ไขปริศนาว่า ทำไมแบตเตอรี่ของ Smart Phone หมดไวกว่าสเปคโรงงานที่เคลมไว้

    ปกติการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ  ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ มักจะต้องมีตัวเลขที่น่าสนใจและดึงดูดให้เราเป็นเจ้าของได้ไม่ยากนัก แต่ว่า สิ่งที่หลายคนเจอคือ ระหว่างการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้พบว่า แบตเตอรี่มักจะหมดก่อนที่สเปคโรงงานเคลมเอาไว้ตลอด

    วันนี้ Sanook! Hitech จะมาไขปริศนาว่าทำไมแบตเตอรี่มือถือที่โรงงานเคลมไว้กลับใช้งานจริงแล้วไม่ถึงตามที่บอก

สภาพการใช้งานจริงกับการทดสอบแตกต่างกัน

    จริง ๆ แล้วการทดสอบแบตเตอรี่จากโรงงานหรือห้องทดสอบเพื่อเคลมสเปคการใช้งาน จะเน้นเรื่องการใช้งานเฉพาะด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องการโทร, การใช้งานข้อมูล, หรือจะเป็น Standby ของเครื่อง โดยค่านั้นสามารถนำไปโฆษณาและโปรโมทเกี่ยวกับข้อมูลเพื่อให้คุณตัดสินใจได้

    แต่ในความเป็นจริงเมื่อการใช้งานผสมกัน อาจจะทำให้ตัวเลขนั้นไม่ได้เป็นจริงขึ้นมา อาจจะทำได้ใกล้เคียงหรือ ห่างจากนั้นพอสมควร เช่น บางคนสั่งให้มีการแจ้งเตือนตลอดเวลา การแจ้งเตือนก็ส่งผลให้แบตเตอรี่นั้นหมดเร็วไม่แพ้กัน

Apps ที่ลงระหว่างทดสอบ กับ ใช้งานจริง แตกต่างกัน

    เนื่องจากการทดสอบที่โรงงานอาจจะแค่ใช้ Apps ที่มากับเครื่องเท่านั้น ทำให้การทดสอบออกมานั้นทำให้อยู่ได้ยาวนานกว่าแบบเห็นได้ชัด เพราะบาง Apps ที่ผู้ใช้งานปกติลงไปก็กินทรัพยากรเครื่องอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

    และนอกจากนั้น การใช้งาน Apps จริงของผู้ใช้งานนั้นก็ใช่ว่าติดตั้งแค่ 1 Apps แต่ความจริงนั้นมากกว่านั้นหลายเท่า เลยเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้แบตเตอรี่ เหลือน้อยลงกว่าความเป็นจริงได้

องค์ประกอบในห้องทดลองกับความเป็นจริงแตกต่างกัน

    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุณหภูมิ หรือจะเป็นเรื่องความชื่นต่าง ๆ ทั้งหมด ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้เครื่องนั้น มีผลต่อการใช้งานแบตเตอรี่ได้มากพอสมควร เช่นยิ่งอยู่ที่ร้อนแบตเตอรี่ก็จะหมดเร็วได้

    แต่การใช้งานจริง อาจจะไม่มีอยู่ในห้องที่ควบคุม หรือภาพอากาศเดี๋ยวบางทีก็ร้อนบางทีก็เย็น  หรือไม่ก็เจอใช้งานกับกล้องตลอดทำให้แบตเตอรี่นั้นหมดเร็วกว่าปกติ

    แม้ว่าการทดสอบในโรงงานจะเคลมเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่ของมือถือแต่ละรุ่นแล้ว ผู้บริโภคเองก็ควรฟังหูไว้หู และดูการใช้งานของเรานั้นเหมือนกับ ที่โรงงานทดลองแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่า อย่างน้อยถ้า Smart Phone รอดตายแค่ 1 วันหลายคนคนก็ดีใจยังไงถูกรางวัลที่ 1 แล้วล่ะ