สหรัฐฯ ทุ่มเม็ดเงินกว่า 2,200 ล้านบาท พัฒนาโปรเจ็กต์เชื่อมสมองมนุษย์เข้ากับคอมพิวเตอร์

สหรัฐฯ ทุ่มเม็ดเงินกว่า 2,200 ล้านบาท พัฒนาโปรเจ็กต์เชื่อมสมองมนุษย์เข้ากับคอมพิวเตอร์

สหรัฐฯ ทุ่มเม็ดเงินกว่า 2,200 ล้านบาท พัฒนาโปรเจ็กต์เชื่อมสมองมนุษย์เข้ากับคอมพิวเตอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สหรัฐฯ ทุ่มเม็ดเงินกว่า 2,200 ล้านบาท พัฒนาโปรเจ็กต์เชื่อมสมองมนุษย์เข้ากับคอมพิวเตอร์ คาดเตรียมนำมาใช้ด้านการแพทย์โดยเฉพาะ

การเชื่อมต่อสมองมนุษย์เข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ แม้ว่าจะเป็นแนวคิดที่ดูค่อนข้างล้ำหน้าเหนือความคาดหมาย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด เพราะช่วงก่อนหน้านี้ Elon Musk เจ้าพ่อแห่งวงการรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ได้ประกาศตั้งบริษัทใหม่ในชื่อ Neuralink ที่มีเป้าหมายเชื่อมสมองคนเข้ากับคอมพิวเตอร์มาแล้ว แต่ Tesla ไม่ใช่บริษัทเดียวที่ให้มีความสนใจในเรื่องนี้ เพราะ Facebook เองก็เคยเสนองานวิจัยเกี่ยวกับการพิมพ์ข้อความด้วยสมอง โดยไม่ต้องออกแรงกดคียบอร์ดให้เห็นเป็นที่เรียบร้อย

และล่าสุดก็มาถึงฝั่ง กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ (Department of Defense) ที่ได้เดินหน้าสนับสนุนแนวคิดนี้ด้วย หลังทุ่มเม็ดเงินเป็นจำนวนกว่า 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,200 ล้านบาท ให้แก่ DARPA (หน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศ) เพื่อสนับสนุนร่วมโครงการวิจัยทางด้านสมองอย่าง Neural Engineering System Design (NESD) ที่ได้เริ่มเดินโครงการไปตั้งแต่ช่วงต้นปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการร่วมมือกับทีมมหาวิทยาลัย และองค์กรต่างๆ ทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่ Brown University, Columbia University, The Seeing and Hearing Foundation, the John B. Pierce Laboratory, Paradromics Inc และ the University of California

Brain Mouse งานวิจัยจาก Facebook เกี่ยวกับการพิมพ์ข้อความโดยตรงจากสมองมนุษย์ ที่เคยนำเสนอผ่านงาน F8 เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา

เป้าหมายของโครงการ NESD คือ การพัฒนาระบบติดต่อสื่อสารระหว่างสมองมนุษย์กับโลกดิจิทัล ที่สามารถนำไปปลูกฝังไว้ในสมองมนุษย์ได้ โดยโปรเจ็กต์ครั้งนี้จะช่วยให้มนุษย์สามารถแปลงค่าสัญญาณทางเคมี และค่าสัญญาณไฟฟ้าจากสมอง ไปสู่เครื่องอ่านข้อมูล และสามารถแปลงกลับเข้ามายังสมองใหม่ได้ ซึ่งทางผู้ดำเนินโครงการหวังว่า กระบวนการนี้จะช่วยให้มนุษย์สื่อสารกับเซลล์ประสาทในสมองได้มากถึง 1 ล้านเซลล์ จากเซลล์ประสาททั้งหมด 86,000 ล้านเซลล์ที่มีในสมองมนุษย์

ในเฟสแรก NESD ตั้งเป้าไปที่การพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ขั้นพื้นฐานสำหรับเชื่อมต่อกับสมองก่อน ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาราว 1 ปี ส่วนเฟสสอง จะเน้นไปที่การย่อส่วนเทคโนโลยีดังกล่าวให้เล็กลง พร้อมกับเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้งาน ก่อนที่จะส่งต่อให้ FDA (องการอาหารและยาในสหรัฐฯ) เพื่อรับรองความปลอดภัยในการฝังเทคโนโลยีดังกล่าวลงบนสมองมนุษย์เป็นลำดับต่อไป

อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะเป็นแนวคิดที่ดูล้ำยุค จนหลายฝ่ายคิดไปถึงการอัปเกรดความสามารถให้เหนือมนุษย์เหมือนในหนังกันไปแล้ว แต่โปรเจ็กต์ดังกล่าวก็ยังมีความท้าทายอยู่บ้าง เช่น จะทำให้อย่างไรให้อุปกรณ์ดังกล่าวอยู่ภายในร่างกายมนุษย์ได้โดยไม่เสียหาย เป็นต้น

นอกจากนี้ ทาง Paradromics หนึ่งในทีมงานที่ร่วมทีม NESD ก็ได้ออกมาให้ความเห็นว่า โปรเจ็กต์ดังกล่าว ไม่ได้ช่วยให้เราสามารถอ่านใจคนได้เหมือนกับในหนังแต่อย่างใด แต่จะเน้นไปที่การค้นคว้าเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ด้านการแพทย์ เพื่อรักษาผู้ป่วยทางกาย และจิตใจมากกว่า ซึ่งคงต้องเอาใจช่วยกันต่อไปว่า โครงการดังกล่าวจะสำเร็จลุล่วงได้จริงในช่วงเวลาใด และจะออกมาในรูปร่างแบบไหนกันแน่ครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook