[รีวิว] Meizu M2 ย่อร่างแต่ไม่ย่อประสิทธิภาพ

    หลังจากที่เคยเสนอรีวิวของ Meizu M2 Note ไปสักพักหนึ่งแล้ว ก็มีความรู้สึกว่า ทำไมเครื่องดูใหญ่ไปสักหน่อย อาจจะยังไม่เหมาะกับใครหลาย ๆ คนสักเท่าไหร่ เอาล่ะเมื่อได้ยินแบบนี้ Meizu ไม่รอช้า ออกรุ่นใหม่ตามมาที่เหมือนกับ M2 Note แต่เล็กกว่าอย่าง Meizu M2 เครื่องนี้

รายละเอียดของ Meizu M2

- ขนาดตัวเครื่อง 140.1 x 68.9 x 8.7 มิลลิเมตร

- สีตัวเครื่องในไทยจะมีให้เลือกสีเทา สีฟ้า และ สีขาว

- น้ำหนัก 131 กรัม

- CPU Mediatek MT6753 Octa Core 1.3GHz

- GPU Mali T720

- RAM 2 GB

- ความจุในตัว 16 GB

- เพิ่มได้ด้วย Micro SD 128 GB

- 3G 900 / 1900 / 2100 HSDPA 42.2 Mbps

- 4G LTE 1800/2100/2600 Cat 4 150/50

- WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth V4.0

- หน้าจอ 5 นิ้ว IGZO LCD ความละเอียด 1280x720

- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล | กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, Auto Focus, LED Flash คู่

- แบตเตอรี่ 2500  mAh

- ระบบปฏิบัติการ Flyme OS 4.5 พื้นฐาน Android 5.1

รูปร่าง Meizu M2 Note

    หน้าจอของ Meizu M2 นั้นเลือกใช้ของ Sharp แบบ IGZO LCD ลดขนาดจาก 5.5 นิ้วเหลือ 5 นิ้ว ความละเอียดก็ลดลงเหลือ 1280x720 เท่านั้น ข้อดียังคงเป็นเรื่องหน้าจอที่คมชัดและไม่ต้องห่วงเรื่องแสงที่สว่างไม่พอ

    ส่วนบนมีกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมกับ หูฟังและไฟแจ้งเตือนแบบ LED

    ส่วนล่างมีปุ่มสั่งงานที่เป็นเอกลักษณ์ในชื่อ M Back ทำงานง่ายคือ แตะเท่ากับกลับ 1 หน้า และกด เท่ากับกลับหน้าหลัก

    ด้านข้างซ้าย มีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano Sim 2 ช่อง และช่องหนึ่งสามารถเปลี่ยนเป็น Micro SD ได้

    ด้านข้างขวา มีปุ่มปรับระดับเสียงและ Power ตำแหน่งจะสลับกับ M2 Note แค่จุดนี้

    ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

    ด้านล่างมีช่องเสียบ Micro USB พร้อมกับไมโครโฟนและลำโพงเครื่อง การวางเหมือน iPhone เลย

    ด้านหลังจะมีกล้องหล้งความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับ Auto Focus และ LED Flash ดวงเดียว และมี Logo Meizu แบบชัดเจนอยู่ด้านล่าง แค่นี้ภาพรวมก็ทำให้นึกถึง Meizu M2 Note ย่อส่วนลงมา แค่ลดหน้าจอจัดการวางปุ่มใหม่และยังคงใช้วัสดุเหมือนเดิม ทำให้มันดูไม่แตกต่างกันมากนัก

ประสิทธิภาพของ Meizu M2

    จากที่ได้ลองวัดด้วย Antutu Benchmark คะแนนจะได้สูงสุดแถว 31635 และ Nenamark 2 วัดการตอบสนองหน้าจอที่ 56.5 FPS และรองรับมัลติทัช 9 จุด เรียกได้ว่าคะแนนไม่ได้แตกต่างจากมือถือในระดับเดียวกันสักเท่าไหร่ แต่ที่เห็นนี้ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือการใช้งานทั่วไปก็ดี ถือว่านี่ก็เป็นอีกมือถือที่คนระดับที่ไม่ได้มีเงินมากนักน่าจะจับจองเป็นที่สุด

     ส่วนแบตเตอร์รี่นั้น ให้มา 2500 mAh แม้จะลดลงจาก M2 Note พอสมควรแต่ก็ได้สิ่งที่ดีคืนมาคือระบบการบริหารจัดการพลังงานจัดว่าดีพอสมควร นอกจากนี้ยังมีระบบการจัดการพลังงานมาให้ 3 Mode ได้แก่ Balance, Power และ Saving เหมือนเดิม

คุณสมบัติลูกเล่นที่น่าสนใจ

     ระบบปฏิบัติการของ Meizu M2 คล้ายกับ M2 Note  เพราะยังคงใช้ Flyme OS เวอร์ชั่น 4.5 แม้จะตามหลังรุ่นใหม่อย่าง Meizu 5 Pro ที่ได้ Android 5.1 เหมือนกันก็ตาม แต่มันก็ใช้งานง่ายและมี Apps โหลดได้เฉพาะตัว แต่ถ้าสำหรับคนที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกับ Google จะลดความยุ่งยากลงจากรุ่น M2 Note

     ความบันเทิงที่จัดมาให้ของ Meizu M2 ถือว่าจัดให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นระบบการปรับเสียงระหว่างการฟังเพลงของ Dirac HD และระบบ EQ ที่มีให้เลือกมากมาย นอกจากนี้ยังให้ Video Player มาอีกด้วย

     ส่วนเครื่องมือต่าง ๆ ยังคงมีทั้ง Flyme Store สำหรับโหลด Application รวมถึงการเชื่อมต่อกับ Google Play Store ด้วย, เครื่องคิดเลข ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงรวมมาด้วย, เครื่องอัดเสียง, ปฏิทิน เรียกว่ามาปกติเหมือนกับมือถือ Android ทั่วไป

     สำหรับกล้องของ Meizu M2 มีขนาด 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับ LED Flash ดวงเดียว และให้ระบบ Auto Focus ที่ทำงานได้ไวใช้ได้ จากที่ได้ลองถ่ายรูปภาพว่าการทำงานถือว่าทำได้ดี เสียดายที่ไม่สามารถปรับภาพให้เป็นแบบ 16:9 ได้ ส่วนการถ่ายวีดีโอความละเอียด 1080P (Full HD)

     ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และสามารถปรับ Beauty Mode ได้

(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Meizu M2)

สรุปในภาพรวมของ Meizu M2

     เรียกได้ว่าออกมาเอาใจสำหรับคนทีไม่ชอบมือถือจอใหญ่และมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย ซึ่ง Meizu M2 เป็นเป็นมือถือที่ลงตัวกับขนาดของมันและประสิทธิภาพที่ได้นั้นก็เท่า ๆ กับรุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่าด้วย ทำให้เวลาพกพานั้นจะรู้สึกดีมากขึ้น แต่ถ้าคนติดจอใหญ่ก็อาจจะเล็กไปบ้าง นอกนั้นก็เหมือนกับ Meizu M2 Note

     เมื่อขนาดเล็กลงก็เลยทำให้ราคาเล็กตาม Meizu M2 มีราคาอยู่ที่ 4,990 บาท ถือว่าถูกมากสำหรับมือถือระดับนี้ และคู่แข่งนั้นอาจจะต้องเจอกับ ASUS Zenfone 2 Laser แต่ทว่ารุ่นที่ราคาเท่ากันจะไม่มี 4G ถ้ารุ่น หรืออีกตัวคือ Zenfone 2 Go ตัวเล็ก ก็อาจจะยังไม่เต็มประสิทธิภาพเท่า

     แต่สิ่งที่รุ่นนี้จะเสียเปรียบคือขายเฉพาะ Lazada เท่านั้น อาจจะยังไม่สามารถเข้าถึงคนไทยสักเท่าไหร่ สุดท้ายนี้ถ้าคิดว่าต้องการเครื่องที่ดูดีและตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณได้ลงตัวในราคาไม่เกิน 5 พันบาท Meizu M2 เป็นคำตอบที่น่าคิดไม่น้อยครับ

ข้อดีของ Meizu M2 Note

- ขนาดเครื่องพอดีต่อการใช้งาน

- แบตฯทนมาก

- ราคาเครื่องยังจัดว่าถูก

- ประสิทธิภาพดีเท่ากับรุ่นใหญ่ ๆ

ข้อควรปรับปรุง

- ไม่มีอะไรปกป้องเลนส์กล้องหลัง

- M Back ต้องทำความเข้าใจกับมันสักหน่อย

- การเชื่อมต่อกับ Google Account ยุ่งยากกว่าที่คิด

- พูดตรง ๆ ว่ามันความแตกต่างจากรุ่น M2 Note น้อยมาก