เส้นทาง Whatsapp ยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียม

คอลัมน์ IT.Talentz โดย siripong@kidtalentz.com

        Whatsapp เป็นเมสเซจจิ้ง แอป ที่เฟซบุ๊กจ่ายเงินซื้อกิจการมาคิดเป็นมูลค่าประมาณ 22,000 ล้านเหรียญในราวปี 2014 ซึ่งเป็นราคาที่สูงลิ่วจนน่าประหลาดใจ เมื่อเทียบกับรายได้ของปีก่อนหน้านั้นที่ Whatsapp ทำได้เพียงประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ก็น่าจะเป็นเพราะเฟซบุ๊กมองเห็นศักยภาพของ whatsapp ซึ่งถือว่าเป็นแชมป์ของแอปประเภทเดียวกัน และมียักษ์ใหญ่รายอื่น ๆ หมายปองอยู่เช่นกัน

        เพียงแต่ว่าเฟซบุ๊กก็มีเฟซบุ๊ก เมสเซนเจอร์ของตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งตอนหลังเฟซบุ๊ก เมสเซนเจอร์แยกตัวออกมาเป็นแอปพลิเคชั่นแบบสแตนด์อะโลนที่ผู้ใช้สามารถสมัครใช้งานได้โดยไม่ผูกติดกับบัญชีเฟซบุ๊กได้ก็ยิ่งทำให้ดูแปลกๆ

        อย่างไรก็ตาม Whatsapp แม้จะเป็นของเฟซบุ๊กแต่ก็ยังมีความเป็นอิสระของมันเองที่ไม่ได้ผูกติดไปกับเฟซบุ๊ก และการเติบโตก็ไม่ได้หยุดยั้งหลังเฟซบุ๊กซื้อกิจการ ปัจจุบันมีฐานผู้ใช้งาน Whatsapp ทั่วโลกอยู่ประมาณ 900 ล้านราย มากที่สุดในบรรดาเมสเซจจิ้งแอปด้วยกัน

        สิ่งที่ประหลาดอีกอย่างก็คือ Whatsapp แตกต่างจากเมสเซจจิ้งแอปรายใหญ่อื่น ๆตรงที่ไม่ใช่ของฟรี เฉพาะปีแรกของการติดตั้งใช้งาน หลังจากนั้นคิดเงินปีละ 1 เหรียญสหรัฐ ถึงจะถูกแสนถูกก็ยังเป็นข้อเปรียบเทียบอยู่ดี นอกจากต้องแข่งขันกับรายอื่น ๆ แล้วกระทั่งกับเฟซบุ๊ก เมสเซนเจอร์ในค่ายเดียวกันก็ยังเป็นตัวเปรียบเทียบเช่นกัน แถมยังเป็นคู่แข่งที่ใกล้เคียงกันด้วย เพราะประเมินว่าในปี 2016 นี้ฐานผู้ใช้เฟซบุ๊ก เมสเซนเจอร์จะขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,000 ล้านราย

        อีกอย่างหนึ่งผู้บริหาร Whatsapp คิดว่าการเก็บค่าธรรมเนียมแม้จะเพียง 1 เหรียญต่อปีก็เป็นอุปสรรคสำหรับคนซึ่งไม่มีหรือไม่ยอมใช้บัตรเครดิตอีกด้วย

แล้วในที่สุด Whatsapp ก็ตัดสินใจเมื่อเร็ว ๆ นี้ประกาศจะยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมที่ว่า

        พร้อมๆกับการตั้งเข็มมุ่งในการปรับเปลี่ยน Whatsapp ไปเป็นแพลตฟอร์ม มากกว่าจะเป็นแค่เมสเซจจิ้ง แอปพลิเคชั่นให้สามารถทำอะไรต่ออะไรผ่าน Whatsappได้มากกว่า โดยเป้าหมายสำคัญหนีไม่พ้นการทำให้ Whatsapp สามารถสร้างรายได้ออกมาได้หลาย ๆ ทาง เพราะถึงอย่างไรเฟซบุ๊กจ่ายเงินไปก้อนมหึมาในการซื้อกิจการมา

        หนึ่งในทิศทางที่ Whatsapp คิดจะเจาะเข้าไปก็คือกลุ่มองค์กรธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจใช้มันในด้านการบริการลูกค้าได้สะดวกราบรื่นและอาจรวมไปถึงสามารถทำธุรกรรมผ่าน Whatsapp ไปได้เลยด้วย เช่น ลูกค้าอาจจะใช้ Whatsapp ติดต่อกับธนาคารเพื่อให้ตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของบัญชีตัวเองที่อาจจะผิดปกติ หรือ การตรวจสอบปัญหาเที่ยวบินล่าช้า เป็นต้น

        พูดง่ายๆ ก็คือ อาจจะมี Whatsapp เฉพาะสำหรับองค์กรธุรกิจขึ้นในอนาคต แนวทางเดียวกับที่เฟซบุ๊กจะทำนั่นเอง ดึงเอาหลายอย่างที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนทำอยู่เป็นประจำทางอื่น ๆ ให้มาทำผ่าน Whatsapp ไปได้เลย

        Whatsapp จะมีผู้ใช้งานถึงระดับ 1,000 ล้านรายในปีนี้เช่นกัน ซึ่งเป็นจำนวนผู้ใช้งานในระดับที่มาร์ก ซักเกอร์เบิร์กเคยกล่าวไว้ว่าเป็นระดับที่ผลิตภัณฑ์จะเปลี่ยนธุรกิจให้เริ่มทำเงินได้จริง