เทียบ Samsung Galaxy J3, J5 และ J7 เวอร์ชันปี 2017 ใหม่ล่าสุดจากซีรีส์ Galaxy J

เทียบ Samsung Galaxy J3, J5 และ J7 เวอร์ชันปี 2017 ใหม่ล่าสุดจากซีรีส์ Galaxy J

เทียบ Samsung Galaxy J3, J5 และ J7 เวอร์ชันปี 2017 ใหม่ล่าสุดจากซีรีส์ Galaxy J
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปรียบเทียบ Samsung Galaxy J3, J5 และ J7 เวอร์ชันปี 2017 ใหม่ล่าสุดจากซีรีส์ Galaxy J กับการพลิกโฉมดีไซน์ใหม่หมดจด และฟีเจอร์อัปเกรดครบครัน แต่ละรุ่นโดดเด่นอย่างไร เราสรุปมาให้ท่านแล้ว!

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทาง Samsung ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของโลกได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนจากตระกูล Galaxy J Series ประจำปี 2017 พร้อมกัน 3 รุ่นรวดในตลาดยุโรป ได้แก่ Samsung Galaxy J3 (2017), Galaxy J5 (2017) และ Galaxy J7 (2017) โดยสมาร์ทโฟนซีรีส์ J ทั้ง 3 รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับการเปลี่ยนเปลี่ยนดีไซน์ครั้งใหญ่ ด้วยการผลิตตัวเครื่องด้วยวัสดุประเภทโลหะที่มีความโค้งมนมากกว่าเดิม รวมถึงได้รับการอัปเกรดฟีเจอร์ และคุณสมบัติเด่นให้ครอบคลุมการทำงานมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน 

ท่านผู้อ่านอาจเกิดความสงสัยว่า สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy J Series ทั้ง 3 รุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมฟีเจอร์เด่นในด้านใด และมีความแตกต่างกันมากเพียงไหน ดังนั้นในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงนำ Samsung Galaxy J3, J5 และ J7 เวอร์ชันปี 2017 มาทำการเปรียบเทียบฟีเจอร์ และคุณสมบัติเด่นในด้านต่างๆ ให้ได้ชมกันอย่างชัดเจน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่มีความสนใจสมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่นใหม่นี้ หากพร้อมแล้วเชิญติดตามชมที่ตารางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
 

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับการเปรียบเทียบสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy J Series ทั้ง 3 รุ่นใหม่นี้ จะเห็นได้ว่าแต่ละรุ่นมีฟีเจอร์เด่นที่แตกต่างกันออกไปเพื่อตอบโ๗ทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ เริ่มที่ Samsung Galaxy J3 (2017) สมาร์ทโฟนน้องเล็กจากซีรีส์นี้ มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 219 ยูโร (ประมาณ 8,400 บาท) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในระดับพื้นฐาน และมีงบประมาณในหลักพัน โดยมาพร้อมกับตัวเครื่องโลหะ และใช้งานหน้าจอคมชัดระดับ HD ขนาด 5 นิ้ว

ซึ่งขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปเซ็ต Exynos 7570, RAM 2GB, มีพื้นที่ภายใน 16GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้อีก 256GB และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat พร้อมแบตเตอรี่ 2400 mAh, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.2 และ NFC ซึ่งค่อนข้างเป็นที่น่าเสียดายที่ Galaxy J3 (2017) ไม่รองรับฟีเจอร์การสแกนลายนิ้วมือ

สำหรับ Smaung Galaxy J5 (2017) สมาร์ทโฟนรุ่นรองท็อปมีราคาเปิดตัวที่ 279 ยูโร (ประมาณ 10,700 บาท) ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานในระดับกลางเป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานโซเชียลมีเดีย, การถ่ายรูป, การเล่นเกม หรือการชมภาพยนตร์ และมีงบประมาณอยู่ที่หมื่นต้นๆ โดยมาพร้อมกับตัวเครื่องโลหะ ใช้งานหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED HD ขนาด 5.2 นิ้ว และขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปเซ็ต Exynos 7870 พร้อม RAM 2GB, มีพื้นที่ภายใน 16GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้อีก 256GB, กล้องหน้า และกล้องหลังความละเอียดเท่ากันที่ 13 ล้านพิกเซล และใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องด้วยแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh บนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat รวมถึงรองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner), การเชื่อมต่อ Bluetooth 4.2 และ NFC

ลำดับสุดท้ายกับพี่ใหญ่ประจำตระกูลอย่าง Samsung Galaxy J7 (2017) ที่มีราคาเปิดตัวสูงสุดที่ 339 ยูโร (ประมาณ 13,000 บาท) เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานฟีเจอร์ที่หลากหลายทั้งเรื่องงาน และความบันเทิง ในระยะเวลายาวนานต่อเนื่องทั้งวัน โดยมีตัวเครื่องแบบโลหะ พร้อมใช้งานหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล) ซึ่งขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปเซ็ต Exynos 7870 พร้อม RAM 3GB, พื้นที่ภายใน 16GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้อีก 256GB บนระบบปฎิบัติการ Android 7.0 Nougat และสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องด้วยแบตเตอรี่ความจุ 3600 mAh พร้อมกันนี้ยังใช้งานกล้องหน้า และหลังความละเอียดเท่ากันที่ 13 ล้านพิกเซล รวมถึงรองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner), การเชื่อมต่อ Bluetooth 4.2 และ NFC

เรียกได้ว่า Samsung Galaxy J Series เวอร์ชันปี 2017 ทั้ง 3 รุ่นใหม่นี้ รองรับการใช้งานได้ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน ไปจนถึงระดับกลางๆ ด้วยคุณสมบัติ และฟีเจอร์ครบครัน ซึ่งยังไม่มีการประกาศอย่างแน่ชัดว่าจะมีการนำ Samsung Galaxy J3, J5 และ J7 เวอร์ชันปี 2017 เข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราด้วยหรือไม่ คาดว่าทาง Samsung จะออกมาประกาศ และชี้แจงให้ได้ทราบกันอีกครั้งหนึ่งในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้จึงขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองว่า มีความพึงพอใจในรุ่นใดมากกว่ากัน และรุ่นใดจะสามารถตอบโจทย์การใช้งานในไลฟ์สไตล์ของท่านได้ดีที่สุด ซึ่งหากว่าได้ทดลองใช้งานในเบื้องต้นแล้วเกิดความพึงพอใจทั้งในด้านการดีไซน์, ฟีเจอร์เด่น และราคาวางจำหน่าย ก็ถือได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นคุ้มค่าแก่การจับจองเป็นเจ้าของแล้วค่ะ สำหรับวันนี้ทางทีมงานต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันได้ใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Samsung Galaxy J3, J5 และ J7 เวอร์ชันปี 2017

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook