[รีวิว] Vivo Y35 เปลี่ยนนิด ๆ แต่ประทับใจ

ถ้าพูดถึง Vivo ตอนนี้หลายคนบอกว่าคงต้องนึกถึงรุ่น X5 Pro หรือไม่ก็ X6 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่ลุ้นว่าจะเปิดตัวเมื่อไหร่ แต่ก่อนหน้านี้ Vivo ได้ส่งกลุ่มรุ่น Y ออกมา 2 รุ่นที่มีสเปคและรายละเอียดใกล้เคียงกันอย่าง Vivo Y35 และ Vivo Y37 ครั้งนี้จะเป็นการรีวิวคู่ไปทีเดียวเลยมาดูว่าความแตกต่างจะมีอะไรบ้าง

รายละเอียดของ Vivo Y35

- ขนาดตัวเครื่อง 143.3 x 71 x 6.8มม.

- สีตัวเครื่อง สีขาว + หลังสีทอง

- น้ำหนัก 153 กรัม

- CPU Qualcomm Snapdragon 410 Quad Core 1.2GHz

- GPU Adreno 306

- RAM 2GB

- ความจุในตัว 16 GB

- เพิ่มได้ด้วย Micro SD 128GB

- 2G 850/900/1800/1900

- 3G 850 / 900 / 1900 / 2100  HSDPA 42.2 Mbps

- 4G LTE 850/900/1800/2100 รองรับ Cat 4 150/50 Mbps

- WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth V4.0

- หน้าจอ 5  นิ้ว IPS LCD ความละเอียด 1280x720

- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล | กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, Auto Focus + LED Flash

- แบตเตอรี่ 2300 mAh

- ระบบปฏิบัติการ FunTouch OS 2.1 พื้นฐาน Android 5.0.2

รูปร่าง

    เริ่มจากด้านหน้าของเครื่องจะมีหน้าจอขนาด 5 นิ้วแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 ถือว่าความละเอียดมาตรฐานสำหรับจอขนาดนี้ ให้ความคมชัดดี ขอบของหน้าจอเหลือกำลังดีไม่มากหรือน้อยเกินไป

    ส่วนบนมีกล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซล พร้อมกับหูฟัง เซนเซอร์ และไฟแจ้งเตือน พร้อมกับเอกลักษณ์คือ โลโก้ Vivo

    ส่วนล่างมีปุ่มกด Option, Home และ Back แบบ Touch

    ด้านข้างซ้าย ยังคงเป็นส่วนของเฟรมโลหะผสมกับบางชิ้นเป็นพลาสติก ทำให้มันดูดีมาก ส่วนประกอบของฝั่งซ้ายคือ ช่องใส่ซิมแบบ Micro SIM 2 ช่อง

    ด้านข้างขวา มีปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียง

    ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร พร้อมกับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และช่องใส่การ์ด Micro SD

    ด้านล่างมีช่องเสียบ Micro USB และไมโครโฟนสนทนา ออกแบบเรียบ

    ด้านหลัง มาพร้อมกล้องหลังขนาด 13 ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash และส่วนล่างมีลำโพงเครื่อง จะเป็นสีขาว ส่วนกลางเครื่องที่เป็นสีทองจะมีโลโก้ของ Vivo วางแบบเด่นชัดพอสมควร ภาพรวมของตัวเครื่องนั้น บางจับได้ถนัดดีและสมบูรณ์ในเรื่องการจับต้องได้ง่ายอีกด้วย แต่ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงคือ สีของเครื่องยังคงมีสีเดียวเท่านั้นคือ สีทอง

ประสิทธิภาพของ Vivo Y35

    จากที่ได้ลองวัดประสิทธิภาพกับหลายโปรแกรมทดสอบพบว่า Antutu ทำได้ที่ 23,968 Nenamark 2 52.9 FPS รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด เรียกได้ว่าเกาะกลุ่มในรุ่นที่ใช้ CPU แบบนี้ ซึ่งการใช้งานจริงถือว่าคล่องตัวและลื่นไหลได้ดีทั้งการเล่นเกมที่ไม่ได้ใช้งานกราฟฟิกที่หนักมาก แต่ที่จริงก็แอบเป็นห่วงที่ความบางของเครื่องที่มากอยู่ทำให้ความร้อนที่เกิดมีอยู่งบ้าง

     แบตเตอรี่ขนาด 2300 mAh แม้จะดูน้อยสำหรับรูปทรงมือถือแบบนี้ แต่เมื่อใช้งานจริงอยู่ได้ทั้งวันได้สบาย แต่ถ้าเล่นเกมเยอะหรือมีเหตุการณ์ที่ต้องใช้งานหน้าจอเยอะ จะอยู่ได้แค่เกือบ 6 ชั่วโมงเท่านั้น อย่างไรก็ดี Vivo ก็ให้ระบบจัดการพลังงานของมือถือรุ่นนี้มาค่อนข้างดีพอสมควรเชียวล่ะ

คุณสมบัติลูกเล่นที่น่าสนใจ

     Vivo Y35 ยังคงใช้ Funtouch OS ซึ่งมีพื้นฐานจาก Android 5.1 อยู่ อาจจะดูแปลกตาเพราะว่า Notification จะอยู่ด้านบน แต่การตั้งค่านั้นต้องลากจากด้านล่างขึ้นบน ซึ่งดูแปลกแต่ก็เป็นระเบียบดี และสามารถเปลี่ยน Theme ได้น่าสนใจได้เลยครับ

     ส่วนลูกเล่นที่เหลือนั้นยังคงมีเครื่องเล่นเพลงผ่าน I Music ที่สามารถปรับระบบเสียงและรูปแบบของเสียงได้มือโปร พร้อมกับ FM Radio, เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, เครื่องคิดเลข เข็มทิศและ ไฟฉาย เป็นต้น

     กล้องหลังของ Vivo Y35 ให้มีขนาด 13 ล้านพิกเซลพร้อมกับระบบ Auto Focus และ LED Flash 1 ดวง ลูกเล่นของกล้อง Vivo นั้นให้มาอาจจะดูไม่มาก แต่มี Manual Mode ที่เรียกได้ว่ากินขาดแทบทุกตัวในระดับเดียวกัน การถ่ายภาพออกมาถือว่าใช้ได้ดี แต่ยังไม่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการโฟกัสที่ยังมีการรออยู่สักระยะหนึ่ง การถ่ายวีดีโอทำได้ความละเอียดสูงสุด Full HD

      ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และมี Beauty Mode ตามสมัยนิยม ความคมชัดใกล้เคียงกับ OPPO เพื่อนบ้านเดียวกันนั่นแหล่ะ

(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Vivo Y35)

สรุปในภาพรวมของ Vivo Y35

จัดว่าเป็นมือถือระดับกลางและมีความโดดเด่นในเรื่องของรูปร่างที่บาง เบาและใช้งานได้ดี ขุมพลังอาจจะต้องทำใจหน่อยว่าอาจจะไม่ได้แรงสะใจแต่ใช้งานได้ดีพอสมควร ลูกเล่นยังไม่โดดเด่นแต่ที่รู้คือสีของมันนั้นแปลกตากว่า Vivo รุ่นอื่น นับว่าเป็นอีกความกล้าของรุ่นนี้ที่ได้ทำออกมา

แต่ทว่าราคาของมันอยู่ที่ 8,900 บาท ถือว่าอยู่กลางๆ  และเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่ใช้สเปคใกล้กันอย่าง LG AKA อาจจะได้เปรียบที่ RAM และความละเอียดกล้องที่มากกว่า หรือจะเป็น OPPO Mirror 5 จะดีกว่าที่หน้าจอแต่ต้องยอมรับว่า Vivo Y35 ราคาจะโดดกว่า 2 รุ่นนี้ ถ้าคิดว่ามือถือสีกาแฟตัวนี้หอมและมีอะไรที่ดีอยู่ในเรื่องความครอบ ROM ลื่น ๆ คงจะต้องจบกับ Y35 รุ่นนี้ แต่ถ้าคิดว่าแรงกว่านี้จ่ายเพิ่มสักหน่อย รอดูรีวิว Vivo Y37 อีกไม่นานนี้น่าจะดีกว่าครับ

ข้อดี

- ตัวเครื่องสีสวย(ตรงกลางเป็นสีทอง)

- ลูกเล่นกล้องเด่นใช้ได้

- คุณภาพเสียงไม่ทำให้ผิดหวัง

- ROM ของเครื่องไวมาก

ข้อควรปรับปรุง

- ลูกเล่นไม่เด่น

- ราคาค่อนข้างสูง

- มีให้เลือกสีเดียวคือ สีทอง