ลองจับเล่น(ย้อนวัย!!) Nokia 3310 ทนตัวพ่อ ลูกหลานยังทำไม่ได้เลย

ลองจับเล่น(ย้อนวัย!!) Nokia 3310 ทนตัวพ่อ ลูกหลานยังทำไม่ได้เลย

ลองจับเล่น(ย้อนวัย!!) Nokia 3310 ทนตัวพ่อ ลูกหลานยังทำไม่ได้เลย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

        สำหรับการออกแบบเครื่องนั้น สืบเนื่องจากช่วงปีที่ออกนั้นคือปี 2000 ยุคนั้น โนเกียได้ใช้ปุ่มกดเพียงปุ่มเดียวเรียกว่า Navi Key อธิบายง่าย ๆ สำหรับหลายคนที่จะงงไปแล้ว คือปุ่มนี้ทำหน้าที่ทุกอย่าง เว้นแต่หน้าที่เดียวคือ Cancel เท่านั้นแหล่ะ

        นอกจากนี้การจัดวางปุ่มนั้นก็ทำง่าย ๆ เรียบ ๆ ตามสไตล์เครื่องออกช่วงปี 2000 ส่วนหน้าจอนั้นจะเป็น Dot Matix ที่มีขนาดไม่ใหญ่ แต่เวลาใช้งานนั้น ถือว่าพอสมควร ถ้าเปิดภาษาไทยแล้ว อันนี้ถือว่าใหญ่มากเลยล่ะ


        อีกจุดเด่นของการออกแบบ ๆ นี้คือหน้ากากที่สามารถถอดเปลี่ยนได้และภายนั้นเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ความทนทาน เอาไปเลย 5 ดาว ตกน้ำไหลและพังได้ แต่ถ้าเอามาเป่าแห้งเช็คนิดหน่อย ใช้ได้เลย ตกไฟ ไหม้ แต่ตกพื้น ไม่พัง


        นอกจากนี้ด้านข้างของเครื่องนั้น เรียบ ยกเว้นด้านขวาที่จะมีลำโพงเสียงเรียกเข้านั้นเอง

       ส่วนฟีเจอร์สนุก ๆ ของเครื่อง ต้องเข้าใจว่ายุคปี 2000 ให้เกมดังอย่าง Snake II, Pairs II, Space Impact, Bantumi จัดมาขนาดนั้นก็ถือว่าคลายเครียดได้ระดับหนึ่งนอกนั้นก็มีเหมือนมือถือทั่ว ไปทั้งการตั้งล็อคปุ่มเอง จัดการการโทร และการตั้งเวลาปลุก แต่นัดหมายไม่มีนะ และจะนับได้ว่า เป็นเครื่องรุ่นแรกที่เป็นระบบ Dual Band ที่ปลดการปิดกั้นการใส่ซิมค่ายอื่นได้ด้วย


        ส่วนฟีเจอร์เรื่องโทรนั้นยกให้ว่ามันทำหน้าที่ของมันได้สมบูรณ์จน SmartPhone รุ่นหลานต้องมองกันเลยทีเดียว


        สนนราคาค่าตัวเมื่อก่อนเริ่มต้นนั้น 7,900 สมัยที่ผมได้มาเป็นครั้งแรก 3,900 และปัจจุบัน เหลือ 550 ซึ่งเท่ากับว่า เมื่อเทียบกับ Lumia920 ที่เป็นตัวธงของตอนนี้ ราคา 21,500 เท่ากับจ่ายเงินไม่ถึง 1 ใน 3 ก็ได้มาแล้ว เพียงแต่ว่า สภาพดีนั้นก็หาหน่อยนะ ยากเหมือนกันเลย


        เอาล่ะขอจบรีวิวสุด Classic ไว้เท่านี้ ก็ได้แต่หวังว่า เราคงจะได้คิดถึงว่าครั้งหนึ่ง 3310 เคยฮิตเกลื่อนเมืองก็แล้วกัน สำหรับใครถืออยู่ก็ขอให้ใช้ดี ๆ ทน ๆ ตามความแกร่งที่สมัย Nokia ยัง Made in Finland กันต่อไปครับ

ที่มา: bigglive.wordpress.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook