11 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากแบรนด์ดัง ที่เตรียมวางขายในไทยภายในปีนี้ พร้อมฟีเจอร์ระดับท็อปแบบจัดเต็ม

11 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากแบรนด์ดัง ที่เตรียมวางขายในไทยภายในปีนี้ พร้อมฟีเจอร์ระดับท็อปแบบจัดเต็ม

11 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากแบรนด์ดัง ที่เตรียมวางขายในไทยภายในปีนี้ พร้อมฟีเจอร์ระดับท็อปแบบจัดเต็ม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แนะนำ 11 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากแบรนด์ดัง ที่เตรียมวางขายในไทยภายในปีนี้ พร้อมฟีเจอร์ระดับท็อปแบบจัดเต็ม บนดีไซน์พรีเมียม มีรุ่นเด่นจากแบรนด์ใดบ้าง มาดูกัน!

เรียกได้ว่าตั้งแต่เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของปี 2017 แบรนด์ใหญ่ๆ ต่างก็ส่งสมาร์ทโฟนรุ่นเด็ดออกมาประชันกันแบบไม่มีใครยอมใคร และแน่นอนว่าโดยปกติแล้วสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จะเริ่มวางจำหน่ายในต่างประเทศก่อน ทางด้านผู้ใช้ในประเทศไทยก็เฝ้ารอการวางจำหน่ายกันอย่างใจจดใจจ่อ

ในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้ทำการรวบรวมรายชื่อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากแบรนด์ดัง ที่เตรียมเปิดตัว และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเร็วๆ นี้ มาให้ได้ชมกัน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจ และรอที่จะจับจองเป็นเจ้าของกัน ซึ่งจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเด็ดจากแบรนด์ใดบ้างนั้น เชิญติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยค่ะ 

Samsung Galaxy Note 8

1

Samsung Galaxy Note 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และมีกำหนดการวางจำหน่ายในบ้านเราช่วงเดือนตุลาคมนี้ โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดราคาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วที่ 33,900 บาท ซึ่งมาพร้อมกับการพลิกโฉมดีไซน์หน้าจอไร้ขอบแบบ Infinity Display ขนาดใหญ่ 6.3 นิ้ว และอัปเกรดมาใช้งานกล้องคู่ (Dual-Camera) ที่ด้านหลัง รวมถึงพกพาฟีเจอร์ระดับท็อปมาอย่างครบครัน ดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 162.5x74.8x8.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 195 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ 2K WQHD+ Super AMOLED ไร้ขอบ Inifinity Display ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด 2960x1440 พิกเซล, ฟีเจอร์ Always-On Display, พื้นที่ใช้งานมากถึง 83.3% และกระจกป้องกันหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5 
- ชิปเซ็ตประมวลผล Samsung Exynos 8895
- ชิปเซ็ตประมวลผลภาพกราฟิก (GPU) Mali-G71
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB รองรับหน่วยความเสริมแบบ microSD สูงสุด 256GB
- กล้องด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล, ระบบโฟกัสภาพแบบ Dual-Pixel, ใช้เลนส์รับภาพ 2 แบบ คือ Telephoto ขนาดรูรับแสง F/2.4 และ Wide ขนาดรูรับแสง F/1.7, ระบบซูมภาพแบบ Optical Zoom 2x, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) ทั้งสองเลนส์, ฟีเจอร์ Live Focus สำหรับการถ่ายหน้าชัด-หลังเบลอ และฟังก์ชัน Dual Capture ถ่ายภาพครั้งเดียวได้สองมุม คือ ภาพมุมกว้าง และภาพ Portrait
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.7 และระบบโฟกัสภาพแบบ Autofocus
- ปากกา S Pen ที่รองรับแรงกดได้มากถึง 4,096 ระดับ และป้องกันน้ำในระดับ IP68 ด้วย
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- เซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner)
- ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- ใช้งานโมเด็ม LTE Cat.16 และเทคโนโลยี 4CA (Carrier Aggregation)
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการใช้งาน Samsung Pay
- รองรับการใช้งาน Secure Folder สามารถใช้งาน LINE ได้ 2 แอคเคานท์
- รองรับการใช้งานร่วมกับ Samsung DeX
- ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ (AI) Bixby
- รองรับการเชื่อมต่อ USB Type-C และ Bluetooth 5.0
- แบตเตอรี่ความจุ 3300 mAh พร้อมรองรับฟีเจอร์ Wireless Charge
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Samsung Galaxy Note8
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy Note8

 vivo v7+

2

Vivo V7+ สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Vivo ที่มาพร้อมการดีไซน์โฉมใหม่แบบ FullView Display และชูโรงด้วยกล้องหน้าคมชัดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล โดยเปิดตัวครั้งแรกในประเทศอินเดียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีกำหนดการเปิดตัวในบ้านเราวันที่ 22 กันยายน ซึ่งมีคุณสมบัติตัวเครื่องที่น่าสนใจดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 155.87x75.74x7.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 160 กรัม
- หน้าจอแสดงผลไร้ขอบ FullView Display ขนาด 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 18 : 9 ความละเอียดระดับ HD (720x1440 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 450
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช Moonlight Glow และ Rear Flash ที่ด้านหน้า โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- แบตเตอรี่ความจุ 3225 mAh
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat ซึ่งถูกครอบทับด้วย Funtouch OS 3.2
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) แบบ Triple Slot โดยมีช่องสำหรับซิมการ์ดจำนวน 2 ช่อง และช่อง microSD อีก 1 ช่องในถาดเดียวกัน
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz/5GHz และ Bluetooth 4.2
- รองรับการใช้งาน App Clone สำหรับการล็อกอินใช้งาน Social Media พร้อมกัน 2 บัญชี
- รองรับระบบเสียงระดับ Hi-Fi พร้อมชิปประมวลผลเสียง AK4376A

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Vivo V7+

 Gionee M7 Power

3

Gionee ค่ายมือถือยอดนิยมจากจีน ที่เพิ่งเริ่มเข้ามาทำตลาดในบ้านเราอย่างเต็มตัวเมื่อไม่นานมานี้ ประกาศเตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนดีไซน์จอใหญ่ไร้ขอบรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Gionee M7 Power ภายในงาน TME 2017 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 กันยายน โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้

- หน้าจอแสดงผลแบบไร้ขอบ อัตราส่วน 18 : 9
- ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio P30 (MT6757)
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB
- กล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Gionee M7 Power

 Xiaomi Mi A1

4

Xiaomi Mi A1 สมาร์ทโฟนจากโครงการ Android One รุ่นแรกของ Xiaomi ที่เป็นการรีแบรนด์มาจาก Mi 5X สมาร์ทโฟนกล้องคู่ (Dual-Camera) รุ่นยอดนิยมที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยที่ Mi A1 จะได้รับการอัปเดตเป็น Android 8.0 Oreo ภายในสิ้นปีนี้ และเตรียมจะเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราในเร็วๆ นี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ต้องคอยติดตามกันต่อไป คาดว่าทาง Xiaomi จะออกมาประกาศให้ได้ทราบกันอีกครั้งหนึ่ง สำหรับ Mi A1 มีคุณสมบัติที่น่าสนใจดังนี้

- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 625 
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 506
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 128GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แบบเดียวกับในรุ่น Mi6 เรือธงรุ่นล่าสุด พร้อมไฟแฟลช Dual-Tone LED โดยกล้องตัวแรกเป็นแบบ Wide Angle ที่มีพิกเซลขนาด 1.25 ไมครอน, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2 และมีทางยาวโฟกัส 26 มิลลิเมตร ส่วนกล้องตัวที่สองเป็นแบบ Telephoto ที่มีพิกเซลขนาด 1 ไมครอน, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.6 และระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ซึ่งรองรับการถ่ายภาพในโหมด Portrait
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 3080 mAh
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.2
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Xiaomi Mi A1

Moto G5S และ G5S Plus

Moto G5S และ G5S Plus สองสมาร์ทโฟนรุ่นอัปเกรดจากตระกูล M-Series ใหม่ล่าสุด พร้อมฟีเจอร์จัดเต็มยิ่งบนตัวเครื่องโลหะอะลูมิเนียมแบบกันน้ำ และพิเศษในรุ่น G5S Plus มาพร้อมกับกล้องคู่ (Dual-Camera) ด้วยเช่นกัน โดยเตรียมวางขายในบ้านเราในวันที่ 28 กันยายน ซึ่งมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
 

Moto G5S

- ตัวเครื่องมีขนาด 150x73.5x9.5 มิลลิเมตรแ และมีน้ำหนัก 157 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080X1920 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผลแบบ Octa-Core Qualcomm Snapdragon 430 ที่มีความเร็ว 1.4 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 505
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 128GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 และรองรับระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ที่ด้านหน้า
- แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว TurboPower
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat  
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE 
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB 2.0
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n และ Bluetooth 4.1
 

Moto G5S Plus

- ตัวเครื่องมีขนาด 153.5x76.2x8.0 มิลลิเมตรแ และมีน้ำหนัก 168 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080X1920 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผลแบบ Octa-Core Qualcomm Snapdragon 625 ที่มีความเร็ว 2.0 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 506
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3GB และ 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32GB และ 64GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 128GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช Dual-Tone LED, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0, เลนส์ซูมแบบ X8 Digital Zoom และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K Ultra HD (2160x3840 พิกเซล)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ที่ด้านหน้า, เลนส์มุมกว้าง (Wide-Angle) และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว TurboPower
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat  
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE 
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB 2.0
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n และ Bluetooth 4.1

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Moto G5S และ G5S Plus

 Sony Xperia XZ1, XZ1 Compact และ XA1 Plus

6

เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทาง Sony ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่พร้อมกัน 3 รุ่นรวด ซึ่งได้แก่ Sony Xperia XZ1, XZ1 Compact และ XA1 Plus ที่มาพร้อมการอัปเกรดขึ้นจากเดิมในหลายด้านบนการดีไซน์สวยหรูตามแบบฉบับของ Sony ซึ่งทั้ง 3 รุ่นดังกล่าวมีกำหนดการเปิดตัว พร้อมวางจำหน่ายในบ้านเราเร็วๆ นี้ สำหรับคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นมีดังนี้
 

Sony Xperia XZ1

- ตัวเครื่องมีขนาด 148x73x7.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 156 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ Full HD 1080p HDR ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1080x1920 พิกเซล
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 835 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.35GHz
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 64GB รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 256GB
- กล้องด้านหลังความละเอียด 19 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล 
- ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, NFC และ USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 2700 mAh
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo
 

Sony Xperia XZ1 Compact

- ตัวเครื่องมีขนาด 129x65x9.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 143 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ Triluminos HD  ขนาด 4.6 นิ้ว ความละเอียด 1280x720 พิกเซล
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 835 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.35GHz
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 32GB รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 256GB
- กล้องด้านหลังความละเอียด 19 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์รับภาพมุมกว้าง 120 องศา
- ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, NFC และ USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 2700 mAh
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo
 

Sony Xperia XA1 Plus

- ตัวเครื่องมีขนาด 155x75x8.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 190 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ Full HD 1080p ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1080x1920 พิกเซล
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core MediaTek Helio P20 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.3GHz
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 32GB รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 256GB
- กล้องด้านหลังความละเอียด 23 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, NFC และ USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 3430 mAh
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Sony Xperia XZ1, XZ1 Compact และ XA1 Plus

 Asus ZenFone 4 และ 4 Pro

Asus ZenFone 4 Seires สมาร์ทโฟนตระกูลใหม่ล่าสุดจากค่าย Asus ทั้งหมด 6 รุ่น ที่มาพร้อมฟีเจอร์โดดเด่นในด้านที่ต่างกันออกไป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้งานอย่างหลากหลาย โดยมีการเริ่มวางจำหน่ายในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสำหรับ Asus ZenFone 4 และ 4 Pro สองรุ่นท็อปประจำตระกูลจะเป็นรุ่นถัดไปที่เตรียมเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราช่วงระหว่างปลายเดือนนี้ ถึงเดือนตุลาคม ซึ่งมีรายละเอียดคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นดังนี้
 

Asus ZenFone 4 Pro

- หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และเลนส์ซูมแบบ 2X Optical Zoom
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 3600 mAh พร้อมเทคโนโลยี Quick Charge 3.0
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
 

Asus ZenFone 4

- หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล)
- รุ่นชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 660 
- รุ่นชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 630
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 3300 mAh
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Asus ZenFone 4 และ 4 Pro
 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบรรดาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เตรียมวางจำหน่ายในบ้านเราช่วงปลายปีนี้ ที่ทางทีมงานได้รวบรวมมาให้ได้ชมกัน จะเห็นได้ว่าแต่ละรุ่นล้วนเป็นทีเด็ดจากแต่ละค่าย ที่มาพร้อมการดีไซน์แบบพรีเมียม รวมถึงพกพาฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาอย่างครบครัน ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในทุกด้าน 

ทั้งนี้จึงขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เอง ว่ามีความชื่นชอบสมาร์ทโฟนรุ่นใด กล่าวคือนอกเหนือไปจากการดีไซน์ และฟีเจอร์การใช้งานภายในแล้วนั้น ความชอบ และรสนิยมส่วนบุคคลก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องหนึ่ง ท่านผู้ใช้ต้องลองพิจารณาว่ามีความชื่นชอบสมาร์ทโฟนรุ่นใดมากกว่ากัน

และสมาร์ทโฟนรุ่นใดจะสามารถตอบโจทย์การใช้งานในไลฟ์สไตล์ของท่านได้ดีที่สุด ซึ่งหากว่าได้ทดลองใช้งานในเบื้องต้นแล้วเกิดความพึงพอใจ ทั้งในด้านการใช้งาน, การดีไซน์ และราคา ก็ถือได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นควรค่าแก่การจับจองเป็นเจ้าของแล้วค่ะ สำหรับวันนี้ทางทีมงานต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันได้ใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook