รีวิว (Review) Samsung Gear Fit2

รีวิว (Review) Samsung Gear Fit2

รีวิว (Review) Samsung Gear Fit2
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สายรัดข้อมือจีพีเอสวัดการออกกำลังกายใหม่ล่าสุด กับดีไซน์ที่สวยลงตัวกว่าเดิม พร้อมสมบูรณ์แบบขึ้นอีกขั้นด้วยจอ Curved Super AMOLED ที่คมชัดขึ้น, จีพีเอสในตัว, หน่วยความจำที่มากขึ้น, เล่นเพลงได้ในตัว, Heart Rate Monitor ที่แม่นยำขึ้น และกันน้ำได้ดีกว่าเดิม บนระบบ Tizen ที่สดใหม่ ในราคาที่ใครก็เอื้อมถึง

Review Date (1-กรกฎาคม-2559)

ต้องยอมรับว่าไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ เริ่มเปลี่ยนไป โดยเฉพาะคนวัยทำงาน ที่ในอดีตนั้นชีวิตแต่ละวันดูห่างไกลจากการออกกำลังกาย หรือการใส่ใจสุขภาพ ด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่างที่เข้ามาเป็นอุปสรรค แต่ ณ ชั่วโมงนี้ด้วยอุปกรณ์ และระบบพื้นฐานที่สมบูรณ์ลงตัวมากขึ้น กระแสของการออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพจึงเป็นอะไรที่ทุกคนต่างให้ความสนใจ และเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม

โดยอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญของความสำเร็จในครั้งนี้ก็เห็นจะเป็นอุปกรณ์ประเภทอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable), สายรัดข้อมือ (Sports Band) หรือนาฬิกาอัจฉริยะ (Smartwatch) ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ล้วนมีรูปลักษณ์ และประโยชน์ใช้สอยที่คล้ายคลึงกัน

มักมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนที่ชอบออกกำลังกาย หรือต้องการตัวช่วยในการดูแลสุขภาพเป็น หลัก และส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของนาฬิกา หรือสายรัดข้อมือที่เราเห็นอยู่ทั่วไป เพียงแต่ว่าผู้ผลิตจะเลือกใช้คำจำกัด ความว่าอย่างไรเท่านั้น

และหนึ่งในแบรนด์ที่เล็งเห็นทิศทางในอนาคต พร้อมพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็คือแบรนด์ ซัมซุง (Samsung) โดยทีมผู้บริหารระดับสูงตัดสินใจทุ่มสุดตัวด้วยการปลุกปั้นผลิตภัณฑ์ตระกูล Gear ขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะเมื่อราวปี ค.ศ. 2013 ไล่มาตั้งแต่ Samsung Galaxy Gear, Samsung Gear 2, Samsung Gear 2 Neo, Samsung Gear Fit, Samsung Gear Live, Samsung Gear S, Samsung Gear S2 และล่าสุดก็คือ Samsung Gear Fit2 ซึ่งทีมงานของเรานำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้นั่นเอง

สำหรับ Samsung Gear Fit2 นั้นเป็นนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Samsung Gear Fit ที่เคยสร้างความฮือฮาทั่วโลกมาแล้วเมื่อต้นปี ค.ศ. 2014 เรียกว่าแย่งซีน Samsung Galaxy S5 สมาร์ทโฟนเรือธงที่เปิดตัวออกมาพร้อมกันกลางงาน Samsung Unpacked 2014 เลยทีเดียว โดย Gear Fit2 รุ่นใหม่นี้ถูกอัปเกรดคุณสมบัติให้มีความครบเครื่องสมบูรณ์แบบมากกว่า Gear Fit รุ่นเดิมในหลายๆ จุดด้วยกัน

เริ่มตั้งแต่จอสัมผัสแบบ Curved Super AMOLED ที่โค้งมนโอบรับกับข้อมือมากขึ้น และแสดงผลได้ละเอียดคมชัดกว่าเดิม, ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Tizen, หน่วยความจำ RAM ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 512 MB, หน่วยความจำภายในที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 4 GB

ซึ่งช่วยให้สามารถเก็บไฟล์เพลง รวมถึงเป็นเครื่องเล่นเพลงได้ในตัว, จีพีเอสในตัวที่บอกระยะทางได้อย่างแม่นยำ, เซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Monitor) ที่แม่นยำมากขึ้น, เซ็นตรวจวัดความกดอากาศ (Barometer) และตัวเรือนที่สามารถกันน้ำได้ดีขึ้น

ด้วยคุณสมบัติของการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68, แท่นชาร์จแบตเตอรี่แบบแม่เหล็กที่ใช้งานได้สะดวกคล่องตัวกว่าเดิม รวมถึงรองรับกับการออกกำลังกายมากถึง 15 ประเภท ดังนั้นจึงเรียกได้ว่า Gear Fit2 รุ่นนี้มีการพัฒนาใหม่หมดจดแบบยกเครื่องเลยก็ว่าได้

ส่วนราคาค่าตัวของ Samsung Gear Fit2 นั้น ทาง ซัมซุง (ประเทศไทย) ได้ประกาศออกมาแล้ว โดยมีราคาอยู่ที่ 6,500 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่า Gear Fit รุ่นพี่ที่เปิดขายด้วยราคา 5,900 บาท แต่ทว่า Gear Fit2 ก็มีความสามารถที่เหนือกว่า Gear Fit อยู่มากเช่นเดียวกัน โดย Gear Fit2 จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการครบทุกตัวแทนจำหน่ายในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้เป็นต้นไป และเชื่อว่าด้วยฟีเจอร์ของ Gear Fit2 ที่มาแบบครบเครื่องในราคาย่อมเยาเช่นนี้ คงมีหลายๆ ท่านที่กำลังให้ความสนใจ ดังนั้นวันนี้ทีมงานของเราจะพาทุกท่านไปติดตามกันว่า Gear Fit2 รุ่นนี้จะมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากขนาดไหน และจะคุ้มค่าน่าใช้สมกับที่ใครหลายๆ คนรอคอยหรือไม่

 สรุปคุณสมบัติเด่นของ Gear Fit2

ก่อนที่จะไปติดตาม รีวิวของ Samsung Gear Fit2 กัน ก็อยากให้ทุกท่านได้ศึกษาคุณสมบัติในเบื้องต้นของสายรัดข้อมือจีพีเอส อัจฉริยะรุ่นนี้กันเสียก่อน ซึ่งน่าจะช่วยให้ท่านมองเห็นภาพรวมได้ดียิ่งขึ้นว่า Gear Fit2 นั้นมีจุดเด่นอย่างไร

 รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์ของ Gear Fit2

ตัวเรือนของ Gear Fit2 นั้นจะมีขนาดอยู่ที่ 51.2x24.5x11.9 มิลลิเมตร ซึ่งเมื่อเทียบกับ Gear Fit รุ่นแรก จะพบว่ากว้างกว่าเดิม แต่มีความยาวลดลง และมีความหนาลดลงเล็กน้อย ส่วนน้ำหนักตัวจะอยู่ที่ 28 กรัม เมื่อใช้สายรัดข้อมือขนาดเล็ก หรือ 30 กรัม เมื่อใช้สายรัดข้อมือขนาดใหญ่

 

ที่ด้านหน้าของตัว เรือนมีหน้าจอแสดงผลแบบ Curved Super AMOLED ขนาด 1.5 นิ้ว ความละเอียด 432x216 พิกเซล พร้อมกระจกหน้าจอแบบ Gorilla Glass 3 ที่มีความโค้งในระดับ 47.65R ซึ่งโค้งมากกว่า Gear Fit รุ่นแรก จึงรับกับข้อมือของผู้ใช้งานได้ดีขึ้น โดยกรอบของหน้าจอนั้นจะผลิตมาจากอโนไดซ์อะลูมิเนียมซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน แต่ตัวเรือนส่วนอื่นๆ ที่เหลือนั้นเป็นพลาสติกโพลีคาร์บอเนต ผสานกับไฟเบอร์กลาส

 

ที่ด้านซ้ายของตัวเรือนไม่มีอะไรนอกจากพื้นผิวเรียบๆ

 

ที่ด้านขวาของตัวเรือนประกอบไปด้วยปุ่มย้อนกลับ (ปุ่มใหญ่) และปุ่มโฮม (ปุ่มเล็ก)

 

ที่ด้านบน และด้านล่างของตัวเรือนมีสลักสำหรับติดตั้งสายรัดข้อมือ

 

ที่ด้านหลังของตัว เรือนมีเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Monitor) รวมถึงเซ็นเซอร์จีพีเอส, เซ็นเซอร์ Accelerometer, เซ็นเซอร์ Gyro, เซ็นเซอร์ Barometer และขั้วโลหะสำหรับการเชื่อมต่อกับแท่นชาร์จแบตเตอรี่ ส่วนแบตเตอรี่ด้านในนั้นเป็นแบบ Li-ion ความจุ 200 mAh ซึ่งหากใช้งานตามปกติแบตเตอรี่จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 วัน แต่หากใช้งานน้อยแบตเตอรี่จะอยู่ได้ประมาณ 5 วัน และหากมีการเปิดสัญญาณจีพีเอสเอาไว้ด้วย ก็จะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุดประมาณ 9 ชั่วโมง

 

แท่นชาร์จที่มา พร้อมชุดจำหน่ายมาตรฐานของ Gear Fit2 นั้นเป็นแท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก ซึ่งสามารถดูดตัวเรือนของ Gear Fit2 ให้เข้าตำแหน่งที่ถูกต้องได่โดยอัตโนมัติ จึงนับว่าสะดวกคล่องตัวเป็นอย่างยิ่ง และจุดเด่นอีกอย่างก็คือมีขั้วจ่ายไฟติดตั้งไว้ทั้งสองฝั่ง ดังนั้นไม่ว่าจะวางตัวเรือนของ Gear Fit2 ไว้ด้านไหน ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ไม่ต่างกัน

 

ขณะวางตัวเรือนของ Gear Fit2 ไว้บนแท่นชาร์จแบตเตอรี่ ก็เหมือนกับได้นาฬิกาตั้งโต๊ะสวยๆ ไว้ใช้งานที่บ้านอีกเรือนหนึ่ง

 

ผู้ใช้งานสามารถ พลิกตัวเรือนด้านใดก็ได้เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ ด้วยขั้วจ่ายไฟแบบสองด้าน จึงนับว่าสะดวกไม่น้อย โดยการชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% นั้นจะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaimobilecenter.com/review/samsung-gear-fit2.asp

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaimobilecenter.com/review/samsung-gear-fit2.asp

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaimobilecenter.com/review/samsung-gear-fit2.asp

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook