iPhone 8 ว่าที่ไอโฟนรุ่นครบรอบ 10 ปี อาจใช้งานหน้าจอ AMOLED แบบเต็มพื้นที่

iPhone 8 ว่าที่ไอโฟนรุ่นครบรอบ 10 ปี อาจใช้งานหน้าจอ AMOLED แบบเต็มพื้นที่ พร้อมสแกนนิ้วผ่านหน้าจอได้ทันที และตัดปุ่มโฮมออก คาดกลับมาใช้ดีไซน์ Metal-Glass แบบ iPhone 4s อีกครั้ง!

(ภาพคอนเซ็ปต์จาก - GdgtCompare)

หลังจากที่ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมวางจำหน่ายในหลายๆ ประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กระแสข่าวเกี่ยวกับ iPhone 8 ว่าที่ไอโฟนรุ่นต่อไปก็เข้ามาแทนที่ทันที ซึ่งในปี 2017 จะเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบ 10 ปี ของ iPhone ด้วย ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่คาดการณ์กันว่า Apple น่าจะพัฒนาไอโฟนที่จะเปิดตัวในปีหน้าให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน และล่าสุดก็มีข้อมูลว่า iPhone 8 อาจใช้งานฟังก์ชันสแกนลายนิ้วมือผ่านหน้าจอได้ทันที และ Apple อาจหันกลับไปใช้ดีไซน์แบบ Metal-Glass อีกด้วย
 

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Apple ได้จดสิทธิบัตรการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ผ่านทางหน้าจอแสดงผลของสมาร์ทโฟนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งวิธีการใช้งานเบื้องต้นน่าจะคล้ายกับ Xiaomi Mi 5s สมาร์ทโฟนเรือธงที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ที่ใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วยคลื่นเสียง Ultrasonic ที่จำลองภาพ 3 มิติ ของนิ้วมือขึ้นมา โดยคลื่นเสียงดังกล่าวสามารถส่งผ่านวัสดุขวางกั้นแบบใดก็ได้ ดังนั้น การฝังเซ็นเซอร์ชนิดนี้ลงไปใต้หน้าจอก็สามารถเอื้อให้ผู้ใช้สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้ทันทีโดยไม่ต้องมีปุ่มโฮม

ข่าวการจดสิทธิบัตรนี้สามารถเชื่อมโยงได้กับข่าวลือการตัดปุ่มโฮมบนไอโฟนออก และใช้งานหน้าจอแสดงผลแบบเต็มพื้นที่ตัวเครื่อง ซึ่งถ้าหาก Apple สามารถพัฒนาเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือให้ฝังใต้หน้าจอได้ ปุ่มโฮมก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป อีกทั้ง ข่าวลือส่วนใหญ่ยังระบุว่าไอโฟนที่จะเปิดตัวในปีหน้าจะใช้งานหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED อีกด้วย
 

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอีกด้านบัญชีผู้ใช้รายหนึ่งชื่อว่า @Great afternoon sleep_silent ในเว็บไซต์ Weibo ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียขนาดใหญ่ในประเทศจีน ระบุว่า iPhone 8 หรือไอโฟนที่จะเปิดตัวในปี 2017 จะหันกลับมาใช้ดีไซน์แบบ Metal-Glass ดังที่เคยใช้ใน iPhone 4s โดยจะมีให้เลือก 3 แบบ คือ Black Ceramic และ White Ceramic

ส่วนแบบสุดท้ายยังคงเป็นความลับ ซึ่งเจ้าของบัญชีรายนี้เคยระบุข้อมูลของ iPhone 6 และ iPhone 7 ก่อนการเปิดตัวได้ถูกต้องมาก่อนอีกด้วย ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าในอนาคตจะมีข้อมูลใดหลุดออกมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่

ที่มา : AppleInsider, GizmoChina

สนับสนุนเนื้อหา:www.thaimobilecenter.com