รีวิว Huawei Mate 9 Pro มันคือ Mate 9 ตัวเดิม เพิ่มเติมคือจอโค้งและความจำเยอะขึ้น

รีวิว Huawei Mate 9 Pro มันคือ Mate 9 ตัวเดิม เพิ่มเติมคือจอโค้งและความจำเยอะขึ้น

รีวิว Huawei Mate 9 Pro มันคือ Mate 9 ตัวเดิม เพิ่มเติมคือจอโค้งและความจำเยอะขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 หลังจากที่รีวิว Huawei Mate 9 กันไปก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่าเป็นมือถือแบบ Phablet หรือ Smart phone จอใหญ่อลังการงานสร้าง ถึง 5.9 นิ้ว แต่สำหรับคนที่อยากได้อะไรที่พิเศษกว่าคงต้องดูมือถือใหม่รุ่นนี้อย่าง Mate 9 Pro จะเป็นอย่างไร มาดูกันดีกว่า

รายละเอียดของ Huawei Mate 9 Pro

  • ขนาดตัวเครื่อง 152 x 75 x 7.5 มิลลิเมตร
  • สีตัวเครื่อง Haze Gold, Titanium Grey
  • น้ำหนัก 169 กรัม
  • CPU Hisilicon Kirin 960 Octa-core (4x2.4 GHz Cortex-A73 & 4x1.8 GHz Cortex-A53)
  • GPU Mail G71 MP8
  • RAM 6GB
  • ความจุในตัว 128GB
  • ไม่สามารถเพิ่มความจำได้
  • รองรับสัญญาณเครือข่าย : 2G/3G/4G Cat 12 600/150 Mbps (Dual SIM)
  • WiFi 11 b/g/n/ac, Bluetooth V4.2
  • หน้าจอ 5.5 นิ้ว AMOLED ความละเอียด 2560x1440
  • กล้องหลัง Leica SUMMARIT - H 20+12 ล้านพิกเซล พร้อมกับระบบ Hybrid Auto Focus + Laser Focus + LED Flash True Tone
  • แบตเตอรี่(ประมาณ) 4000 mAh + Super Charge
  • ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat + EMUI 5.0

รูปร่างของ Huawei Mate 9 Pro

ด้านหน้า เปลี่ยนแปลงจาก Mate 9 พอสมควร โดยใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้วแบบโค้งเล็กน้อยความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 2560x1440 พร้อมกับรองรับมัลติทัชได้ 10 จุด

 

ส่วนบนมีกล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับหูฟังที่สามารถแสดงผลเป็นลำโพงได้ และมีไฟสถานะของเรื่อง

 

ส่วนล่าง มีปุ่ม Option 2 ด้านพร้อมกับ Home ตรงกลางซึ่งสามารถเป็นระบบสแกนลายนิ้วมือได้ นอกจากนี้สามารถสั่งปิดปุ่ม Option สั่งงานด้วยปุ่ม Home เพียงปุ่มเดียวได้เช่นกัน

ด้านข้าง เป็นอะลูมิเนียมที่มีความเงาและโค้งลงเล็กน้อยแบบ Metal Unibody พร้อมกับฝั่งซ้ายเป็นที่อยู่ของถาดใส่ซิม โดยซิมแรกจะรองรับแบบ Nano SIM 2 ช่อง

 

ฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียง พร้อมกับปุ่ม Power

 

ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง พร้อมกับช่องอินฟราเรด สำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้า

 

ด้านล่าง มีไมโครโฟนอยู่ฝั่งซ้าย ฝั่งขวาเป็นลำโพง ตรงกลางช่องเสียบ USB-C

 

ด้านหลังคราวนี้กล้องถูกจับมาอยู่แนวตั้งที่มีการพัฒนาร่วมกับ Leica พร้อมกับไฟ LED Flash True Tone และ Laser Focus อยู่ด้านบนและล่าง บนสุดเป็นที่อยู่ของ NFC และโลโก้ Huawei อยู่ล่างสุด และเปลี่ยนลวดลายใหม่ดูดีขึ้นชัดเจน

 

ภาพรวมถือว่าขนาดของเครื่องจับได้มั่นใจกว่าเดิมและความโค้งของเครื่องไม่ได้รบกวนการใช้งานสักเท่าไหร่ ดูแล้วคล่องตัวกว่า Mate 9 ปกติด้วยซ้ำ แต่ข้อเสียคือจอโค้งนี่แหล่ะอาจจะยังไม่คุ้นชินกับหลาย ๆ คน

ประสิทธิภาพของ Huawei Mate 9 Pro

ผลการทดสอบคะแนน Benchmark จาก Antutu ออกมาได้ที่ 122266 คะแนนจัดว่าสูงพอสมควร แต่ว่า Mate 9 ปกติทำได้ดีกว่าเล็กน้อย แต่ไม่ต้องห่วงเพราะการใช้งานและเล่นเกมนั้นทำได้ดีเลยล่ะ และมีระบบ Machine Learning ที่ทำให้ตัวเครื่องมีความลื่นไหลที่เคลมยาวนานถึง 18 เดือน

ส่วนแบตเตอรี่แม้จะมีขนาด 4000 mAh รองรับระบบ Super Charge เหมือนกับ Mate 9 ก็จริง แต่เมื่อการทดสอบโปรแกรมอยู่ได้แค่ 8 ชั่วโมงถือว่านาน แต่กลับแย่กว่า Mate 9 รุ่นปกติ แต่ถ้าในสภาพการใช้งานปกติของผู้เขียนอยู่ได้รอดทั้งวันครับ

ลูกเล่นเด็ดของ Mate 9 Pro

Huawei Mate 9 Pro มีลูกเล่นที่เหมือนกับ Huawei Mate 9 เกือบทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat รุ่นล่าสุดสำหรับมือถือใหม่ แต่ครอบด้วย EMUI 5.0 พัฒนาใหม่ล่าสุด ที่เน้นเรื่องรูปแบบที่ใช้งานง่ายขึ้น แต่ปุ่มสั่งงานจากในหน้าจอก็ย้ายมาอยู่ข้างล่างเหมือนกับ Samsung สามารถปรับแต่งได้ และปิดให้เหลือปุ่ม Home เท่านั้นก็ได้เช่นเดียวกัน

 

จุดเด่นนั้นมีมากมายไม่ว่าจะเป็น

 

  • ระบบสแกนลายนิ้วมืออยู่ด้านหน้าและทำงานได้ไวเหมือนกับ Huawei Mate 9 รองรับการสแกนแม้นิ้วมือจะเปียกก็ตาม และยังสามารถสั่งงานมากมายทั้งการรับสาย ปิดนาฬิกาปลุก, สแกนเข้า Apps หรือจะเป็นปลดล็อคเครื่อง เป็นต้น
  • Smart Assistance เครื่องมือช่วยเหลือมากมายไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานด้วยท่าทาง, ตั้งเวลาเปิดปิด หรือเปิด Floating dock ปุ่มสั่งงานเหมือนกับ iPhone
  • Eye Comfort ช่วยให้อ่านหน้าจอในเวลากลางคืนถนอบสายตามากขึ้น
  • Huawei Share รองรับการรับส่งช้อมูลผ่าน WiFi Direct ที่เร็วกว่าเดิม แต่ว่าจะสแกนเฉพาะเครื่อง ซึ่งตอนนี้ Huawei Mate 9 รองรับเพียงรุ่นเดียว
  • Phone Manager ที่ออกแบบให้จัดการข้อมูลรวมถึงสแกนไวรัสได้ และช่วยเรื่องการจัดการพลังงาน
  • Remote Control ที่สามารถนำมาสั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ และตัวเครื่องรองรับ LTE Cat 12 แรงที่สุด ณ ตอนนี้ทำความเร็วได้สูงสุด 600 Mbps

ระบบเสียงของ Huawei Mate 9 Pro ใช้ระบบ DTS Sound ที่ออกแบบที่ดีพอสมควร รองรับการฟังเพลงได้หลากหลายแบบ แต่จะเหมาะกับแพลงแนว POP Classic มากกว่าแนวเน้นเบสอย่าง Rock และตัวเครื่องสามารถใช้งานกับ File เพลงที่มีคุณภาพสูงอย่าง Hi Res Audio ฟังได้ทั้ง Bluetooth และ เสียบหูฟัง แต่ DTS ทำงานเฉพาะ เสียบหูฟังเท่านั้น และน่าเสียดาย ไม่มี FM Radio มาให้ ตัวเครื่องนี้มีระบบตัดเสียงรบกวนเมื่อคุยสายสนทนาด้วย

นอกจากนี้เครื่องมืออื่น ๆ ของเครื่องให้มาครบทั้ง Smart WiFi+ จะรู้ว่าสถานที่เราอยู่มี WiFi ดีพร้อมต่อหรือไม่ และสลับ Mode 4G อัตโนมัติ, Mirror Share แชร์ภาพหน้าจอให้กับเครื่องอื่น, Screen Record บันทึกภาพหน้าจอแบบภาพวีดีโอได้ และยังบันทึกภาพหน้าจอแบบ Screen ลงมาได้ด้วย, เครื่องอัดเสียงที่สามารถเลือกรูปแบบการอัดได้ 3 แบบ (ปกติ, ประชุม, สัมภาษณ์) สมุดบันทึก, เครื่องคิดเลข, ไฟฉาย และ เครื่องมือดูแลภาพ

 

ส่วนกล้องของ Huawei Mate 9 และ Mate 9 Pro ใช้กล้องรุ่นเดียวกันคือกล้องที่พัฒนารวมกับ Leica แบบ เลนส์คู่ ความละเอียดแตกต่างกัน โดยกล้องขาวดำมีขนาด 20 ล้านพิกเซล กล้องสีตัวที่ 2 มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น และทำให้กล้องหลังซูมได้โดยความละเอียดไม่แตก และสามารถเข้าสู่ mode wide aperture หรือ หน้าชัดหลังเบลอได้ค่า f0.95 และสามารถถ่ายภาพ mode pro พร้อมกับถ่ายภาพแบบ RAW File ปรับโทนสีภาพได้ 

นอกจากนี้เพิ่มความละเอียดในการถ่ายวีดีโอได้ถึง 4K และสามารถสั่งเปิดปิดไมโครโฟนพูดระหว่างการถ่ายวีดีโอได้ด้วย

 

ส่วนกล้องหน้าความละเอียดกล้องหน้าอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล รองรับรูรับแสง F1.9  และมี beauty mode ที่สามารถปรับได้หลากหลายทั้งเลือกเฉพาะคน หรือ ปรับปกติก็ได้เช่นเดียวกัน

 

(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei Mate 9 Pro)

สรุปหลังจากที่ได้ลอง Huawei Mate 9 Pro

ถือว่าเป็นมือถือจอโค้งรุ่นแรกของ Huawei เลยก็ว่าได้ที่มีการปรับปรุงในหลาย ๆ เรื่องทำให้มีความมั่นใจค่อนข้างดีว่า มันจะเป็นมือถือที่สามารถตอบสนองการใช้งานด้านการถือ และประสิทธิภาพลงตัว เพราะได้ RAM กับความจำในตัวเยอะกว่า แต่เสียดายที่ไม่สามารถเพิ่มความจำได้ และอาจจะยังไม่ถูกใจกับคนที่ไม่ชอบจอโค้งแต่ชอบขนาดเล็กกว่า

ส่วนราคานั้นอยู่ที่ 27,990 บาทจัดว่าแพงเอาเรื่องแต่ถ้าเทียบกับคู่แข่งก็มี Galaxy S7 edge ที่พอจะสูสี ซึ่งดีไปคนละเรื่อง ซึ่งคู่แข่งก็มีคุณสมบัติกันน้ำ และระบบโฟกัสภาพที่เร็วมาก แต่ถ้ามอง Mate 9 แต่ต้องการภาพลักษณ์ที่หรู สเปคดีขึ้น และยังชอบภาพคมแบบกล้องจาก Leica ในราคาไม่เกินเอื้อม Huawei Mate 9 Pro ก็ยังลงตัวอยู่ครับ

ข้อดี

  • จับถนัดมือมากกว่า Mate 9
  • ได้ความจำมากกว่าทั้ง RAM และ ROM
  • กล้องหลัง Leica คุณภาพไม่ผิดหวัง
  • ลูกเล่นครบถัวนไม่ขาดอะไร

ข้อควรปรับปรุง

  • จอโค้งติดฟิลม์ยากมาก
  • ราคาค่อนข้างสูง
  • ลูกเล่นไม่ได้แตกต่างจาก Mate 9 เท่าไหร่

 

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ รีวิว Huawei Mate 9 Pro มันคือ Mate 9 ตัวเดิม เพิ่มเติมคือจอโค้งและความจำเยอะขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook