ส่อง 5 ฟีเจอร์เด็ดของ Samsung Galaxy S8 สมาร์ทโฟนเรือธงป้ายแดง กับการพลิกโฉมดีไซน์

เรียกได้ว่าเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่สมการรอคอย สำหรับ Samsung Galaxy S8 และ S8+ สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับการปรับเปลี่ยน และอัปเกรดขึ้นในทุกๆ ด้าน รวมถึงได้รับการถ่ายทอดฟีเจอร์เด่นมาจากเรือธงรุ่นพี่อย่าง Galaxy S7 และ Galaxy Note7 อย่างครบถ้วน ในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter จะขอแนะนำ 5 ฟีเจอร์เด่นของ Galaxy S8 และ S8+ ให้ได้ชมกัน ซึ่งจะเป็นฟีเจอร์การทำงานในด้านใดบ้างนั้น เชิญติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยค่ะ 

หน้าจอ Infinity Display พร้อมการดีไซน์โฉมใหม่หมดจด

สำหรับหนึ่งสิ่งที่ Samsung Galaxy S8 และ S8+ เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนๆ ก็คือการดีไซน์หน้าจอไร้ขอบโฉมใหม่แบบ Infinity Display ขนาดใหญ่ถึง 5.8 นิ้ว และ 6.2 นิ้ว ในอัตราส่วน 18.5 : 9 โดยที่ขนาดตัวเครื่องเท่าเดิม ซึ่งถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล Galaxy S Series เลยก็ว่าได้ สำหรับ Galaxy S8 มีหน้าจอแสดงผลคิดเป็นพื้นที่ 83.3% ในขณะที่ S8+ มีพื้นที่ 83.9% ด้วยการตัดปุ่มโฮมแบบ Hard-Key แบบในรุ่นก่อนออก และย้ายเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปไว้ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง รวมไปถึงรูปลักษณ์ของตัวเครื่องที่ผอมเพรียวลง  พร้อมปกป้องหน้าจอด้วยกระจกสุดแกร่งอย่าง Gorilla Glass 5
 

ยกระดับความปลอดภัยให้สูงขึ้นกับเซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner) และฟังก์ชันการจดจำใบหน้า

แม้ว่า Samsung Galaxy Note7 จะเกิดเหตุไม่คาดฝันจนทำให้ต้องยุติการวางจำหน่ายไปเสียก่อน ทาง Samsung ได้นำฟีเจอร์เด่นที่เป็นตัวชูโรงของ Galaxy Note7 อย่างระบบการสแกนม่านตา (Iris Scanner) มายกให้กับ Galaxy S8 และ S8+ ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่พัฒนาเพิ่มขึ้นอีกขั้น ด้วยการรวมรหัสผ่านแบบ Biometric ทั้งม่านตา, การจดจำใบหน้า และลายนิ้วมือ เข้าด้วยกัน เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนสำหรับการใช้งานที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูง เช่น ธุรกรรมการเงิน เป็นต้น โดยแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานร่วมกับการสแกนม่านตาได้ในขณะนี้คือ Secure Folder, Samsung Pass และ Samsung Pay
 

Bixby AI Assistant ผู้ช่วยสุดอัจฉริยะในรูปแบบใหม่

หนึ่งในฟีเจอร์ที่สำคัญของ Samsung Galaxy S8 และ S8+ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Bixby ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยสุดอัจฉริยะให้กับผู้ใช้ โดยมีฟังก์ชันการใช้งานทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ Bixby (Vision) วิเคราะห์เนื้อหาด้วยภาพ เพื่อหาข้อมูลต่างๆ ที่ผู้ใช้อยากทราบ, Bixby (Home) เป็น Dashboard ที่รวมข้อมูลทุกอย่างไว้ในที่เดียว, Bixby (Reminder) ช่วยในการเตือนเรื่องสำคัญต่างๆ ที่บันทึกไว้ และ Bixby (Voice) ตอบสนองการใช้งานด้วยคำสั่งเสียงในรูปแบบต่างๆ
 

จับภาพที่คมชัดยิ่งขึ้นด้วยกล้องดิจิทัล 100% AF Dual-Pixel 

Samsung Galaxy S8 และ S8+ มาพร้อมกับเทคโนโลยีการถ่ายภาพแบบใหม่ด้วยกล้อง 100% AF Dual-Pixel ที่จับภาพได้คมชัด และประมวลความคมชัดของภาพด้วยการรวมภาพถ่าย 3 เข้าด้วยกัน เพื่อให้รายละเอียดทั้งหมดคมชัดมากยิ่งขึ้น หรือรวมภาพ 5 ภาพ กรณีอยู่ในโหมดซูม นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเข้าสู่โหมดถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดปุ่ม Power ติดกัน 2 ครั้ง
 

DeX อุปกรณ์เสริมสำหรับการใช้งานในโหมด Desktop

DeX อุปกรณ์เสริมสุดพิเศษที่จะช่วยเปลี่ยนให้ Samsung Galaxy S8 และ S8+ ไปใช้งานในรูปแบบคอมพิวเตอร์ขนาดย่อมได้อย่างง่ายดาย เพียงวางตัวเครื่องลงบนแท่น Dock ซึ่งผู้ใช้งานสามารถทำงานเอกสารต่างๆ ได้เหมือนคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเลยทีเดียว รวมไปถึง Samsung 360 กล้องถ่ายภาพรอบทิศทางที่สามารถเก็บภาพได้ทั้ง 360 องศา พร้อมฟีเจอร์การ Live ลง Facebook หรือ Youtube ได้ทันที ซึ่ง Samsung 360 สามารถถ่ายได้ทั้งวิดีโอ และภาพนิ่งแบบ 360 องศาด้วยเช่นกัน
 

เรียกได้ว่า 5 ฟีเจอร์เด่นของ Samsung Galaxy S8 และ S8+ ข้างต้น เป็นการอัปเกรดขึ้นจากรุ่นเดิมขึ้นอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากนี้สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่จัดเต็มครบครัน พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานในระดับไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอคมชัดระดับ 2K Quad HD, ชิปเซ็ต Exynos 8895, ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat เวอรันใหม่ และคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68

Samsung Galaxy S8 และ S8+ เปิดให้ทำการสั่งจองล่วงหน้า (Pre-Order) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในราคาเริ่มต้นราว $720 (ดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 24,900 บาท และ $840 (ดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 28,900 บาท ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 เมษายนนี้ สำหรับท่านที่สนใจสองสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่นี้ คงต้องอดใจรอกันอีกสักนิด คาดว่าทาง Samsung ประเทศไทยจะออกมาประกาศราคา และกำหนดการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้ได้ทราบโดยทั่วกันในเร็วๆ นี้