เอคเซนเชอร์ ชี้ 5 เทรนด์ "คน" มาก่อนเทคโนโลยี

เอคเซนเชอร์ ชี้ 5 เทรนด์ "คน" มาก่อนเทคโนโลยี

เอคเซนเชอร์ ชี้ 5 เทรนด์ "คน" มาก่อนเทคโนโลยี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

        เป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่า "ดิจิทัล" ได้เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว "นนทวัฒน์ พุ่มชูศรี" กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในทุกอุตสาหกรรม เฉพาะในไทยพบว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผู้บริโภคชาวไทย 72% ใช้ประสบการณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้คนอื่นช่วยตัดสินใจ แต่ปัจจุบัน 98% ระบุว่าใช้ช่องทางออนไลน์อย่างน้อยหนึ่งช่องทางในการตัดสินใจ และ 65% ต้องการสื่อสารโต้ตอบทางดิจิทัลมากกว่าเดิมกับผู้ให้บริการ ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อการปรับตัวของบรรดาผู้ประกอบการด้วย


        รายงาน "เอคเซนเชอร์ เทคโนโลยี วิชั่น 2016" ซึ่งสำรวจผู้บริหารองค์กรใหญ่จาก 11 ประเทศใน 12 อุตสาหกรรม ยังย้ำชัดว่าการแข่งกันปรับตัวให้เท่าทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้บรรดาองค์กรต่าง ๆ ต้องเกิดภาวะ "ดิจิทัล คัลเชอร์ ช็อค"

        "ผลการสำรวจทำให้ได้ 5 เทรนด์เทคโนโลยี 5 ที่มีผลต่อความสำเร็จขององค์กรในยุคดิจิทัล ซึ่งคนกลายเป็นรากฐานสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง เพราะหากคนไม่พร้อมรับเทคโนโลยีที่มีเข้ามาก็จะทำให้ไม่สามารถใช้ให้เกิดประสิทธิภาพได้ ทั้งยังพบว่า ความสามารถในการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว กลายเป็นคุณสมบัติพนักงานที่สำคัญในอันดับต้นๆ สูงกว่าความเชี่ยวชาญในงาน"

        ขณะที่ 5 เทรนด์เทคโนโลยีที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ ได้แก่

        1.ความอัตโนมัติอันชาญฉลาด ซึ่งไม่ใช่แค่นำ Automation มาใช้ลดต้นทุน แต่ต้องนำมาใช้ร่วมกับคนเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ เพิ่มรายได้ให้มากขึ้น เช่น บริษัท AquaSpy นำระบบอัตโนมัติอัจฉริยะมาใช้เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้แม่นยำก้าวสู่ดิจิทัลฟาร์มมิ่ง

        2.ทีมงานคล่องตัวสูง พร้อมเรียนรู้อย่างรวดเร็วและใกล้ชิดกับลูกค้า อย่างกรณีของบริษัท GE ที่ผสานการทำงานแบบสตาร์ตอัพเข้ามาในระบบงาน เพื่อกระตุ้นให้ทีมงานทำงานเร็วขึ้น ซึ่งจากนี้ไปจะได้เห็นเทรนด์การทำงานที่มีรูปแบบของฟรีแลนซ์มากยิ่งขึ้น องค์กรจะมีการจ้างผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามาทำงานร่วมในแต่ละโปรเจ็กต์มากขึ้น

        3.แพลตฟอร์มเศรษฐกิจ คือความพยายามในการขยายศักยภาพของเทคโนโลยีด้วยการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ อาทิ การสร้าง "แอปสโตร์" ที่ดึงนักพัฒนาแอปพลิเคชั่นกว่า 3.8 แสนคนเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มนี้ จนมียอดขายกว่า 33,000 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ให้แอปเปิลราว 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไม่ต้องผลิตสินค้าออกมาเอง

        4.การหยั่งรู้ทิศทางการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันเส้นแบ่งของแต่ละอุตสาหกรรมเริ่มจางลง รวมถึงการหาพาร์ตเนอร์เพื่อขยายธุรกิจออกไป จากนี้จะได้เห็นการเชื่อมโยงของหลาย ๆ ธุรกิจมากขึ้น อาทิ อูเบอร์ แอปพลิเคชั่นเรียกรถที่ทำให้อุตสาหกรรมแท็กซี่เปลี่ยนไป ตอนนี้ได้เปิดตลาดใหม่ เช่น ทดลอง "UberHealth" ในบอสตัน เชื่อมเครือข่ายรถยนต์และกลุ่มลูกค้าเดิม เข้ากับคนทำงานทักษะเฉพาะ เช่น นางพยาบาลวิชาชีพ ทำให้อูเบอร์ให้บริการฉีดวัคซีนหรือยาแก้ไข้ได้ กลายเป็นคู่แข่งของบรรดาคลินิกต่าง ๆ ได้

        และ 5.ความเชื่อมั่นในดิจิทัล เมื่อข้อมูลของผู้บริโภคอยู่ในโลกดิจิทัลมากขึ้น การสร้างความเชื่อใจว่าข้อมูลจะปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากลูกค้ามีความเชื่อมั่นก็จะตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

        "ปีนี้การลงทุนด้านไอทียังเติบโต เนื่องจากดิจิทัลยังมีการพัฒนา และมีจุดขายคือความสะดวกสบาย สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งการเข้ามาของ 4จี และสมาร์ทโฟนก็เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิด Digital Eco-system มากขึ้น แต่ยังต้องปรับแผนให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าอยู่ ปีนี้ลูกค้าของเอคเซนเชอร์ส่วนใหญ่ที่เข้ามาปรึกษาจะเป็นในเรื่องของ two-speed it และเรื่องการนำดิจิทัลเข้ามาช่วยในการทำงาน ซึ่งในไทยยังเติบโตได้ดีในกลุ่มธุรกิจดิจิทัลโมบิลิตี้และงานด้านระบบสารสนเทศ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook