รวม 5 มือถือตัวท็อปแบรนด์ดังที่หลายคนอยากได้ แต่ราคาเกินเอื้อม

รวม 5 มือถือตัวท็อปแบรนด์ดังที่หลายคนอยากได้ แต่ราคาเกินเอื้อม

รวม 5 มือถือตัวท็อปแบรนด์ดังที่หลายคนอยากได้ แต่ราคาเกินเอื้อม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทุกวันนี้การซื้อมือถือที่คุณต้องการนั้นอาจจะมีหลากหลายราคา และแน่นอนว่ารุ่นท็อป ๆ ทั้งหลายคุณก็อยากได้แต่ราคาเกินเอื้อม วันนี้ Sanook! Hitech รวมมือถือท็อปที่ความสามารถรวมถึงราคา จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกัน (หมายเหตุ : ราคาเครื่องไม่รวมโปรโมชั่นใด ๆ ทั้งสิ้น)

iPhone 7 / iPhone 7 Plus

 

ตัวแรกที่ต้องพูดถึงก่อนเลยคือ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แม้ว่าเป็นมือถือที่พัฒนาล่าสุดมีทั้งกล้องที่ดีเลิศทั้งคู่ และซูมได้ และยังรวมไปถึงกันน้ำได้ แม้ปัญหาของมันคือการตัดช่องเสียบหูฟังและสี Jet Black ที่แสนจะดูแลยากที่สุดก็ตาม แต่ราคานั้นเริ่มต้นที่ 26,500 บาท แต่รุ่น Plus เริ่มต้นที่ 31,500 บาท และจบประมาณ 39,500 บาท ซึ่งถ้าเป็นคนยอมติดสัญญาก็จะได้ถูกหน่อย แต่ว่าถ้าซื้อเครื่องเปล่าขอบอกว่า อ่วมครับ

คุณสมบัติคร่าว ๆ ของ iPhone 7

- จอแสดงผลแบบ Retina HD Display LED-Backlit (IPS) ความละเอียด 1334x750 Pixels (กว้าง 4.7 นิ้ว : 326 ppi) พร้อมตัวเครื่องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น ที่ระดับ IP67 และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Touch ID) ในตัว
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Apple A10 Fusion พร้อมหน่วยประมวลผล M10 motion coprocessor และระบบปฏิบัติการ iOS 10
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB, 128 GB หรือ 256 GB และ RAM ขนาด 2 GB
- ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE Cat9, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC หรือ Bluetooth
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 12 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัล FaceTime HD ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 7 ล้าน Pixels
- ขนาด 138.3x67.1x7.1 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 138 กรัม

คุณสมบัติคร่าว ๆ ของ iPhone 7 Plus

 - จอแสดงผลแบบ Retina HD Display LED-Backlit (IPS) ความละเอียด 1920x1080 Pixels (กว้าง 5.5 นิ้ว : 401 ppi) พร้อมตัวเครื่องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น ที่ระดับ IP67 และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Touch ID) ในตัว
 - ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Apple A10 Fusion พร้อมหน่วยประมวลผล M10 motion coprocessor และระบบปฏิบัติการ iOS 10
 - หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB, 128 GB หรือ 256 GB และ RAM ขนาด 3 GB
 - ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE Cat9, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC หรือ Bluetooth
 - กล้องดิจิทัลแบบ Dual Lens Camera (เลนส์ Wide-Angle และ Telephoto) ความละเอียดระดับ 12 ล้าน Pixels พร้อมระบบ 2x Optical Zoom และกล้องดิจิทัล FaceTime HD ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 7 ล้าน Pixels 
 - ขนาด 158.2x77.9x7.3 มิลลิเมตร
 - น้ำหนัก 188 กรัม 

Samsung Galaxy S7/S7 edge

 

แม้ว่า Samsung Galaxy Note 7 จะไม่ได้ขาย แต่ Samsung Galaxy S7 edge ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจเพราะความครบฟังก์ชั่น กันน้ำ และกล้องที่ยังได้รับคำชมจากคนส่วนใหญ่ว่ามันเทพกว่า iPhone 7 อย่างมาก แต่ค่าตัวของมันนั้น จากศูนย์จะอยู่ประมาณ 26,900 บาท ก็ถือว่าโหดอยู่ ส่วน S7 ปกติอยู่ที่ 20,900 บาท 

คุณสมบัติคร่าว ๆ ของ Samsung Galaxy S7

 - จอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2560x1440 Pixels (2K QHD : กว้าง 5.1 นิ้ว : 577 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU) แบบ Mali-T880 MP12 พร้อมรองรับ API กราฟิกแบบ Vulkan
 - ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Exynos 8 Octa 8890 ความเร็วในการประมวลผล 2.3 GHz (ซีพียู Quad-Core Exynos M1 Mongoose 2.3 GHz และซีพียู Quad-Core Cortex-A53 1.6 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 (Marshmallow)
 - หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB หรือ 64 GB และ RAM ขนาด 4 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 200 GB
 - ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC, MST, Bluetooth และ ANT+
 - กล้องดิจิทัลตัวหลักแบบ Dual Pixel ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 12 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels
 - ขนาด 142.4x69.6x7.9 มิลลิเมตร
 - น้ำหนัก 152 กรัม

คุณสมบัติคร่าว ๆ ของ S7 edge

 - จอแสดงผลแบบ Dual Edge Curved Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2560x1440 Pixels (2K QHD : กว้าง 5.5 นิ้ว : 534 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU) แบบ Mali-T880 MP12 พร้อมรองรับ API กราฟิกแบบ Vulkan
 - ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Exynos 8 Octa 8890 ความเร็วในการประมวลผล 2.3 GHz (ซีพียู Quad-Core Exynos M1 Mongoose 2.3 GHz และซีพียู Quad-Core Cortex-A53 1.6 GHz) พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 (Marshmallow)
 - หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB หรือ 64 GB และ RAM ขนาด 4 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 200 GB
 - ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC, MST, Bluetooth และ ANT+
 - กล้องดิจิทัลตัวหลักแบบ Dual Pixel ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 12 ล้าน Pixels พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels
 - ขนาด 150.9x72.6x7.7 มิลลิเมตร
 - น้ำหนัก 157 กรัม
 -  มี 4 สีมาตรฐานให้เลือก (ดำ-Black Onix, ขาว-White Pearl, ทอง-Gold Platinum และเงิน-Silver Titanium)

Sony Xperia XZ

มาทางญี่ปุ่นบ้าง เพราะเพิ่งเปิดตัวไม่ได้นานนักสำหรับ Sony Xperia XZ ที่มีสเปคเครื่องที่สูงและประสิทธิภาพดีมากรวมถึงการปรับปรุงกล้องที่สาวกต้องการเกือบครบเหลือแค่ถ่ายภาพในที่แสงน้อยยังไม่ดี แต่เรื่องคุณภาพเสียงต้องยกให้นางแน่นอน กับราคาเครื่องอยู่ที่ 23,990 บาท แอบสูงอยู่

คุณสมบัติคร่าว ๆ ของ Sony Xperia XZ

 - จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.2 นิ้ว : 424 ppi) พร้อมตัวเครื่องที่มีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP65/68
 - ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Quad-Core 64-bit Qualcomm MSM8996 Snapdragon 820 ความเร็วในการประมวลผล 2.15 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0.1 (Marshmallow)
 -หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 64 GB และ RAM ขนาด 3 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 256 GB
 - ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE Cat9, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC หรือ Bluetooth
 - กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 23 ล้าน Pixels พร้อมเทคโนโลยี Triple Image Sensing, ระบบกันสั่นแบบ 5 แกน กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels
 - ขนาด 146x72x8.1 มิลลิเมตร
 - น้ำหนัก 161 กรัม

Huawei P9 Plus

 

ใครว่าพี่จีนจะมีแต่ของถูก ต้องมาดู Huawei P9 Plus ที่มีราคาเปิดตัวที่ 21,900 บาท สิ่งที่ทำให้เครื่องรุ่นนี้ราคาสูงนอกจากเลนส์กล้องหลังพัฒนาร่วมกับ Leica กล้องหน้าเพิ่มระบบ Auto Focus เพิ่มแบตเตอรี่, NFC, และหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว AMOLED ที่ให้สีและความสว่างที่ดูดีขึ้นไปเลย เหมาะกับคนที่อยากได้มือถือจอใหญ่ยักษ์!!! มากกว่า

คุณสมบัติคร่าว ๆ ของ Huawei P9 Plus

- จอแสดงผลแบบ AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 401 ppi) พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core HiSilicon Kirin 955 ความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 (Marshmallow)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 64 GB และ RAM ขนาด 4 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 4G LTE Cat6, 3G HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC, Bluetooth หรือ Infrared
- กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual Camera) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 12+12 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels
- ขนาด 152.3x75.3x6.98 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 162 กรัม

Moto Z

 

ปิดท้ายด้วย Moto Z ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติเครื่องบางระดับ 5.1 มิลลิเมตร พร้อมหน้าจอใหญ่ 5.5 นิ้วความละเอียดสูง พร้อมกับสเปคที่เป็นที่ยอมรับได้ และมีกล้องหลังที่ทำงานได้รวดเร็ว พร้อมกับต่อเชื่อมอุปกรณ์เสริมจากด้านหลังที่เรียกว่า Moto Mods มีให้เลือกหลาหลายรายการ และยังตัดช่องเสียบหูฟังเหมือนกับ iPhone 7 อีก และเปิดตัวราคาขายในไทย 23,990 บาท ทำให้หลายคนบอกว่าแพง แต่ลองมองความสามารถมันก็คุ้มนะครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook