4 คำแนะนำวิธีเลือก เร้าเตอร์ (Router) ใหม่ให้เหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้านคุณแบบง่าย ที่สุด

4 คำแนะนำวิธีเลือก เร้าเตอร์ (Router) ใหม่ให้เหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้านคุณแบบง่าย ที่สุด

4 คำแนะนำวิธีเลือก เร้าเตอร์ (Router) ใหม่ให้เหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้านคุณแบบง่าย ที่สุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตมักจะมีบทบาทมากมายนอกบ้าน แม้กระทั่งในบ้านของแต่ละคน ซึ่งการเลือกซื้ออุปกรณ์ที่เพิ่มพลังและบทบาทภายในบ้าน เป็นอีกสิ่งที่หลายคนบอกว่า ยาก และบางครั้งก็ไม่เข้าใจว่าเลือกอย่างไรถึงเหมาะสม วันนี้ Sanook! Hitech มีวิธีเลือกอุปกรณ์เหล่านี้แบบง่าย ๆ แต่ใช้งานได้ดีเช่นเดียวกัน จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันดีกว่า

สิ่งแรกที่ควรดูก่อนนั่นคือ ตัวอุปกรณ์ที่จะใช้งาน

 

เนื่องจาก Router จะถูกหรือแพงก็มีหน้าที่ต่อเชื่อมกับอุปกรณ์เครือข่าย แต่ว่าถ้าเกิดเร้าเตอร์ของเครื่องนั้นรับจำนวนเครื่องได้ไม่มาก หรือรองรับการปรับ IP ไม่มากพอก็จะทำให้เกิดปัญหาในระยะยาวได้ เช่น การจ่าย IP Address (เปรียบเหมือนกับทะเบียนรถ) หากไม่พอก็จะทำให้ไม่สามารถรองรับกับอุปกรณ์ภาพในบ้านได้

ดังนั้นปัจจัยนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรนำมาคิดเพื่อจัดสรรเรื่องของการเลือกอุปกรณ์ด้วยเช่นเดียวกัน

สิ่งที่ 2 ระยะขอบเขตของบ้าน หรือสถานที่ติดตั้ง

ตัวบ้านของคุณเองก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะระยะของบ้านและการกระจายของสัญญาณก็มีผลเช่นกัน หากบ้านคุณเป็นแบบ Town Home 3 ชั้น ส่วนมากจะไม่ได้มีด้านในลึกเท่าไหร่ การเลือก Router ที่รองรับสัญญาณแบบ Dual Band จะออกแบบให้รองรับทั้ง ระยะใกล้ไกลได้

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของกำแพงแต่ละชั้นที่จะมีผลต่อการกระจายสัญญาณไปถึงด้วยเช่นกัน ฉะนั้นแล้ว ถ้าคุณได้ศึกษาแบบของบ้านคุณ ก่อนที่จะเลือกซื้อ การซื้ออุปกรณ์เครือข่ายภายในบ้านนั้นจะไม่ได้ยากอย่างที่คุณคิดแน่นอน

สิ่งที่ 3 เทคโนโลยีของ Router

 

สำหรับคนที่ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีนั้น Router ก็มีเทคโนโลยีให้เลือกมากมายพอสมควร นอกจากจำนวนเสาอากาศทีเยอะขึ้นตั้งแต่ 3 ไปจนถึง 8 เสาด้วยกัน แต่ก็จะมีเทคโนโลยีทั้ง Dual Band หรือ Tri Band ซึ่งมีข้อดีของเทคโนโลยีนี้คือ

ใช้คลื่นความถี่ 2.4GHz + 5GHz และยังมี 5GHz อีกความถี่หนึ่ง ซึ่งเมื่อลองใช้งานกับบ้านที่มีชั้นเยอะ ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถใช้งานได้ดี สัญญาณสามารถกระจายและใช้งานได้มากกว่า แบบ Dual Band แต่ถ้าถามความจริง Dual Band หรือแค่ 2 ความถี่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้ว

รวมไปถึงเทคโนโลยีที่เรียกว่า MU-MIMO  ที่รองรับกับมือถือรุ่นใหม่ ๆ เช่น Samsung Galaxy S8, Note 8, LG G6, iPhone 7 ทั้งหลาย มีความโดดเด่นในเรื่องของการรับสัญญาณจากมือถือ และทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้พร้อมกันอีกด้วย นี่ยังไม่นับเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Seamless Roaming ที่รวมชื่อของ WiFi เป็นชื่อเดียวกันแต่ระบบจัดสรรความสามารถของเครือข่ายเอง

และสุดท้าย งบประมาณ ของคุณ

 

Router นั้นเป็นสิ่งของที่มีมูลค่าตั้งแต่หลักพันจนไปถึงหลักหมื่น แต่ถ้าเราเลือกตามการใช้งาน ให้ครอบคลุมกับบ้านและอุปกรณ์ของคุณ ต่อให้คุณจ่ายเงินมากแต่ก็คุ้มค่า เพราะส่วนใหญ่อุปกรณ์พวกนี้จะมีอายุการใช้งานได้นาน ซึ่งบางคนสามารถซื้อครั้งเดียวใช้งานได้ถึง 3 ปีด้วยเช่นกัน

กล่าวสรุปคือ Router เลือกไม่ยาก แต่เพียงเข้าใจกับสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่ และรูปแบบการใช้งาน ของคุณ เท่านี้แม้จะจ่ายเยอะแต่ก็ใช้งานได้ยาวนานและทันสมัยแน่นอนครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook