7 คุณสมบัติพื้นฐานที่ผู้ใช้ควรรู้ก่อนเลือกซื้อมือถือ Android ในราคาไม่เกิน 7,000 บาท!

7 คุณสมบัติพื้นฐานที่ผู้ใช้ควรรู้ก่อนเลือกซื้อมือถือ Android ในราคาไม่เกิน 7,000 บาท!

7 คุณสมบัติพื้นฐานที่ผู้ใช้ควรรู้ก่อนเลือกซื้อมือถือ Android ในราคาไม่เกิน 7,000 บาท!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

7 คุณสมบัติพื้นฐานที่ผู้ใช้ควรรู้ก่อนเลือกซื้อมือถือ Android ในราคาไม่เกิน 7,000 บาท! หากจะเลือกมือถือควรดูส่วนใด สเปคขั้นต่ำเป็นอย่างไร คุ้มค่าน่าซื้อหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ!

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกับทีมงาน Thaimobilecenter พร้อมข่าวสาร และสาระน่ารู้ในวงการสมาร์ทโฟนกันอีกครั้งนะครับ หากย้อนกลับไปในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา ท่านผู้อ่านหลายท่านคงเคยพบเห็นโทรศัพท์แบบพกพาขนาดใหญ่ที่ถือเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับการติดต่อสื่อสารยุคแรกๆ หลังจากนั้นมือถือก็เริ่มมีขนาดเล็กลง พร้อมทั้งมีฟีเจอร์หลายอย่างที่ถูกพัฒนาเพิ่มเติมเข้ามาจนกลายเป็น "สมาร์ทโฟน" ดังที่เราพบเห็น และใช้งานกันในปัจจุบัน

เรียกได้ว่าสมาร์ทโฟนได้กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่มนุษย์ส่วนใหญ่จะขาดไปไม่ได้ ทำให้ในปัจจุบันมีมือถือทยอยเปิดตัวออกมามากมายหลายรุ่น ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ตามประสิทธิภาพของการใช้งาน และฟีเจอร์ของแต่ละรุ่น

โดยมือถือรุ่นยอดนิยมที่สุดก็มักจะเป็นมือถือระดับกลางที่มีคุณสมบัติตัวเครื่องที่ครอบคลุมการใช้งานในทุกๆ ด้าน และมีราคาวางจำหน่ายที่ไม่สูงจนเกินไป ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจะเลือกซื้อมือถือตามความต้องการในการใช้งานของตนเองเป็นหลัก และบางท่านก็มีพื้นฐานความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมือถืออยู่บ้าง

จึงไม่เป็นปัญหาเท่าใดนัก ขณะที่ผู้ใช้บางท่านที่ไม่ค่อยชำนาญทางด้านเทคโนโลยี แต่ต้องการเลือกซื้อมือถือมาใช้งานสักหนึ่งเครื่องอาจจะไม่ทราบว่าการเลือกซื้อมือถือนั้นจะต้องดูในส่วนใดบ้าง และอาจมีคำถาม หรือข้อสงสัยเกิดขึ้น

วันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter จึงขออาสาแนะนำ 7 คุณสมบัติพื้นฐานที่ผู้ใช้ควรรู้ก่อนเลือกซื้อมือถือ Android ในราคาไม่เกิน 7,000 บาท ซึ่งสาเหตุที่ทีมงานตั้งงบประมาณไว้เท่านี้ เพราะว่า มือถือในช่วงระดับราคา 5,000 - 7,000 บาท จะเป็นมือถือระดับกลางที่มีคุณสมบัติครอบคลุม และใช้งานได้ตามมาตรฐานของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน 

ซึ่งสมาร์ทโฟนที่มีราคาสูงกว่านี้ก็จะมีฟีเจอร์พิเศษต่างๆ เพิ่มเข้ามา แต่สาระสำคัญของบทความนี้ต้องการเน้นไปที่กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการใช้งานเบื้องต้น เช่น การโทรศัพท์, LINE, Facebook, Instagram, การเล่นเกม หรือการถ่ายภาพ เป็นต้น

ซึ่งสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 7,000 บาท สามารถตอบโจทย์การใช้งานทั้งหมดนี้ได้โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อมือถือราคาแพงแต่อย่างใด และ 7 คุณสมบัติพื้นฐานเหล่านี้จะมีอะไรบ้างนั้น ขอเชิญทุกท่านติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยครับ

 หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ขึ้นไป

แม้ว่าก่อนหน้านี้มือถือรุ่นเก่าๆ จะมีขนาดหน้าจอที่ประมาณ 3 - 4 นิ้ว เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันสมาร์ทโฟนที่เอื้ออำนวยให้ผู้ใช้สามารถรับชม content ต่างๆ ได้อย่างสะดวก และชัดเจนนั้น ควรมีหน้าจอขนาด 5 นิ้วขึ้นไป

ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานที่ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปจนยากแก่การจับถือด้วยมือข้างเดียว และยังพกพาได้แบบไม่ลำบากนัก อีกทั้งหน้าจอขนาด 5 นิ้วขึ้นไป ยังมีพื้นที่สำหรับการใช้นิ้วสัมผัสหน้าจอได้แม่นยำ และไม่กดผิดบ่อยๆ เช่น การพิมพ์ข้อความบนคีย์บอร์ด เป็นต้น รวมไปถึงตัวหนังสือที่จะใหญ่ขึ้นตามสัดส่วนของหน้าจอ ซึ่งช่วยรักษาสายตาของผู้ใช้เพราะไม่ต้องเพ่งมากเกินไป

ความละเอียดหน้าจอต้อง HD 720p ขึ้นไป


ถ้าหากหน้าจอมีขนาดใหญ่ แต่ความละเอียดของจอน้อยๆ นั้น ผู้ใช้จะเห็นภาพที่ปรากฏเป็นเม็ดพิกเซลสี่เหลี่ยมเต็มหน้าจอซึ่งดูแล้วคงไม่สวยงามเท่าใดนัก ดังนั้น ไม่ว่าท่านจะเลือกสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาดเท่าใดก็ตาม ความละเอียดของจอขั้นต่ำควรจะต้องเลือกที่ HD 720p (1280x720 พิกเซล) เท่านั้น หากเป็นความละเอียดที่ qHD (960x540 พิกเซล) หรือ WVGA (800x480 พิกเซล) นั้น ถือว่าไม่ได้มาตรฐานของช่วงราคานี้

หน่วยความจำแรม (RAM) ต้องมีขนาดอย่างน้อย 2GB


ก่อนอื่นต้องอธิบายสักเล็กน้อยว่า RAM คือหน่วยความจำแบบชั่วคราวที่เป็นตัวกลางในการส่งคำสั่งประมวลผลข้อมูลต่างๆ ซึ่งไม่ว่าผู้ใช้จะเปิดใช้งานแอปพลิเคชันใดก็จะต้องเสียพื้นที่ RAM เพื่อประมวลผลให้กับแอปพลิเคชันนั้นๆ ทุกครั้ง

ดังนั้น การที่มี RAM ขนาดใหญ่จึงหมายความว่า ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานแอปพลิเคชันได้หลายโปรแกรมโดยที่ไม่เกิดอาการกระตุก หรือเครื่องค้างแต่อย่างใด ซึ่งขนาดของ RAM มือถือที่สามารถใช้งานเบื้องต้นได้อย่างสบายๆ นั้น ควรจะมีขนาด 2GB เป็นอย่างต่ำ

 หน่วยความจำภายใน (ROM) ขั้นต่ำต้องมีขนาด 16GB

สำหรับหน่วยความจำภายใน (ROM) ของสมาร์ทโฟนนั้น ผู้ใช้จะไม่ได้ใช้งานเต็มความจุของพื้นที่อย่างแน่นอน เพราะส่วนหนึ่งต้องเสียให้กับตัวระบบปฏิบัติการ และโปรแกรมบางอย่างที่ไม่สามารถลบได้ ซึ่งถ้าหาก ROM มีเพียง 8GB ผู้ใช้อาจได้ใช้งานจริงเพียงแค่ 4GB-5GB ก็เป็นได้

ซึ่งเป็นความจุที่อาจน้อยเกินไปสำหรับการเก็บข้อมูล เช่น รูปถ่าย, ไฟล์เพลง หรือการลงแอปพลิเคชัน เป็นต้น ดังนั้น ควรเลือกมือถือที่มี ROM ขั้นต่ำขนาด 16GB ไว้จะดีกว่า

ควรรองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card

แม้ว่าหน่วยความจำภายใน (ROM) จะมีขนาดถึง 16GB แล้ว แต่ถ้าจะให้เป็นการดี มือถือรุ่นนั้นควรรองรับการใช้งานหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card ด้วย เพราะบางครั้งผู้ใช้อาจใช้งาน และเก็บข้อมูล เช่น รูปถ่าย หรือไฟล์เพลง ไว้ตลอด จนกระทั่งพื้นที่ ROM เต็ม และต้องลบข้อมูลเหล่านั้นทิ้งไปเพื่อเรียกพื้นที่กลับคืนมา ดังนั้น ถ้าหากผู้ใช้ท่านใดคิดว่าตนเองมีข้อมูลที่จำเป็นต้องเก็บไว้บนมือถือเยอะๆ การเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำด้วยการรองรับ microSD Card จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ต้องสังเกตด้วยว่ามือถือรุ่นนั้นรองรับ microSD Card ที่ขนาดความจุเท่าใดบ้าง โดยปกติแล้วมักจะมีขนาดตั้งแต่ 1GB, 2GB, 4GB, 8GB, 16GB ไปจนถึงสูงสุดประมาณ 128GB (ตัวเลขยิ่งเยอะ ยิ่งเก็บข้อมูลได้มากขึ้น) สำหรับมือถือในช่วงราคาไม่เกิน 7,000 บาท

รองรับการใช้งาน 4G LTE

แน่นอนว่าในยุคนี้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านทางสมาร์ทโฟน ซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้ก็เป็นยุคของเทคโนโลยี 3G แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเป็น 4G LTE ซึ่งมีความเร็ว และมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าระบบ 3G ดังนั้นหากท่านใดที่กำลังจะเลือกซื้อมือถือ ควรเลือกรุ่นที่รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนระบบ 4G LTE เพื่อการใช้งานที่คุ้มค่าที่สุด

ควรใช้งานกล้องดิจิทัลด้านหลัง 13 ล้านพิกเซล และกล้องดิจิทัลด้านหน้า 5 ล้านพิกเซล

ตั้งแต่มีการพัฒนากล้องถ่ายภาพให้เป็นส่วนหนึ่งของสมาร์ทโฟนก็เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติวงการเทคโนโลยีทั้งด้านอุปกรณ์สื่อสาร และวงการถ่ายภาพกันเลยทีเดียว ซึ่งฟีเจอร์กล้องถ่ายภาพก็กลายมาเป็นฟีเจอร์มาตรฐานที่สมาร์ทโฟนทุกรุ่นจำเป็นต้องมี โดยสมาร์ทโฟนในช่วงราคาไม่เกิน 7,000 บาท นั้น ควรจะต้องมีความละเอียดของกล้องถ่ายภาพด้านหลังอย่างน้อย 13 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องด้านหน้าควรมีความละเอียดอย่างน้อย 5 ล้านพิกเซล ซึ่งความละเอียดขั้นต่ำของกล้องทั้งสองตัวนี้สามารถใช้ถ่ายภาพต่างๆ ได้อย่างไร้ปัญหา 

 คุณสมบัติพิเศษที่อาจพบได้ในมือถือบางรุ่น

หน้าจอความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p - ส่วนใหญ่แล้วมือถือระดับกลางจะมาพร้อมหน้าจอความละเอียดระดับ HD 720p แต่สำหรับสมาร์ทโฟนบางรุ่นอาจใส่หน้าจอความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p มาให้แม้ว่าจะเป็นมือถือระดับกลางในราคาไม่เกิน 7,000 บาท ก็ตาม

ระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow - สำหรับสมาร์ทโฟนในช่วงราคาไม่เกิน 7,000 บาท ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop ซึ่งสามารถใช้งานได้เหมือนกัน เพียงแต่ไม่ใช่เวอร์ชันใหม่ล่าสุดเท่านั้น แต่สำหรับมือถือบางรุ่นในช่วงราคานี้ก็มาพร้อม Android 6.0 Marshmallow เวอร์ชันล่าสุดให้ได้ใช้งานกันทันที
 

เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) - ฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือส่วนมากมักพบในมือถือระดับ Mid-High หรือในระดับ High-End แต่ในปัจจุบันมือถือหลายรุ่นก็เริ่มยึดฟีเจอร์นี้เป็นมาตรฐานที่ควรมีในมือถือทุกรุ่น ดังนั้น มือถือในช่วงราคาไม่เกิน 7,000 บาท ก็มีบางรุ่นที่ใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ใช้งานด้วย

 เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ คุณสมบัติพื้นฐานที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อมือถือ Android ในราคาไม่เกิน 7,000 บาท เรียกได้ว่าถ้าหากผู้อ่านท่านใดกำลังจะเลือกซื้อมือถือไว้ใช้งานสักหนึ่งรุ่น ก็สามารถเปิดบทความนี้แล้วตรวจสอบมือถือรุ่นนั้นๆ ได้ว่ามีคุณสมบัติข้างต้นครบหรือไม่ 

ซึ่งรายละเอียดที่เราแนะนำนั้นเป็นคุณสมบัติขั้นต่ำที่สมาร์ทโฟนในช่วงราคานี้ควรมีให้ใช้งาน ยกเว้นกลุ่มคุณสมบัติพิเศษที่จะพบได้แค่สมาร์ทโฟนบางรุ่นเท่านั้น และอย่างที่เราได้กล่าวไว้ในตอนต้นว่า สมาร์ทโฟนระดับกลางในช่วงราคาไม่เกิน 7,000 บาท ก็สามารถใช้งานได้ครบทุกด้านไม่แพ้สมาร์ทโฟนระดับสูง

ดังนั้น หากท่านใดที่ไม่เน้นใช้งานฟีเจอร์ล้ำๆ หรือการใช้งานที่ต้องประมวลผลค่อนข้างหนักหน่วง ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินแพงๆ เพียงเพื่อซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งที่สวยหรูดูดี แต่เรายังใช้งานฟีเจอร์ได้ไม่ครบเลยนะครับ ส่วนท่านใดที่ต้องการใช้งานเบื้องต้นอย่างสบายๆ บทความนี้จะช่วยให้ท่านได้เลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่ตรงใจมากยิ่งขึ้นแน่นอนครับ

สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook