๆ กับย่านพันทิพ MBK บ้านเรานั่นแหละครับ ช่วงเวลาเร่งรีบก็จะเป็นช่วง 6โมงเย็น-2 ทุ่ม คล้ายๆกับบ้านเรา

     แต่ก่อนช่วงโอลิมปิกจีนเป็นเจ้าภาพเคยสนับสนุนประชาชนให้ใช้รถไฟให้มาก ขึ้นด้วยการปรับค่าโดยสายเป็น 2 หยวนตลอดสาย แต่พึ่งมาปรับราคาเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเป็นตามระยะทางเริ่มต้นที่ 3 หยวน และตั๋วใบนี้ที่เราซื้อก็ราคา 5 หยวน

     ตั๋วโดยสายเป็นแบบเที่ยวเดียว วิธีใช้ก็คล้ายคลึงกับ BTS บ้านเรามากแต่เส้นทางการเปลี่ยนสายจะซับซ้อนกว่า คุณจะต้องเปลี่ยนสายแทบจะทุกๆ 2-3 สถานี

     ส่วนเจ้าหน้าตาของรถไฟก็มีทั้งแบบใต้ดินและลอยฟ้า ความสูงของรถไฟลอยฟ้าก็แค่ตึกสองชั้นไม่ได้สูงหลายชั้นเหมือน BTS บ้านเรานะครับ

     ระหว่างช่วงเดินทางในรถไฟฟ้ามีสิ่งที่เซอร์ไพรส์มาก นั่นก็คือโฆษณาโดยใช้วิธีติดจอทีวีเรียงห่างกันหลายๆจอนอกตัวรถไฟ พอรถไฟวิ่งด้วยความเร็วเราก็จะเห็นจอโฆษณาเป็นอันเดียวกันแบบพอดี ซึ่งตอนแรกตกใจนึกว่าเขาใช้เทคโนโลยีโฮโลแกรม เพราะมันรู้สึกได้ว่าจอภาพมันลอยอยู่ระหว่างกระจกจริงๆ

     พอถึงที่หมาย เห็นได้ชัดว่าแถวนี้มีร้านขายอุปกรณ์ไอทีมากมาย ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวแล้วพูดภาษาจีนไม่ได้แนะ นำว่าอย่ามาโซนนี้จะดีกว่า เพราะอาจจะได้ของราคาแพงเกินจริง แต่โชคดีที่เรามีไกด์พามา เพราะเราต้องมาตระเวนหาซื้อ SD card เพื่อไปใช้กับกล้อง DSLR

     ห้างตรงนี้จะค่อนข้างเก่า ซึ่ง ณ เวลาที่เรามาถึงบันไดเลื่อนก็ได้ปิดไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนมากราคาสินค้าก็ไล่เลี่ยกับบ้านเรานั่นแหละครับ

     สรุปแล้วเราได้ SD card 16 GB ในราคา 50 หยวน ไม่รู้ว่าเราซื้อได้ถูกหรือแพง แต่ตอนแรกคนขายบอกราคา 60 หยวน (ต่อราคากันสนุกสนานเชียวหละ)

     คิดว่าก็ใกล้เวลาอาหารเย็นของพวกเราแล้ว ตอนนี้เวลาประมาณ 19.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ยังคงสว่างอยู่เลย เราเลือกจะขึ้นรถเมล์ไปย่านเต้าหัว ซึ่งเป็นย่าน Korea town แล้วก็ยังถือเป็น Thai town อีกด้วย เพื่อจะลองหาอาหารเกาหลีทานดูบ้าง ก็เลยบอกเพื่อนไกด์ว่าให้พาไปด้วยวิธีรถเมล์ เพราะอยากลองใช้บริการในทุกระบบขนส่งของบ้านเขา

• ถ้าขึ้นรถเมล์จะเสียค่าโดยสาร 2 หยวนตลอดสาย โดยรถเมล์ที่นี่จะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ แบบตอนเดียวและหลายตอน
• ถ้าเป็นรถแบบตอนเดียวประตูทางขึ้นและที่จ่ายเงินจะอยู่ข้างคนขับทางด้าน หน้า คุณสามารถเลือกจ่ายได้ทั้งแบบเงินสดหรือบัตร (คล้ายบัตรโดยสารที่บ้านเราแต่ที่นี่สามารถใช้ได้ทั้งรถไฟและรถเมล์) ถ้าจ่ายด้วยบัตรโดยสารจะลดราคาเหลือแค่ 1 หยวนเท่านั้น ถ้าหากคุณอยากได้บัตรต้องเสียค่ามัดจำ 20 หยวน

     รถเมล์ที่เราขึ้นนั้นเป็นแบบหลายตอน มีตู้เก็บค่าโดยสารแบ่งเป็นหลายๆช่วงตามจำนวนประตูของรถเมล์ ถ้าคุณใช้เงินสดก็แค่เดินเอาเงินมาหยอดลงที่กล่องซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่นั่ง เฝ้าอยู่ ไม่ได้เดินเก็บแบบบ้านเรานะ

     หลังจากเราจ่ายเงินเป็นที่เรียบร้อย ก็ฉีกตั๋วโดยสารเพื่อเว็บไว้เป็นหลักฐาน หรือเป็นที่ระลึกก็ย่อมได้

     ถ้าจะถามว่าเคยมีคนเนียนไม่จ่ายเงินค่าโดยสารไหม พี่บอส (ไกด์ของเรา) บอกว่าไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน เพราะระบบขนส่งทั้งหมดเป็นของรัฐบาลหมายความว่ารายได้จะเข้ารัฐทั้งหมด ถ้าคุณจะเนียนละก็... จะมีคนโวยวายคุณในตอนนั้นแน่ๆ แล้วก็คงจะถูกดำเนินคดีเสียค่าปรับไปเยอะเอาการ เรียกว่าได้ไม่คุ้มเสียกับเงินแค่ 2 หยวนเลยนะ

     ป้ายรถเมล์ที่เราต้องลงอยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยชิงหัว มหาวิทยาลัยอันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งบริเวณมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้กว้างใหญ่อะไรนัก มีตึกเรียนจำนวนหนึ่ง จากนั้นแล้วก็เดินต่อไปยังซอยของตึกบริเวณ Korea Town

     ร้านนี้มีชื่อว่า Liumang ขึ้นชื่อเรื่องไก่ทอดมากๆ ร้านนี้มีไวไฟบริการด้วยซึ่งพี่บอสบอกว่า ถ้าหากไปร้านอาหารหรือเจอฟรีไวไฟที่ไหน รหัสไวไฟมักจะเป็น 12345678 หรือไม่ก็ 88888888 ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่ชอบตั้งรหัสประมาณนี้เพราะเลขเป็น 8 เป็นเลขนำโชคของคนจีน

     เริ่มด้วยเมนูแรกเป็นเนื้อผัดพริกหวานกับเส้นอุด้ง (มั้ง)

     เมนูที่สองเป็นไก่ทอด ดูจากหน้าตาในตอนแรกคิดว่าเป็น KFC ซะอีก หน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ แตกต่างกันมีซอสสีแดงราดมาด้วย ทานคู่กับสลัดผักเพื่อตัดความเลี่ยน ซึ่งเมนูนี้อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ ไก่ทอดร้อนๆ เนื้อแน่นเต็มคำราดด้วยซอสรสชาติหวานเค็มเผ็ดกลมกล่อมกำลังดี อร่อยสุดๆจนลืมไก่ทอดบ้านเราไปเลยหละครับคุณชาคริต...

     เมนูต่อมาเป็นเนื้อผัดซอสและผัก ลักษณะคล้ายๆกับพริกเผาบ้านเรา รสชาติออกหวาน มีความเผ็ดนิดหน่อย รสชาติถือว่าจัดจ้านใช้ได้เลย เนื้อก็ผัดได้นุ่มกำลังดี

     เมนูสุดท้ายเป็น หม้อไฟลูกชิ้นปลาและผักนานาชนิด หม้อ (หรือถาดกันนะ) ใบใหญ่เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมมีเตาแก๊สให้ด้วยตลอดการทาน วัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นลูกชิ้นปลาและอาหารทะเล มาในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ปลาหมึก หอยตลับ หอยแมลงภู่ ลูกชิ้นปลาทั้งกลม แบน รี แผ่น อยู่ในน้ำซุปปลาแห้ง ทานแล้วรู้สึกสดชื่นหอมกลิ่นปลาแห้งอ่อนๆ

     เสร็จจากทานอาหารเกาหลีแล้ว ก็ออกมาเดินย่อยก่อนกลับ พี่บอสพาเราเดินผ่านร้านค้าตอนกลางคืนในย่านนี้ ที่นี่แสงสียามค่ำคืนก็วิบวับใช้ได้ดลยทีเดียว ให้ความรู้สึกเหมือนเดินเล่นแถวเกาหลีเลยหละ

     และแล้วทริปวันนี้ของเราจบลง แยกย้ายกันกลับเพราะใกล้จะสี่ทุ่มแล้ว และทุกคนก็เหนื่อยมากกับการผจญภัยในวันแรก

     สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณพี่บอสมากๆครับ ถ้ามีโอกาสจะขอให้พี่บอสเป็นไกด์พาพวกเราทัวร์ในช่วงสุดสัปดาห์อีกที ไจ้เจี้ยน! (บ๊ายบาย)

ขอบคุณที่มา: ywc.in.th