9 เทรนด์เทคโนโลยีในงาน CES ปี 2017

9 เทรนด์เทคโนโลยีในงาน CES ปี 2017

9  เทรนด์เทคโนโลยีในงาน CES ปี 2017
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในทุก ๆ ปี เมืองลาสเวกัสของสหรัฐอเมริกา จะจัดงานมหกรรมเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภค หรือ CES (Consumer Electronics Show) ขึ้น ในช่วงเดือนมกราคม โดยในงานจะมีการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ ของบรรดาผู้ผลิตออกมาแสดงกัน เป็นงานที่พลาดไม่ได้สำหรับคนรักเทคโนโลยีจริง ๆ และในปี 2017 นี้

นอกจากจะมีการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาให้ได้ชมกันแล้ว เรายังได้เห็นแนวโน้มอีกว่าในปีนี้เทคโนโลยีประเภทไหนจะมาแรง และ 9 สิ่งต่อไปนี้ นับว่าเป็น เทรนด์ที่สำคัญสำหรับปีนี้เลยทีเดียว

  • Alexa มาแน่นอน ในปี 2017 นี้ ดูเหมือนว่า สมาร์ทโฟนใหม่ ๆ ทุกรุ่น ทีวี รถยนต์ หรือแม้กระทั่งตู้เย็น จะมีการนำเอาระบบการให้ความช่วยเหลือด้วยเสียง หรือ Voice Assistant ของ Amazon มาใช้ โทรศัพท์รุ่น Mate 9 ของ Huawei ก็มี Alexa เช่นเดียวกับโทรทัศน์ของ Westinghouse Element และ Seiki ซึ่งจะมีระบบปฏิบัติการ การสั่งงาน และรีโมท ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียง ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Ford ก็นำ Alexa มาใช้ในรถ ส่วน LG ก็มีความล้ำสมัยเช่นกัน ด้วยการนำ Alexa มาติดตั้งบนตู้เย็นอัจฉริยะเช่นกัน

 1

  • ระบบเสมือนจริง จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวกันไปเมื่อปี 2016 ความแรงของระบบนี้ก็ไม่ได้ลดลงเลย ปีนี้อุปกรณ์ต่อพ่วง และเทคโนโลยี จะมีการใช้ฟังก์ชั่นนี้กันมากขึ้น และดีขึ้นกว่าเดิม ล่าสุด Intel ก็มีโครงการที่เรียกว่า Alloy ที่จะมีการพัฒนาระบบดังกล่าวในอุปกรณ์แฮนด์เซท เช่นเดียวกัน Qualcomm ซึ่งก็ได้พัฒนา Snapdragon 835 headset ออกมาเช่นกัน

 

  • AR ก็ยังไม่มีถูกลืม โดยในปีนี้ เราจะได้เห็นความหลายกลายของแว่น AR กันมากขึ้น อย่างเช่น Lenovo ก็มี C200 ส่วน Asus ก็มี ZenFone AR ซึ่งมีขนาดที่กำลังเหมาะสม เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ชอบอะไรใหญ่ ๆ อย่างของ Lenovo อย่างไรก็ตาม นี่เหมือนจะเป็นเพียงแค่ขั้นเริ่มต้น ในอนาคตอันใกล้ เราคงจะได้เห็นการขยายตัวของ AR มากกว่านี้

 2

  • อินเทอร์เน็ต จะเข้าไปในทุกสิ่งทุกอย่าง เนื่องจากในปีนี้ ผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยี ต่างก็เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเข้าไปกับผลิตภัณฑ์ของตนเอง แม้กระทั่งในวงการช่างผมอย่าง Kerastase และ L’Oreal โดยได้มีการพัฒนา Bluetooth สำหรับการเชื่อมต่อแปรงผมอัจฉริยะ มีระบบไฮเทค ตัวเซนเซอร์ ที่จะทำให้สามารถแปรงหนัก แปรงเบาได้เพื่อให้เหมาะกับสภาพของเส้นผม

 3

  • วงการเกมส์ ก็มีอะไรที่น่าตื่นเต้นเช่นกัน ปีนี้ นับว่าเป็นปีที่ดีสำหรับเกมส์พีซีเลยก็ว่าได้ ผู้ผลิตอันดับต้น อย่าง Dell และ Alienware ซึ่งเป็นแลปทอปสำหรับนักเล่นเกมส์นั้น จะมีคู่แข่งที่น่าจับตาคือซัมซุง ซึ่งได้เปิดตัวโน๊ตบุ๊ค Odyssey ซึ่งถือว่าเป็นแลปท๊อปสำหรับเจาะตลาดนักเล่นเกมส์โดยเฉพาะ AMD ก็ได้เปิดตัวชิพเซทใหม่ Vega GPU ซึ่งมีความสามารถรองรับการเล่นเกมส์ทั้งแบบ VR และ เกม 4K ทางด้าน Nvidai ไม่ได้เปิดตัวชิพเซทใหม่ แต่มีบริการสำหรับนักเล่นเกมส์ คือ GeForce Now จะให้ผู้ใช้วินโดวส์ และแมค มาเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นเกมส์ที่ทรงพลังใน Cloud และ Razer ก็ได้ทดลองโครงการ Valerie laptop ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มอรรถรสให้กับการเล่นเกมส์ของคอเกมส์ได้มาก

 4

  • โดรน จะเข้ามามีบทบาทมากในปีนี้เช่นกัน จะมีโดรนสำหรับการถ่ายเซลฟี คือ Hover Camera Passport ซึ่งสามารถจะถ่ายทุกภาพของคุณได้ทุกอิริยาบท นอกจากนี้ ยังมี โดรนใต้น้ำ PowerVision PowerRay ซึ่งมีระบบโซน่า และ LED ทำให้สามารถล่อปลาให้เข้ามาใกล้ ๆ ได้ด้วย

 5

  • รถยนต์จะฉลาดขึ้น จะช่วยลดอุบัติเหตุได้มากขึ้น รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวขึ้น วิ่งได้เร็วขึ้น ทั้งยังมีความสามารถเข้าจอดได้ด้วยตัวเอง Chryler ได้เผยแนวคิดรถยนต์ที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตนเอง Nvidai ร่วมมือกับ Audi ติดตั้งระบบ Al-power เตรียมนำออกวิ่งในปี 2020 ซึ่งเป็นกำหนดก่อนหน้า iNext ของ BMW เล็กน้อย

 6

  • Smartwatches จะไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่ในปีนี้ เพราะภายในงานปีนี้ ก็ไม่ได้มีผู้ผลิตรายได้นำผลิตภัณฑ์ที่น่าตื่นเต้นในกลุ่มนี้ออามาแสดง มีเพียงพวกอุปกรณ์ตรวจจับการออกกำลังกาย ซึ่งก็ดูดีกว่าที่ผ่านมา บางรายมีจอแบบสัมผัส บางรายก็พัฒนาให้มีขนาดเล็ก มีรูปแบบใหม่ ๆ แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ได้มีอะไรที่ออกมาสร้างความโดดเด่นนัก

 7

  • ทีวีจะมีความบางมาก ในปีนี้ โซนี่เปิดตัวจอ OLED รุ่น Bravia 4K TV ซึ่งเป็นหนึ่งในจอทีวี ที่มีความบางมาก บางแบบสุด ๆ และที่เด่นมากอีกรายคือ LG กับจอรุ่น Signature W ซึ่งบางจนเหมือนเป็นเพียงแผ่นภาพโปสเตอร์เท่านั้น จึงเป็นจอทีวีที่เห็นแล้วเตะตามากจริง ๆ

 8

  • ราคาของโทรศัพท์มือถือจะมีความสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น โดยในปี 2016 ที่ผ่านมา ราคาของโทรศัพท์มือถือนั้น ยังนับว่าโดยรวม ๆ แล้วอยู่ในระดับกลาง ๆ แต่สำหรับในปีนี้ ราคาจะน่าซื้อมากขึ้น อย่างเช่น Huawei Honor 6X ราคาจะอยู่ที่ 99 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยราคานี้ ตัวเครื่องเป็นโลหะ ประสิทธิภาพการทำงานสูง มีกล้องเลนส์คู่ เป็นต้น โทรศัพท์ประสิทธิภาพการทำงานสูงหลายรุ่น จะมีประมาณ 200 ดอลล่าร์สหรัฐ เช่น Coolpad Conjur จอภาพขนาด 5 นิ้ว Blade V8 Pr ที่สามารถทำงานร่วมกับเครือข่าย GSM หรือ Asus ZenFone 3 Zoom ที่มีโปรเซสเซอร์ Snapdragon 625 แบตตารี่ 5,000mAh และกล้องเลนส์คู่ระบบซูม optical เป็นต้น  

 9

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook