5 สุดยอดสมาร์ทโฟนที่มาแรง และโดนใจผู้ชมมากที่สุดประจำช่วงกลางเดือนกันยายน 2016

5 สุดยอดสมาร์ทโฟนที่มาแรง และโดนใจผู้ชมมากที่สุดประจำช่วงกลางเดือนกันยายน 2016

5 สุดยอดสมาร์ทโฟนที่มาแรง และโดนใจผู้ชมมากที่สุดประจำช่วงกลางเดือนกันยายน 2016
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

5 สุดยอดสมาร์ทโฟนที่มาแรง และโดนใจผู้ชมมากที่สุดประจำช่วงกลางเดือนกันยายน 2016 รุ่นไหนมีทีเด็ดอย่างไร เราสรุปมาให้ท่านแล้ว!

     สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ กลับมาพบทีมงาน Thaimobilecenter กับข่าวสาร และนานาสาระน่ารู้ในวงการสมาร์ทโฟนกันอีกครั้งนะครับ สำหรับเดือนกันยายนนี้คงเป็นเดือนที่ผู้ใช้หลายคนเฝ้ารออยู่ เพราะว่าเป็นเดือนที่ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ได้เปิดตัว iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เรือธงรุ่นล่าสุด

     ซึ่งแน่นอนว่ากระแสความร้อนแรงของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่องจนในช่วงแรกผู้เขียนคาดว่าข่าว iPhone 7 น่าจะมีผู้ให้ความสนใจเยอะที่สุด แต่ผลปรากฏว่ามีสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งที่แซงหน้าดึงความสนใจไปจาก iPhone 7 ได้ด้วย ซึ่งมือถือรุ่นนั้นจะเป็นรุ่นใด มีชื่อว่าอย่างไร ติดตามชมในบทความนี้ครับ

     วันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้คัดเลือกสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมความโดดเด่น และมีผู้ให้ความสนใจมากที่สุดประจำช่วงกลางเดือนกันยายน 2016 โดยคัดเลือกจากจำนวนการแชร์ลิงก์ และการกดถูกใจ (กด Like) จากเพจ Thaimobilecenter.com (ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 16 กันยายน 2559) สมาร์ทโฟนรุ่นใดที่มาพร้อมกับคุณสมบัติตัวเครื่อง และฟีเจอร์การใช้งานที่โดดเด่นจนสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าชมได้มากที่สุดบ้างนั้น ติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยครับ

Turing Phone Cadenza ที่สุดแห่งสมาร์ทโฟนเรือธงที่ไฮเทคที่สุดในโลก! จัดเต็มด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 830 2 ตัว, RAM 12GB, ROM 1TB และกล้อง 60 ล้านพิกเซล แบบ Quad-Camera บนตัวเครื่องสุดแกร่ง พร้อมระบบ AI Deep Learning! (จำนวนการแชร์ 159 ครั้ง, จำนวนผู้ที่กดไลค์ 1,584 คน)

     เรียกได้ว่ามาแซงแรงทุกข่าวจริงๆ สำหรับ Turing Phone Cadenza สมาร์ทโฟนที่ไฮเทคที่สุดในโลก ด้วยคุณสมบัติแบบจัดเต็มที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ Turing Phone Cadenza ยังเป็นเพียงสมาร์ทโฟนที่บริษัท Turing Robotics Indutries (TRI) กำลังเริ่มต้นพัฒนาอยู่เท่านั้น โดยทาง TRI ได้กล่าวว่าผู้ใช้ทุกคนอาจได้เห็นสมาร์ทโฟนรุ่นนี้กันภายในปี 2017 ซึ่ง Turing Phone Cadenza มาพร้อมกับคุณสมบัติตัวเครื่องระดับท็อป ดังนี้

- ตัวเครื่องผลิตจาก Graphene Oxide ที่มีเอกลักษณ์ด้านน้ำหนักที่เบา, ส่วนประกอบโลหะอัลลอย (Alloy) ที่ผ่านความร้อนสูงเพื่อเสริมความแข็งแรง และกรอบตัวเครื่องผลิตจาก Liquid Metal 2.0
- หน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงระดับ 2K Quad HD ขนาด 5.8 นิ้ว
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 830 จำนวน 2 ตัว
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 12GB แบ่งเป็นหน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 6GB จำนวน 2 ตัว
- หน่วยความจำภายในขนาด 1TB (256GBx2) รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 256GB จำนวน 2 สล็อต
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ Quad-Camera (กล้องสี่ตัว) ความละเอียด 60 ล้านพิกเซล, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.2 และถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 6K แบบ iMAX
- กล้องด้านหน้าแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
- รองรับการใช้งานคำสั่งเสียงแบบ VoiceOn
- รองรับการเชื่อมต่อ WiGig ที่มีความเร็ว 1Gbps
- รองรับการใช้งาน 4 ซิมการ์ด (Quad-SIM)
- รองรับการใช้งานระบบเสียง aptX
- ใช้งานหูฟัง Marshall
- แบตเตอรี่ความจุ 100 wh แบ่งออกเป็นแหล่งพลังงาน 3 แหล่งด้วยกัน คือ แบตเตอรี่แบบ Graphene Superconductor Battery ความจุ 2400 mAh, แบตเตอรี่แบบ Lithium-Ion ความจุ 1600 mAh และแบตเตอรี่แบบไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Cell)
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Swordfish OS ที่มีลักษณะเป็น AI อัจฉริยะ สามารถเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของเจ้าของได้, ทำงานอยู่บนโครงข่ายระบบประสาท (ของ AI) และตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้หลายรูปแบบ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Turing Phone Cadenza

iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ปรับราคาใหม่รับ iPhone 7 หั่นรวดเดียวสูงสุด 8,000 บาท! เหลือเริ่มต้นที่ 22,500 บาท กับความจุขั้นต่ำ 32GB! (จำนวนการแชร์ 133 ครั้ง, จำนวนผู้ที่กดไลค์ 3,466 คน)

     หลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) Apple ก็ได้ปรับราคา iPhone 6s และ iPhone 6s Plus และเปลี่ยนรุ่นความจุใหม่ โดยตัดรุ่น 16GB และ 64GB แล้วเพิ่มรุ่น 32GB เข้าไปแทนที่ ส่วนรุ่น 128GB ยังคงไว้เช่นเดิม และราคาวางจำหน่ายของ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ล่าสุด เป็นดังนี้

- iPhone 6s 32GB ราคา 22,500 บาท (รุ่นความจุใหม่)
- iPhone 6s 128GB ราคา 26,500 บาท (ราคาเดิม 34,500 บาท)
- iPhone 6s Plus 32GB ราคา 26,500 บาท (รุ่นความจุใหม่)
- iPhone 6s Plus 128GB ราคา 30,500 บาท (ราคาเดิม 38,500 บาท)

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาวางจำหน่าย iPhone 6s และ iPhone 6s Plus
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPhone 6s

เปิดตัว iPhone 7 ที่สุดแห่งสมาร์ทโฟนยอดนิยมโฉมใหม่ที่เร็วแรงกว่าเดิม! มาพร้อมชิปเซ็ต Quad-Core Apple A10, กล้อง iSight 12 ล้านพิกเซล F/1.8 และปุ่มโฮมแบบรวมกับหน้าจอ บนตัวเครื่องกันน้ำสีดำ Jet Black ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 22,500 บาท! (จำนวนการแชร์ 125 ครั้ง, จำนวนผู้ที่กดไลค์ 1,941 คน)

     หลังจากที่มีข่าวหลุดข่าวลือกันมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ iPhone 6s เรือธงรุ่นก่อนหน้าได้เปิดตัวไปเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา ผู้ใช้หลายคนทั่วโลกต่างก็เฝ้ารอว่า Apple จะพัฒนา iPhone 7 รุ่นต่อไปอย่างไร และมาพร้อมกับฟีเจอร์สุดล้ำแบบใดบ้าง ซึ่งล่าสุด Apple ก็ได้เปิดตัว iPhone 7 และ iPhone 7 Plus อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยจุดเด่นของไอโฟนทั้งสองรุ่น คือ การเปลี่ยนแปลงด้านกล้องถ่ายภาพใหม่ทั้งหมด, ปุ่มโฮมแบบฝังรวมกับหน้าจอ, ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น และสีใหม่ สีดำ Jet Black โดยคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้นของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มีดังนี้

iPhone 7

- ตัวเครื่องมีขนาด 138.3x67.1x7.1 มิลลิเมตร น้ำหนัก 138 กรัม
- หน้าจอแสดงผล  Retina HD IPS LCD ขนาด 4.7 นิ้ว พร้อมฟีเจอร์ Wide Color Gomut
- ชิปเซ็ตประมวลผล 64-bit Quad-Core Apple A10 Fusion
- กล้องดิจิทัล iSight แบบใหม่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพอัจฉริยะใหม่ล่าสุด, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS), ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.8, ใช้โครงสร้าง 6 ชิ้นเลนส์ และไฟแฟลชสี่ดวง (Quad-LED)
- กล้องดิจิทัล FaceTime HD ด้านหน้า ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล
- ปุ่มโฮมแบบใหม่ที่ใช้งานระบบ Taptic Engine และรองรับการใช้งาน Quick Actions
- ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67
- ลำโพงคู่ บน-ล่าง แบบสเตอริโอ (Dual-Speaker)
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ LTE ด้วยความเร็วสูงสุด 450Mbps
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่า
- สีสันตัวเครื่องสีใหม่ สีดำ Jet Black
- มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 10 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด

iPhone 7 Plus

- ตัวเครื่องมีขนาด 158.2x77.9x7.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 188 กรัม
- หน้าจอแสดงผล  Retina HD IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมฟีเจอร์ Wide Color Gomut
- ชิปเซ็ตประมวลผล 64-bit Quad-Core Apple A10 Fusion พร้อมหน่วยประมวลผล M10 Motion Coprocessor สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหว
- กล้องดิจิทัล iSight แบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่ใช้งานเลนส์สองแบบ คือ เลนส์มุมกว้าง (Wide) ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8 และเลนส์ถ่ายภาพระยะไกล (Telephoto) ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.8 สามารถซูมภาพแบบ Optical Zoom ได้ถึง 2 เท่า แบบปกติ และสามารถซูมได้ถึง 10 เท่าจากซอฟต์แวร์ พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพอัจฉริยะใหม่ล่าสุด, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS), ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.8, ใช้โครงสร้าง 6 ชิ้นเลนส์ และไฟแฟลชสี่ดวง (Quad-LED)
- กล้องดิจิทัล FaceTime HD ด้านหน้า ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล
- ปุ่มโฮมแบบใหม่ที่ใช้งานระบบ Taptic Engine และรองรับการใช้งาน Quick Actions
- ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67
- ลำโพงคู่ บน-ล่าง แบบสเตอริโอ (Dual-Speaker)
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ LTE ด้วยความเร็วสูงสุด 450Mbps
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่า
- สีสันตัวเครื่องสีใหม่ สีดำ Jet Black
- มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 10 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPhone 7
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPhone 7 Plus

Samsung Galaxy S8 ว่าที่ยอดเรือธงรุ่นต่อไป คาดจัดเต็มขั้นสุดด้วยจอ 4K ขอบโค้ง, ชิปเซ็ต Snapdragon 830, RAM 6GB, กล้อง Dual-Camera, Android 7.0 และระบบสแกนม่านตา บนบอดี้กันน้ำ จ่อเปิดตัวกุมภาพันธ์นี้! (จำนวนการแชร์ 104 ครั้ง, จำนวนผู้ที่กดไลค์ 1,691 คน)

     แม้ว่า Samsung Galaxy Note7 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Samsung จะเปิดตัวไปได้ไม่นานนัก แต่ก็มีข้อมูลของว่าที่สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นต่อไปที่อาจใช้ชื่อว่า Samsung Galaxy S8 หลุดออกมาให้ทราบกันแล้ว โดยคาดว่าตัวเครื่องจะมีการดีไซนรูปแบบใหม่ พร้อมใช้งานเซ็นเซอร์สแกนม่านตาแบบเดียวกับ Galaxy Note7 ด้วยเช่นกัน โดย Samsung Galaxy S8 อาจมาพร้อมกับคุณสมบัติตัวเครื่อง ดังนี้

- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.1 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ 4K Ultra HD (2160x3840 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Exynos 8895 และชิปเซ็ต Snapdragon 821 หรือชิปเซ็ต Snapdragon 830
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB หรือ 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) เริ่มต้นที่ขนาด 32GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) พร้อมรองรับระบบการซูมภาพด้วยเลนส์ (Optical Zoom) โดยคาดว่ากล้องตัวแรกจะเป็นกล้อง Dual Pixel ที่ใช้ใน Galaxy S7 ที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และกล้องตัวที่ 2 จะใช้งานเซ็นเซอร์รับภาพของ Sony โดยมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ซึ่งถูกครอบทับด้วย TouchWiz UX เวอร์ชันใหม่

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S8

LeEco Le Pro 3 ว่าที่ยอดเรือธงเผยสเปก! คาดจัดเต็มถึงขีดสุดด้วยจอ 2K QHD 5.7 นิ้ว, ชิปเซ็ต Snapdragon 821, RAM 8GB และ ROM ไซส์ยักษ์ 256GB ในราคาเริ่มต้นเพียง 11,000 บาท! (จำนวนการแชร์ 61 ครั้ง, จำนวนผู้ที่กดไลค์ 1,388 คน)

     แบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน LeEco จากประเทศจีนเริ่มเข้าเป็นผู้เล่นตัวหลักในวงการสมาร์ทโฟนภายในระยะเวลาไม่นานนัก  ด้วยการผลิตสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมคุณสมบัติตัวเครื่องระดับไฮเอนด์ แต่มีราคาวางจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งล่าสุดก็มีข่าวคราวเกี่ยวกับ LeEco Le Pro 3 ว่าที่เรือธงรุ่นต่อไปของค่ายหลุดออกมาให้ชมกันแล้ว โดยคาดว่า LeEco Le Pro 3 จะมาพร้อมคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้น ดังนี้

LeEco Le Pro 3 รุ่น RAM 6GB

- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล) พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D
- ชิปเซ็ตประมวลผล Quad-Core Qualcomm Snapdragon 821
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 4070 mAh
- ราคาเปิดตัวอยู่ที่ราว 2,x99 หยวน หรือประมาณ 11,000 บาท - 15,700 บาท

LeEco Le Pro 3 รุ่น RAM 8GB

- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K Quad HD (1440x2560 พิกเซล) พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D
- ชิปเซ็ตประมวลผล Quad-Core Qualcomm Snapdragon 821
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh
- ราคาเปิดตัวอยู่ที่ราว 3,x99 หยวน หรือประมาณ 16,200 บาท - 21,000 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ LeEco Le Pro 3

     เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ 5 สมาร์ทโฟนที่มาแรง และโดนใจผู้เข้าชมมากที่สุดประจำช่วงกลางเดือนกันยายน 2016 แน่นอนว่าสมาร์ทโฟนสุดฮิตอย่าง iPhone 7 ก็ติดโผมาด้วยอย่างที่คาดการณ์ไว้ แต่สำหรับ Turing Phone Cadenza ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มาแรง และได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม

     เนื่องจากคุณสมบัติตัวเครื่องระดับไฮเอนด์ที่เหนือกว่ามือถือทุกรุ่นในปัจจุบัน แต่ผู้ใช้บางส่วนก็มองว่า Turing Phone Cadenza อาจแสดงให้เห็นถึงขีดจำกัดสูงสุดของเทคโนโลยีในปัจจุบันเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะการพัฒนาฮาร์ดแวร์ภายในตามรายละเอียดดังกล่าวนั้นอาจต้องใช้เวลานานกว่าเราจะได้เห็นโฉมหน้าตัวเครื่องจริง

     แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในโลกของเทคโนโลยี สิ่งใดที่ดูเหมือนจะเป็นไม่ได้ ก็เป็นไปได้มานักต่อนักแล้ว ไม่แน่ว่าภายในปี 2017 ที่จะถึงนี้ เราอาจจะได้เห็นสมาร์ทโฟนที่ล้ำยุคกว่า Turing Phone Cadenza ก็เป็นได้  เพราะเทคโนโลยีบนโลกใบนี้ก้าวไกล และพัฒนาขึ้นในทุกๆ วัน สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกับใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ


นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook