10+1 สมาร์ทโฟนที่สื่อดังยกให้ดีที่สุดประจำครึ่งปีแรก(2016)

10+1 สมาร์ทโฟนที่สื่อดังยกให้ดีที่สุดประจำครึ่งปีแรก(2016)

10+1 สมาร์ทโฟนที่สื่อดังยกให้ดีที่สุดประจำครึ่งปีแรก(2016)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

10+1 สมาร์ทโฟนที่สือดังยกให้ดีที่สุดประจำครึ่งปีแรก(2016)

    กำลังจะย่างก้าวข้ามครึ่งแรกของปี 2016 อย่างเป็นทางการแล้วครับ สำหรับวงการมือถือก็มีข่าวเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน, แฟบเล็ต, แท็บเล็ต รุ่นต่าง ๆ ออกมาให้เราได้อัพเดทเสมอและที่เห็นว่าจะแรงและกำลังเป็นที่จับตาในตอนนี้คงหนีไม่พ้นการเปิดตัวของ Samsung Galaxy Note รุ่นต่อไปที่มีข่าวหลุดออกมาว่าจะมีการข้ามรุ่นไปใช้ชื่อ Galaxy Note 7 เลยและภาพหลุดต่าง ๆ ของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ว่าที่เรือธงรุ่นถัดไปของ Apple ที่ตอนนี้นั้นทางประเทศจีนมีทั้งราคาและก๊อป เกรดA ออกมาให้เห็นกันแล้ว

    เอาเป็นว่าก่อนที่ครึ่งปีหลังเราจะได้เห็นตัวเป็น ๆ ของ สมาร์ทโฟน ตัวเป็นจริงจากทั้งสองค่ายดัง วันนี้ทีมงานมี 11 สมาร์ทโฟนที่สื่อดังอย่าง T3.com ยกให้ดีที่สุดประจำครึ่งปีแรก(2016) มาให้ได้ดูกันจะมีรุ่นไหนของค่ายอะไรบ้างมาดูกันครับ

1. Samsung Galaxy S7 Edge

    เรียกได้ว่าสิ้นสุดการรอคอยของ Samsung Galaxy S7 edge มีความน่าสนใจมากน้อย ถือว่าเป็นการปรับปรุงตัวเครื่องที่เน้นเรื่องฟีเจอร์ที่มองกับเรื่องการใช้งานจริงมากกว่าที่จะเน้นความหวือหวากับที่แล้ว ๆ มานั่นเอง โดยการปรับปรุงหลัก ๆ แล้ว แค่เพิ่มเครื่องกันน้ำ หรือจะเป็น Always On Display และแบตเตอรี่ที่มากขึ้น ขนาดที่ใหญ่โตขึ้นมาก และการกลับมาของ Micro SD คงจะทำให้หลายคนจะกลับมาชอบอีกครั้ง แถมเรื่องกล้องที่เก่งขึ้นกว่าเดิมเลยล่ะ ส่วน Gear VR นั้นเชื่อมต่อได้ทันทีเลยครับ ถือว่าเป็นเรื่องดี

คุณสมบัติเบื้องต้น

  • จอแสดงผลแบบ Dual Edge Curved Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2560x1440 Pixels (2K QHD : กว้าง 5.5 นิ้ว : 534 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU) แบบ Mali-T880 MP12 พร้อมรองรับ API กราฟิกแบบ Vulkan
  • ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Exynos 8 Octa 8890 ความเร็วในการประมวลผล 2.3 GHz (ซีพียู Quad-Core Exynos M1 Mongoose 2.3 GHz และซีพียู Quad-Core Cortex-A53 1.6 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 (Marshmallow)
  • หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB หรือ 64 GB และ RAM ขนาด 4 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 200 GB
  • ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC, MST, Bluetooth และ ANT+
  • กล้องดิจิทัลตัวหลักแบบ Dual Pixel ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 12 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels
  • ขนาด 150.9x72.6x7.7 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 157 กรัม

2. iPhone 6S Plus

    รุ่นที่สองซึ่งกำลังจะพูดถึงคือ iPhone 6S Plus  ต้องยอมรับว่านี่คือมือถือ iPhone ที่ใหญ่ที่สุดที่เคย จนเกือบเรียกว่าเป็น iPhablet เลยก็ว่าได้ แต่ใหญ่ระดับนี้ให้หน้าจอที่ดูภาพระดับ Full HD ที่สมจริง กับความละเอียดของกล้องที่มากขึ้น พร้อมกับลูกเล่นอย่าง OIS ที่เหมาะกับการถ่ายวีดีโอในเวลากลางคืน พร้อมกับแบตเตอรี่ที่ดีขึ้นจนทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่บอกว่ามันแตกต่างในเรื่อง ประสบการณ์ใช้งานที่มากกว่า iPhone ทั่วไป

คุณสมบัติเบื้องต้น

  • จอแสดงผลแบบ Retina HD IPS LCD (LED-Backlit) Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 401 ppi) พร้อมเทคโนโลยี 3D Touch ที่รองรับการแยกแยะน้ำหนักของการสัมผัสหน้าจอ
  • ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Apple A9 (64-bit) พร้อมหน่วยประมวลผล M9 Motion Coprocessor สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหว และระบบปฏิบัติการ iOS 9
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Touch ID Sensor : Fingerprint Identity Sensor) บนปุ่ม Home สำหรับตรวจสอบสิทธิในการเข้าใช้งานเครื่องด้วยการสแกน และวิเคราะห์ลายนิ้วมือ พร้อมรองรับการสั่งซื้อออนไลน์ผ่านทางบริการ Apple Pay
  • เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, LTE Cat4, HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC หรือ Bluetooth
  • กล้องดิจิทัล iSight Camera ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 12 ล้าน Pixels พร้อมระบบป้องกันการสั่นแบ OIS และกล้องดิจิทัล FaceTime Camera ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels พร้อมฟังก์ชัน Retina Flash
  • ขนาด 158.2x77.9x7.3 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 192 กรัม


3. Samsung Galaxy S7

    ถัดมาเป็น พี่ใหญ่ในตระกูล Galaxy S7 ที่เผยโฉมอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา สำหรับ Samsung Galaxy S7 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เรียกได้ว่า กลับมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปบน Samsung Galaxy S6 ให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น คุณสมบัติในการรองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด รวมไปถึงคุณสมบัติในการกันน้ำ กันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68

คุณสมบัติเบื้องต้น

  • จอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2560x1440 Pixels (2K QHD : กว้าง 5.1 นิ้ว : 577 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU) แบบ Mali-T880 MP12 พร้อมรองรับ API กราฟิกแบบ Vulkan
  • ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Exynos 8 Octa 8890 ความเร็วในการประมวลผล 2.3 GHz (ซีพียู Quad-Core Exynos M1 Mongoose 2.3 GHz และซีพียู Quad-Core Cortex-A53 1.6 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 (Marshmallow)
  • หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB หรือ 64 GB และ RAM ขนาด 4 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 200 GB
  • ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC, MST, Bluetooth และ ANT+
  • กล้องดิจิทัลตัวหลักแบบ Dual Pixel ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 12 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels
  • ขนาด 142.4x69.6x7.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 152 กรัม
  • มี 4 สีมาตรฐานให้เลือก (ดำ-Black Onix, ขาว-White Pearl, ทอง-Gold Platinum และเงิน-Silver Titanium)


4. iPhone SE

    แน่นอนว่าในการจัดอันดับครั้งนี้คงพลาดสมาร์ทโฟนราคาประหยัดอย่าง iPhone SE ไม่ได้แน่นอน

คุณสมบัติเบื้องต้น

  • จอแสดงผลแบบ Retina Display IPS LCD (LED-Backlit) Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1136x640 Pixels (กว้าง 4.0 นิ้ว : 326 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Hexa-Core PowerVR GT7600
  • ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Apple A9 (64-bit) (ซีพียู Dual-Core Twister ความเร็ว 1.85 GHz) พร้อมหน่วยประมวลผล M9 Motion Coprocessor สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหว และระบบปฏิบัติการ iOS 9.3
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Touch ID Sensor : Fingerprint Identity Sensor) บนปุ่ม Home สำหรับตรวจสอบสิทธิในการเข้าใช้งานเครื่องด้วยการสแกน และวิเคราะห์ลายนิ้วมือ พร้อมรองรับการสั่งซื้อออนไลน์ผ่านทางบริการ Apple Pay
  • เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE Cat4, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC หรือ Bluetooth
  • กล้องดิจิทัล iSight Camera ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 12 ล้าน Pixels และกล้องดิจิทัล FaceTime Camera ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 1.2 ล้าน Pixels พร้อมฟังก์ชัน Retina Flash
  • ขนาด 123.8x58.6x7.6 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 113 กรัม

5. Huawei Nexus 6P (หัวเว่ย Nexus 6P) 

    Huawei Nexus 6P ที่สุดของสมาร์ทโฟน Pure Android รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมนวัตกรรมระดับเรือธง และสเปคไฮเอนด์จัดเต็มกว่าที่เคย


คุณสมบัติเบื้องต้น

  • จอแสดงผลแบบ AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2560x1440 Pixels (2K WQHD : กว้าง 5.7 นิ้ว : 518 ppi : อัตราส่วนแบบ 16:9) พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
  • ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8994 Snapdragon 810 พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 (Marshmallow)
  • หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB, 64 GB หรือ 128 GB และ RAM ขนาด 3 GB
  • ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC หรือ Bluetooth
  • กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 12.3 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels
  • ขนาด 159.3x77.8x7.3 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 178 กรัม
  • มี 4 สีมาตรฐานให้เลือก (Matte Gold, Graphite, Aluminium, Frost)


6.  LG G5

    เป็นมือถือรุ่นล่าสุดของ LG ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานมานี้ จุดเด่นคือรูรับแสงของกล้องมีขนาด F1.8 และมาพร้อมกับกล้องคู่ที่ทำให้ถ่ายภาพได้กว้างและเก็บรายละเอียดดี นอกจากนี้ยังเปลี่ยน Modular ด้านล่างให้เป็นมือถือระดับโปรได้ด้วย Cam Plus


คุณสมบัติเบื้องต้น

  • จอแสดงผลแบบ IPS Quantum Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2560x1440 Pixels (2K QHD : กว้าง 5.3 นิ้ว : 554 ppi) พร้อมพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Modular Design ที่สามารถถอดเปลี่ยนชิ้นส่วน เพื่ออัปเกรดฟีเจอร์ได้อย่างอิสระ
  • ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Qualcomm MSM8996 Snapdragon 820 ความเร็วในการประมวลผล 2.15 GHz (ซีพียู Dual-Core Kryo 2.1 GHz และซีพียู Dual-Core Kryo 1.6 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0.1 (Marshmallow)
  • หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และ RAM ขนาด 4 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 200 GB (หรือ 2 TB ในทางเทคนิค)
  • ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC หรือ Bluetooth และรองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
  • กล้องดิจิทัลตัวหลักแบบ Dual-Camera ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง (16+8 ล้านพิกเซล) พร้อมระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล
  • ขนาด 149.4x73.9x7.3 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 159 กรัม


7. Sony Xperia Z5

     ถือว่าเป็นมือถือรุ่นท็อปสุดของ Sony Xperia ในปี 2015 ที่ผ่านมา และจัดว่าเป็นมือถือที่มีกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงอีกตัวหนึ่ง พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบไฮบริด (Hybrid Auto Focus) และกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels กล้อง พร้อมความละเอียด 23 ล้านพิกเซล เรียกว่ามากที่สุดในเวลานี้

     โดยคุณสมบัติเด่นอยู่ที่การเลือกใช้ CPU Qualcomm Snapdragon 810 พร้อม RAM 3GB แต่ไม่ร้อนมาก และตัวเครื่องที่มีการออกแบบให้ระบบสแกนลายนิ้วมือ อยู่ที่ปุ่ม Power ข้างเครื่องที่ให้อาจจะเป็นตำแหน่งที่เหมาะกับการใช้เฉพาะนิ้วโป้งโดยตรง พร้อมกับหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว Full HD และรองรับ Mobile Bravia ENGINE 2 พร้อมกับตัวเครื่องที่เวลาเข้าห้องน้ำไม่ต้องกลัวว่าจะพัง เพราะมันกันน้ำได้นั่นเอง

คุณสมบัติเบื้องต้น

  • จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 3840x2160 Pixels (4K UHD : กว้าง 5.5 นิ้ว : 806 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 430
  • ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8994 Snapdragon 810 (ซีพียู Quad-Core Cortex-A57 ความเร็ว 2.0 GHz และ Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1.1 (Lollipop)
  • หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และ RAM ขนาด 3 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 200 GB
  • กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 23 ล้าน Pixels พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบไฮบริด (Hybrid Auto Focus) และกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels
  • กรอบตัวเครื่องแบบโลหะ พร้อมการปิดผนึกด้วยกระจกที่ด้านหลัง กับคุณสมบัติในการป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP65/IP68 และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านข้างของตัวเครื่อง
  • ขนาด 154.4x75.8x7.8 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 180 กรัม

8. HTC 10

    อีกหนึ่งตัวท็อปที่ถูกปล่อยสู้ตลาดด้วยราคาที่ถือว่าสูงพอสมควร HTC 10 เปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อ เดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2016  ด้วยราคา $699 (ดอลลาร์สหรัฐ) (ประมาณ 24,500 บาท) เรียกว่าเพิ่งเปิดตัวใหม่ก็ได้รางวัลกล้อง ยอดเยี่ยมมาทันที เพราะ HTC 10 ให้เซนเซอร์ขนาดใหญ่ ความละเอียดภาพเพียง 12 ล้านพิกเซล พร้อมกับรูรับแสง F1.8 แต่เนื่องจากการให้สีของภาพนั้นตรงและดูสมจริงทำให้จัดว่าเป็นกล้องที่ดี เป็นอันดับ 2 ในกลุ่มของ Android

คุณสมบัติเบื้องต้น

  • จอแสดงผลแบบ Super LCD5 Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2560x1440 Pixels (2K QHD : กว้าง 5.2 นิ้ว : 564 ppi) พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ปุ่มโฮม
  • ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Quad-Core 64-bit Qualcomm MSM8996 Snapdragon 820 ความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0.1 (Marshmallow)
  • หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และ RAM ขนาด 4 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 32 GB
  • ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G Lte Cat9, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC หรือ Bluetooth
  • กล้องดิจิทัลแบบ UltraPixel ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 12 ล้าน Pixels และกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels พร้อมระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS ทั้งกล้องด้านหน้า และกล้องด้านหลัง
  • ขนาด 145.9x71.9x9.0 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 161 กรัม


9. Huawei Mate 8

Huawei Mate 8 สุดยอดแห่งการออกแบบเพื่อการทำงานและประสิทธิภาพระดับพรีเมี่ยม สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์อันทรงพลัง Huawei Mate 8 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิปรุ่น Kirin 950 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลเพื่อเสริมศักยภาพการทำงานของสมาร์ทโฟนได้เร็วที่สุดในโลก

โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลให้ทำงานได้เต็ม 100% และหน่วยประมวลผลกราฟฟิกได้ถึง 125% รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้มากถึง 70% เมื่อเปรียบเทียบกับชิปรุ่น Kirin 925 ซึ่ง Huawei Mate 8 ใช้แกนประมวลผลแบบ 8 แกน (Octacore) แบ่งเป็น A72 2.3 GHz processors 4 แกน และ A53 1.8 GHz processors อีก 4 แกน โดยแยกการทำงานของหน่วยประมวลผลแต่ละชุดอย่างสมดุลและสอดคล้องกับการใช้งาน

คุณสมบัติเบื้องต้น

  • จอแสดงผลแบบ IPS-NEO LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 6.0 นิ้ว : 368 ppi) พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
  • ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Huawei HiSilicon Kirin 950 (16 nm : FinFET Plus) ความเร็วในการประมวลผล 2.3 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 (Marshmallow)
  • หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 64 GB และ RAM ขนาด 4 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
  • ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC หรือ Bluetooth
  • กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 16 ล้าน Pixels พร้อมระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels
  • ขนาด 157.1x80.6x7.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 185 กรัม


10. Motorola Moto X Force

    Moto X Force  ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มาพรอมหน้าจอ Shatterproof กระจกจอกันแตกและถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของทาง Motorola คุณสมบัติเบื้องต้นของ Motorola DROID Turbo 2 (หรือ Motorola X Force) คือหน้าจอแบบ P-OLED ขนาด 5.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ Quad HD (1440x2560 พิกเซล), ใช้หน่วยประมวลผลชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 810, หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 430, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, มีความจุให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ 32 GB กับ 64 GB, กล้องด้านหลังความละเอียด 21 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ขนาด 3,760 mAh รัน Android 5.1.1 Lollipop


11. OnePlus Two

    ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนสเปคโดนใจอีกรุ่นประจำปีเลยครับ สำหรับ OnePlus Two นั้นถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรงราคาไม่แรง คุณสมับิตเบื้องต้นมันมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5" ความละเอียด 1080p, หน่วยประมวลผลชิปเซ็ต Snapdragon 810 และหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB, กล้องหลังกมีความละเอียดล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลแบตเตอรี่จุ 3,300 mAh



    สำหรับราคาของ OnePlus 2 เปิดมาที่ 329 เหรียญ (ประมาณ 11,500 บาท) สำหรับรุ่นความจุ 16GB และ 389 เหรียญ (ประมาณ 13,500 บาท) สำหรับรุ่นความจุ 64GB ถือว่าเหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาองแรงแต่ราคาสบายกระเป๋า

    อย่างไรก็ดีไม่ว่ามือถืออะไรที่บอกว่าดีที่สุดในโลกแค่ไหน แต่สิ่งที่ดีที่สุดในมือคุณ ก็ควรจะลองและเลือกซื้อด้วยตัวเองจะดีกว่า ว่าแต่ 10 อันดับมือถือดีขนาดนี้มีรุ่นไหนที่คุณคิดว่าน่าใส่ในลำดับนี้เพิ่มอีกไหมครับ?


สนับสนุนเนื้อหา: thaimobilecenter.comwww.techmoblog.com



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook