สรุปฟีเจอร์ทั้งหมด สเปก ราคา และวันเปิดตัว พร้อมข้อมูลที่คุณควรรู้ก่อนเผยโฉมจริงในเดือนกันยายนนี้!

สรุปฟีเจอร์ทั้งหมด สเปก ราคา และวันเปิดตัว พร้อมข้อมูลที่คุณควรรู้ก่อนเผยโฉมจริงในเดือนกันยายนนี้!

สรุปฟีเจอร์ทั้งหมด สเปก ราคา และวันเปิดตัว พร้อมข้อมูลที่คุณควรรู้ก่อนเผยโฉมจริงในเดือนกันยายนนี้!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

iPhone 8 (ไอโฟน 8) สรุปฟีเจอร์ทั้งหมด สเปก ราคา และวันเปิดตัว พร้อมข้อมูลที่คุณควรรู้ก่อนเผยโฉมจริงในเดือนกันยายนนี้!

เรียกได้ว่าในช่วงที่ผ่านมามีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับว่าที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Apple ในชื่อ iPhone 8 หลุดออกมาให้ทราบกันอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จากสถาบันต่างๆ ที่ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับ iPhone 8 กันอย่างมากมาย ซึ่งส่วนหนึ่งที่ iPhone 8 กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ทุกคนจับตามองก็เพราะว่าปีนี้จะเป็นปีที่ iPhone ครบรอบ 10 ปี และ iPhone 8 ถูกวางตำแหน่งไว้ให้เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษที่จะมีฟีเจอร์ และคุณสมบัติตัวเครื่องแบบจัดเต็ม ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉม iPhone ขนานใหญ่อีกด้วย

วันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้ทำการสรุปรวมข้อมูลที่ควรรู้ทุกอย่างของ iPhone 8 ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์, คุณสมบัติตัวเครื่อง, ราคา และวันเปิดตัว มาให้ทุกท่านได้รับชมกันว่า iPhone 8 จะมาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจเพียงใด รูปลักษณ์ดีไซน์จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากพร้อมแล้วติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยครับ

 ไอโฟนรุ่นใหม่จะใช้ชื่อ iPhone 8 หรือ iPhone 7s?

1


หากใครที่ใช้งาน หรือติดตามข้อมูลของ Apple เป็นประจำก็จะทราบดีว่า Apple มักเปิดตัวไอโฟนรุ่นหลัก (เลขตัวเดียว) ก่อน แล้วจึงเปิดตัวรุ่น S ที่พัฒนาฟีเจอร์บางอย่างให้ดีขึ้นในปีถัดมา ซึ่งหลังจากที่ Apple ได้เปิดตัว iPhone 7 ในปี 2016 ที่ผ่านมา ถ้ายึดตามธรรมเนียมของ Apple ไอโฟนที่จะเปิดตัวในปี 2017 นี้ ก็ต้องใช้ชื่อว่า iPhone 7s และ iPhone 7s Plus แล้ววางจำหน่ายตามปกติ แต่ความพิเศษของปีนี้อยู่ตรงที่มีผู้คาดการณ์ว่า Apple จะผลิตไอโฟนรุ่นพิเศษในวาระครบรอบ 10 ปี และใช้ชื่อเป็น iPhone 8 พร้อมเปิดตัวในฐานะรุ่น Limited Edition ที่มีคุณสมบัติตัวเครื่องระดับท็อปออกมาวางจำหน่ายด้วย แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันว่า Apple จะเปิดตัวไอโฟนถึง 3 รุ่นจริง หรือจะข้ามไปใช้ชื่อ iPhone 8 แทนที่ iPhone 7s กันแน่

 รูปลักษณ์ดีไซน์ตัวเครื่องแบบใหม่

2


ข้อมูลล่าสุดในขณะนี้ระบุว่า iPhone 8 จะกลับมาใช้รูปลักษณ์แบบ Glass Design ที่ด้านหลังตัวเครื่องแบบเดียวกับ iPhone 4s โดยจะใช้กระจกของ Corning Gorilla Glass ที่มีความคงทนแข็งแรงมากขึ้นกว่าในอดีต ส่วนขอบตัวเครื่องของรุ่นท็อปสุดอาจผลิตจาก Stainless Steel ขณะที่รุ่นปกติจะผลิตด้วย Aluminium ธรรมดาเท่านั้น แต่ข้อมูลนี้ก็ยังไม่นิ่งถึงขนาดจะระบุได้ว่าไอโฟนรุ่นใดจะใช้งาน Glass Design บ้าง แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าเราจะได้เห็นไอโฟนแบบดีไซน์กระจกแน่นอน เพียงแต่ว่า Apple จะใช้ Glass Design กับไอโฟนรุ่นใหม่ทั้งหมด หรือจะมีเพียงรุ่นเดียวที่ได้ใช้งานเท่านั้น

 ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น IP68

3


iPhone 8 อาจจะมาพร้อมฟีเจอร์ ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งพัฒนาขึ้นจาก iPhone 7 ที่อยู่ในระดับ IP67 เท่านั้น โดยฟีเจอร์กันน้ำในระดับ IP68 สามารถกันน้ำลึกได้ถึง 1.5 เมตร เป็นระยะเวลา 30 นาที และสามารถกันน้ำฝน หรือกันน้ำหกใส่ได้แบบสบายๆ

 หน้าจอใหม่แบบ OLED Display กับขอบโค้งสองด้าน และเซ็นเซอร์สแกนนิ้วแบบฝังใต้หน้าจอ

4


สำหรับข้อมูลเรื่องหน้าจอ OLED นี้ถือเป็นจุดเด่นที่สุดของ iPhone 8 เลยก็ว่าได้ เพราะก่อนหน้านี้ Apple ใช้งานหน้าจอแบบ IPS LCD มาโดยตลอด ซึ่งเทคโนโลยีของหน้าจอ OLED นั้นมีความก้าวล้ำกว่าทั้งในด้านของการประหยัดพลังงาน และการแสดงสีสัน หรือความคมชัดของจอภาพที่ยอดเยี่ยมกว่าจอ LCD อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังมีข่าวว่า Apple ได้ว่าจ้างให้ Samsung ผลิตหน้าจอ OLED สำหรับ iPhone เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ยิ่งทำให้น้ำหนักของความเป็นไปได้ที่ iPhone 8 จะใช้หน้าจอ OLED เพิ่มสูงขึ้นอีก

นอกจาก Apple จะใช้งานหน้าจอ OLED แล้ว ยังมีข่าวว่า iPhone 8 รุ่นที่ใช้งานหน้าจอแบบใหม่นี้จะมาพร้อมกับดีไซน์แบบไร้ขอบ (edge-to-edge) ด้วย โดยคาดว่าจะมีขนาดหน้าจอที่ 5.8 นิ้ว ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ารุ่น Plus ที่ใช้งานขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว เท่านั้น อีกทั้งจะใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอด้วย แต่เรื่องเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือนี้ยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะระบุให้ชัดเจนได้ว่า Apple จะพัฒนาฟีเจอร์ขึ้นจริงหรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้อยู่เช่นกัน

 iPhone 8 จะใช้งานแถบ Function Area แทนที่ปุ่มโฮม

5


สืบเนื่องจากการขยายหน้าจอแสดงผลแบบ OLED ให้เป็นแบบไร้ขอบ ดังนั้น Apple จึงอาจต้องถอดปุ่มโฮมรูปทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ออกด้วย และคาดว่า iPhone 8 จะเปลี่ยนไปใช้งานแถบ Function Area ที่สามารถควบคุม และตั้งค่าการใช้งานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ส่วนปุ่มปลดล็อกตัวเครื่องนั้นอาจจะใช้งานในรูปแบบของปุ่มโฮมเสมือนจริง ที่นำเอาเทคโนโลยี 3D Touch และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอมาใช้งานร่วมกันก็เป็นได้

 

ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นกับเทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Facial Recognition)

6


นอกจากเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแล้ว คาดว่า iPhone 8 จะยังใช้งานระบบรักษาความปลอดภัยรูปแบบใหม่กับการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) ซึ่งเป็นการคาดการณ์ของ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ชื่อดังที่ระบุรายละเอียดของสินค้า Apple ได้อย่างแม่นยำ ที่ออกมาให้ความเห็นว่า Apple น่าจะพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยของสมาร์ทโฟนให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น และรักษาความปลอดภัยได้ในระดับสูง เพราะลายนิ้วมือยังสามารถปลอมแปลงได้ แต่โครงสร้างของใบหน้านั้นจะปลอมแปลงได้ยากมาก ดังนั้น iPhone 8 ก็อาจมาพร้อมกับระบบดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยสูงสุดก็เป็นได้

 หน่วยความจำภายในขนาดใหญ่ พร้อมการเขียนข้อมูลที่ไวยิ่งขึ้น

มีข้อมูลว่า iPhone 8 อาจจะใช้งานหน่วยความจำภายในแบบ NAND Flash Storage จาก Samsung ที่มีความเร็วในการ เขียน/อ่าน ข้อมูลที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และ iPhone 8 อาจมีการเพิ่มความจุให้มากขึ้นกว่า 256GB ด้วย แต่ส่วนตัวผู้เขียนมองว่า Apple ไม่น่าจะเพิ่มความจุมากกว่านี้  เพราะความจุขนาด 256GB ก็ถือว่าใหญ่มากแล้ว แต่ Apple น่าจะพัฒนาด้านความเร็วในการประมวลผลของหน่วยความจำมากกว่า

 ระบบ 3D Touch และ Taptic Engine ที่พัฒนามากยิ่งขึ้น

7

8


สำหรับ iPhone 7 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายน 2016 ที่ผ่านมา ได้ใช้งานปุ่มโฮมแบบ Taptic Engine โดยมาแทนที่ปุ่มโฮมแบบ Hard-Key ซึ่งใช้การกดน้ำหนักนิ้วในระดับต่างๆ เพื่อควบคุมการใช้งาน อย่างเช่น การปลดล็อกตัวเครื่อง เป็นต้น ซึ่งคาดว่า iPhone 8 จะมาพร้อมกับระบบ Taptic Engine และ 3D Touch ที่มีฟีเจอร์ให้ใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิม

 แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

9


ไอโฟนเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้รู้สึกว่าให้แบตเตอรี่มาในความจุที่ค่อนข้างน้อย แต่สำหรับ iPhone 8 คาดว่าจะใช้งานแบตเตอรี่ที่มีความจุเพิ่มมากขึ้น เพราะอาจมีฟีเจอร์บางอย่างเพิ่มเติมเข้ามา และต้องใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่า iPhone 8 อาจใช้งานความจุแบตเตอรี่ขั้นต่ำที่ 3000 mAh

 กล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) และกล้องหน้าที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม

10


สำหรับ iPhone 8 นั้นคาดว่าจะใช้งานกล้องคู่ (Dual-Camera) ในลักษณะเดียวกับ iPhone 7 Plus แต่อาจเพิ่มความสามารถบางอย่างเข้ามา เช่น ระบบกันสั่น (OIS) สำหรับทั้งสองเลนส์ หรือการถ่ายภาพแบบ 3D ส่วนกล้องด้านหน้าก็จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติมเพื่อให้ใช้งานร่วมกับการจดจำใบหน้า หรือระบบ AR (Augmented Reality) ในอนาคตด้วย

 iPhone 8 กับ USB Type-C

11


อย่างที่ทราบกันดีกว่า iPhone นั้นใช้พอร์ตการเชื่อมต่อที่ไม่เหมือนกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ โดย iPhone จะใช้งานการเชื่อมต่อแบบ Lightning Port แต่ก็มีข้อมูลว่า iPhone 8 อาจเปลี่ยนไปใช้งาน USB Type-C เพื่อความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น เพราะ Apple ก็ได้เริ่มใช้งาน USB Type-C กับ MacBook Pro 2016 ไปก่อนหน้านี้แล้ว ก็ไม่แน่ว่า iPhone 8 อาจจะมาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อรูปแบบใหม่ก็เป็นได้

 ฟีเจอร์ชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย (Wireless Charging)

12


ฟีเจอร์ชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายก็ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ต้องการมากที่สุดอย่างหนึ่ง ซึ่งในรุ่นก่อนหน้าที่ผ่านมานั้น ตัวเครื่อง iPhone จะผลิตด้วยโลหะ ทำให้ไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ แต่ถ้าหากใช้งานด้วยวัสดุกระจกก็จะสามารถส่งผ่านคลื่นแม่เหล็กสำหรับชาร์จพลังงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็มีข้อมูลบางส่วนระบุว่า Apple อาจพัฒนา iPhone 8 ให้ใช้งานฟีเจอร์ชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายได้ โดยใช้วัสดุ และอุปกรณ์จากบริษัท Luxshure ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนให้กับ Apple Watch และใช้งานฟีเจอร์ชาร์จแบตไร้สายเช่นกัน

 สรุปราคา และวันวางจำหน่าย (แบบไม่เป็นทางการ)

13


สำหรับวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ iPhone 8 รุ่นล่าสุดน่าจะเปิดตัวในเดือนกันยายนตามแบบฉบับของ Apple ที่มักจัดงานเปิดตัวในช่วงเวลาดังกล่าวของทุกๆ ปี แต่จะเป็นวันใดนั้นยังกำหนดไม่ได้แน่ชัด ขณะที่การเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ของ Apple ถ้าหากเปิดตัวออกมาทั้งหมด 3 รุ่นจริง คือ iPhone 7s, iPhone 7s Plus และ iPhone 8 คาดว่า iPhone 7s จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 649 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับไอโฟนรุ่นเริ่มต้นก่อนหน้านี้ที่เปิดตัวในราคาคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่สำหรับราคาไทยอาจต้องพิจารณาในส่วนของค่าเงินที่มีความผันผวนในแต่ละปีด้วย

ส่วน iPhone 8 นั้น นักวิเคราะห์บางรายระบุว่า iPhone 8 จะถูกวางฐานะให้เป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมคล้ายๆ กับรุ่น Limited Edition ซึ่งจะมาพร้อมกับคุณสมบัติตัวเครื่องระดับท็อป และฟีเจอร์บางอย่างที่ในรุ่น S อาจไม่มี โดยราคาเปิดตัวอาจพุ่งสูงขึ้นถึง 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 36,000 บาท) เพราะ Apple อาจตั้งกลุ่มเป้าหมายไปยังลูกค้ากระเป๋าหนักโดยเฉพาะ ที่ต้องการไอโฟนรุ่นพรีเมียมที่สุด ดังนั้น การตั้งราคาไว้ค่อนข้างสูงก็น่าจะมีความเป็นไปได้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดข้างต้นเป็นการสรุปเบื้องต้นของทีมงาน Thaimobilecenter จากข่าวที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ทั้งหมด ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่ารายละเอียดทั้งหมดจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่เป็นเพียงแนวทาง และความน่าจะเป็นที่มีผู้คาดการณ์ไว้เท่านั้น ซึ่งข่าวคราวเกี่ยวกับ iPhone 8 จะหลุดออกมาให้ทราบกันอีกมากน้อยเพียงใด และ iPhone 8 จะเปิดตัวมาสมกับการรอคอยของบรรดาผู้ใช้ iOS หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไปจนกว่าจะเข้าใกล้เดือนกันยายนครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook