Z300 ยอดกล้องถ่ายเนียน
สวัสดีครับผม วันนี้เรายังอยู่กับกล้องของ คาสิโอ เหมือนเดิมครับ คราวนี้เป็นรุ่นที่คิดว่าทุกคนน่าจะชอบ
โดยเฉพาะคนที่ชอบถ่ายภาพบุคคล หรือคนที่ถ่ายรูปยังไงก็ไม่ขึ้น รู้สึกท้อแท้และหมดหวัง ว่าหามุมหล่อมุมสวยของตัวเองได้ยากยิ่ง สุดท้ายจึงต้องหาทางออกด้วยการถ่ายเงาตัวเอง หรือถ่ายเต็มแต่ทำเบลอ แปลงเป็นภาพอาร์ตๆ ให้ภาพดูสวยๆ แต่คนไม่ใช่ หากคุณมีอาการแบบเดียวกันกับผม วันนี้เรามีทางออกด้วย กล้องคาสิโอรุ่น เอ็กซ์สลิม Z300 (Casio EXILIM EX-Z300) ที่จะช่วยให้คุณถ่ายภาพตัวคุณเอง และถ่ายบุคคลรอบข้างได้ออกมาสวยสมใจราวกับเป็นช่างภาพบุคคลอาชีพเลยทีเดียว
EX-Z300 กับความสวยหรูทั้งตัวกล้องและภาพถ่าย
หากยังจำรีวิวกล้องคาสิโอ Z150 เมื่อคราวก่อน เราจะเห็นได้ว่าแม้การออกแบบและคุณภาพวัสดุภายนอกจะดูไม่ดี แต่คุณภาพของภาพที่ได้ออกมาเป็นคนละเรื่องกันจริงๆ มาถึงรุ่นใหญ่อย่าง Z300 ทุกอย่างถูกอัพเกรดขึ้นมาจากรุ่นเล็กชนิดผิดหูผิดตา ทั้งออกแบบและวัสดุที่ใช้ภายนอกดูดีกว่าเดิมมากมาย ส่วนลูกเล่นภายในก็อัพเกรดความสามารถและลูกเล่นใหม่ๆ เข้าไปอย่าง EXILIM Engine 3.0 หน่วยประมวลผลภาพที่ให้รายละเอียดสูง ฉลาด ผลที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ Noise ของภาพลดลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ถ่ายในที่แสงน้อย
ความละเอียดภาพสูงสุด 10.34 ล้านพิกเซล ช่วงเลนส์อยู่ที่ 28-112 มม. ครอบคลุมการถ่ายภาพมุมกว้าง และภาพบุคคลในช่วง 112 มม. ส่วนการโฟกัสมาโครดีกว่า Z150 แน่นอน เราสามารถถ่ายภาพดอกไม้ได้ใกล้ขึ้นชัดขึ้น โดยระยะถ่ายใกล้สุดของตัวนี้คือ 10 ซม. หน้าจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว น้ำหนักตัวอยู่ที่ 131 กรัม
ส่วนที่เหมือนกับ Z150 ก็คือ ปุ่มกดด้านหลังและการใช้งานไม่แตกต่างกันมากนัก โดยเราสามารถปรับเปลี่ยนการถ่ายภาพนิ่งไปเป็นภาพเคลื่อนไหว เพียงแค่กดปุ่มเรกคอร์ดเพียงครั้งเดียว กล้องจะเริ่มการถ่ายภาพเคลื่อนไหวระดับ 720 p เทียบเท่าหรือใกล้เคียงดีวีดีทันที คำแนะนำของเราเหมือนเดิมก็คือ ควรซื้อเมมโมรีการ์ดอย่างน้อย 4GB แล้วเราจะสนุกกับการใช้ EX-Z300 มากขึ้น
เมกอัพกันให้สวยสุดๆ
อย่างที่เราบอกตอนแรกครับว่า กล้องตัวนี้ช่วยให้เราถ่ายภาพบุคคลได้สวยสุดๆ ชนิดที่ว่าช่างภาพอาชีพเห็นแล้วยังต้องพูดว่า น่าจะมีใน DSLR บ้างนะเนี่ย เพราะการถ่ายภาพบุคคลให้สวยจะต้องแต่งหน้า ทาปาก จัดแสงสว่างๆ เมกอัพกันเต็มที่ แต่ Z300 กลับบอกว่า “ไม่ต้องๆ ฉันทำให้” เราจะข้ามการใช้งานส่วนอื่นๆ ไปอย่าง จับหน้าอัตโนมัติ ถ่ายอัตโนมัติเมื่อทุกคนยิ้ม เพราะมีในกล้องรุ่นเก่าและกลายเป็นพื้นฐานความสามารถในกล้องคอมแพ็กรุ่นใหม่ๆ ไปแล้ว แต่ระบบเมกอัพยังถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับเรา
ระบบเมกอัพในกล้องเราสามารถปรับค่าได้ 12 ระดับ ครั้งแรกๆ เราก็สงสัยว่าระบบนี้มีมาให้ทำไม เพราะลำพังถ่ายวิว ดอกไม้ ยังไม่เห็นความแตกต่าง แต่ก็ดูสวยดี จนมาตั้งถ่ายตัวเอง ปรากฏว่าอืม...เรานี่หน้าใสจังแฮะ ขนาดยังไม่ได้อาบน้ำมาทั้งวันนะเนี่ย (หลงตัวเองชั่วคราว) แต่เดี๋ยวก่อน รอยเท้ากาหายไปหลายตัว สิวก็ไม่มี หายไปไหน หายไปได้อย่างไร แล้วก็มาถึงการทดสอบกล้อง เราปิดระบบเมกอัพ แล้วถ่ายภาพตัวเองอีกครั้ง อืม...ความแตกต่างค่อนข้างชัดเจน สิว ร่องรอยความชรา ตีนกาแขกที่ไม่พึงประสงค์เริ่มมาเยือน ความจริงของโลกปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด อ้อ! ระบบเมกอัพเป็นเช่นนี้เอง
จากการทดลองใช้ระบบเมกอัพทั้ง 12 ระดับ เราพบว่ากล้องจะทำการเกลี่ยโทนสีผิวหน้าให้ดูเรียบเนียนกระจ่างใส นางแบบโฆษณาผิวกระจ่างใส อมม่วง อมชมพู นี่ชิดซ้ายไปเลย แต่ที่ระดับ 12 นี่ หน้าคนจะมาแบบผิวพลาสติกเลยละ ช่วงที่เหมาะสมที่สุดก็คือระดับ 6 ภาพคนผิวหน้าจะดูสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ โทนภาพจะออกแนวสว่างกว่าเดิมเล็กน้อย แต่สำหรับคนผิวคล้ำให้ปรับเพิ่มทีละสเต็ปตามความมืด (ไม่ช่าย...ตามความคล้ำของผิว) สรุปสำหรับระบบเมกอัพก็คือ มันยอดมากๆ
คราวนี้มาถึงการใช้งานด้านอื่นๆ บ้าง คุณภาพของภาพที่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีถึงดีมาก Noise น้อย ความคมชัดของคลิปวิดีโอค่อนข้างชัดเจน ไม่มีกระตุกให้รำคาญตา แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งก็คือ ความเร็วในการเซฟภาพยังทำงานได้ช้ามาก ช้ากว่ารุ่น Z150 แม้จะปิดระบบเมกอัพไปแล้วก็ยังช้าอยู่ น่าจะเป็นที่ตัวประมวลผล EXILIM Engine 3.0 ปรับแต่งภาพก่อนเซฟลงการ์ด
โดยรวมการทำงานของ Z300 แม้เซฟภาพช้าจนอาจทำให้คุณหงุดหงิด แต่เรายังคิดว่ากล้องตัวนี้เป็นกล้องที่ดีมากตัวหนึ่ง ทั้งการออกแบบ วัสดุและคุณภาพการผลิตที่ดี แข็งแรง มั่นใจได้ในระดับหนึ่ง ทำให้ Z300 เหมาะเป็นกล้องถ่ายเก็บความประทับใจในครอบครัว เวลาไปเที่ยวหรือมีงานสังสรรค์ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนน่าจะพอใจกับภาพของตัวเองที่ดูดีราวกับนางแบบ นายแบบ เหมือนที่เราเคยประทับใจกับกล้องตัวนี้
สรุปคะแนน
การออกแบบ 7.5 (รูปลักษณ์สวยถูกใจมีให้เลือก 3 สี ชมพู ดำ เงิน) ปุ่มกดใช้งานง่ายรวดเร็วทันใจ
คุณภาพการผลิต 8 (ยอมรับว่าภาพและสัมผัสของ Z150 ยังคงตามมาหลอกหลอนอยู่ไม่หาย แต่ Z300 นั้นดีกว่ามากมาย)
การใช้งานได้ 10 (ระบบเมกอัพทำงานได้ยอดเยี่ยม เราพอใจกับผลงานที่ได้แม้จะไม่ใช่ความจริง แต่เชื่อเถอะว่าลึกๆ เราทุกคนต้องการภาพให้ตัวเองออกมาดูดีด้วยกันทั้งนั้น แล้วกล้องตัวนี้ก็ตอบสนองความต้องการของเราได้เต็มร้อยในทุกสภาพแสง)
ความคุ้มค่าคุ้มราคา 7.5 (ราคาตัดสินได้ยาก ลองสำรวจราคาตลาดด้วยตัวเอง แล้วคุณจะรู้ว่าคุ้มค่าสำหรับคุณหรือไม่)
สรุป 8.25 (ได้คะแนนดีเกินคาด แต่ก็สมควรแล้วสำหรับกล้องคอมแพ็กตัวระดับท็อปของคาสิโอ)
หากยังจำรีวิวกล้องคาสิโอ Z150 เมื่อคราวก่อน เราจะเห็นได้ว่าแม้การออกแบบและคุณภาพวัสดุภายนอกจะดูไม่ดี แต่คุณภาพของภาพที่ได้ออกมาเป็นคนละเรื่องกันจริงๆ มาถึงรุ่นใหญ่อย่าง Z300 ทุกอย่างถูกอัพเกรดขึ้นมาจากรุ่นเล็กชนิดผิดหูผิดตา ทั้งออกแบบและวัสดุที่ใช้ภายนอกดูดีกว่าเดิมมากมาย ส่วนลูกเล่นภายในก็อัพเกรดความสามารถและลูกเล่นใหม่ๆ เข้าไปอย่าง EXILIM Engine 3.0 หน่วยประมวลผลภาพที่ให้รายละเอียดสูง ฉลาด ผลที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ Noise ของภาพลดลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ถ่ายในที่แสงน้อย
ความละเอียดภาพสูงสุด 10.34 ล้านพิกเซล ช่วงเลนส์อยู่ที่ 28-112 มม. ครอบคลุมการถ่ายภาพมุมกว้าง และภาพบุคคลในช่วง 112 มม. ส่วนการโฟกัสมาโครดีกว่า Z150 แน่นอน เราสามารถถ่ายภาพดอกไม้ได้ใกล้ขึ้นชัดขึ้น โดยระยะถ่ายใกล้สุดของตัวนี้คือ 10 ซม. หน้าจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว น้ำหนักตัวอยู่ที่ 131 กรัม
ส่วนที่เหมือนกับ Z150 ก็คือ ปุ่มกดด้านหลังและการใช้งานไม่แตกต่างกันมากนัก โดยเราสามารถปรับเปลี่ยนการถ่ายภาพนิ่งไปเป็นภาพเคลื่อนไหว เพียงแค่กดปุ่มเรกคอร์ดเพียงครั้งเดียว กล้องจะเริ่มการถ่ายภาพเคลื่อนไหวระดับ 720 p เทียบเท่าหรือใกล้เคียงดีวีดีทันที คำแนะนำของเราเหมือนเดิมก็คือ ควรซื้อเมมโมรีการ์ดอย่างน้อย 4GB แล้วเราจะสนุกกับการใช้ EX-Z300 มากขึ้น
เมกอัพกันให้สวยสุดๆ
อย่างที่เราบอกตอนแรกครับว่า กล้องตัวนี้ช่วยให้เราถ่ายภาพบุคคลได้สวยสุดๆ ชนิดที่ว่าช่างภาพอาชีพเห็นแล้วยังต้องพูดว่า น่าจะมีใน DSLR บ้างนะเนี่ย เพราะการถ่ายภาพบุคคลให้สวยจะต้องแต่งหน้า ทาปาก จัดแสงสว่างๆ เมกอัพกันเต็มที่ แต่ Z300 กลับบอกว่า “ไม่ต้องๆ ฉันทำให้” เราจะข้ามการใช้งานส่วนอื่นๆ ไปอย่าง จับหน้าอัตโนมัติ ถ่ายอัตโนมัติเมื่อทุกคนยิ้ม เพราะมีในกล้องรุ่นเก่าและกลายเป็นพื้นฐานความสามารถในกล้องคอมแพ็กรุ่นใหม่ๆ ไปแล้ว แต่ระบบเมกอัพยังถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับเรา
ระบบเมกอัพในกล้องเราสามารถปรับค่าได้ 12 ระดับ ครั้งแรกๆ เราก็สงสัยว่าระบบนี้มีมาให้ทำไม เพราะลำพังถ่ายวิว ดอกไม้ ยังไม่เห็นความแตกต่าง แต่ก็ดูสวยดี จนมาตั้งถ่ายตัวเอง ปรากฏว่าอืม...เรานี่หน้าใสจังแฮะ ขนาดยังไม่ได้อาบน้ำมาทั้งวันนะเนี่ย (หลงตัวเองชั่วคราว) แต่เดี๋ยวก่อน รอยเท้ากาหายไปหลายตัว สิวก็ไม่มี หายไปไหน หายไปได้อย่างไร แล้วก็มาถึงการทดสอบกล้อง เราปิดระบบเมกอัพ แล้วถ่ายภาพตัวเองอีกครั้ง อืม...ความแตกต่างค่อนข้างชัดเจน สิว ร่องรอยความชรา ตีนกาแขกที่ไม่พึงประสงค์เริ่มมาเยือน ความจริงของโลกปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด อ้อ! ระบบเมกอัพเป็นเช่นนี้เอง
จากการทดลองใช้ระบบเมกอัพทั้ง 12 ระดับ เราพบว่ากล้องจะทำการเกลี่ยโทนสีผิวหน้าให้ดูเรียบเนียนกระจ่างใส นางแบบโฆษณาผิวกระจ่างใส อมม่วง อมชมพู นี่ชิดซ้ายไปเลย แต่ที่ระดับ 12 นี่ หน้าคนจะมาแบบผิวพลาสติกเลยละ ช่วงที่เหมาะสมที่สุดก็คือระดับ 6 ภาพคนผิวหน้าจะดูสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ โทนภาพจะออกแนวสว่างกว่าเดิมเล็กน้อย แต่สำหรับคนผิวคล้ำให้ปรับเพิ่มทีละสเต็ปตามความมืด (ไม่ช่าย...ตามความคล้ำของผิว) สรุปสำหรับระบบเมกอัพก็คือ มันยอดมากๆ
คราวนี้มาถึงการใช้งานด้านอื่นๆ บ้าง คุณภาพของภาพที่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีถึงดีมาก Noise น้อย ความคมชัดของคลิปวิดีโอค่อนข้างชัดเจน ไม่มีกระตุกให้รำคาญตา แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งก็คือ ความเร็วในการเซฟภาพยังทำงานได้ช้ามาก ช้ากว่ารุ่น Z150 แม้จะปิดระบบเมกอัพไปแล้วก็ยังช้าอยู่ น่าจะเป็นที่ตัวประมวลผล EXILIM Engine 3.0 ปรับแต่งภาพก่อนเซฟลงการ์ด
โดยรวมการทำงานของ Z300 แม้เซฟภาพช้าจนอาจทำให้คุณหงุดหงิด แต่เรายังคิดว่ากล้องตัวนี้เป็นกล้องที่ดีมากตัวหนึ่ง ทั้งการออกแบบ วัสดุและคุณภาพการผลิตที่ดี แข็งแรง มั่นใจได้ในระดับหนึ่ง ทำให้ Z300 เหมาะเป็นกล้องถ่ายเก็บความประทับใจในครอบครัว เวลาไปเที่ยวหรือมีงานสังสรรค์ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนน่าจะพอใจกับภาพของตัวเองที่ดูดีราวกับนางแบบ นายแบบ เหมือนที่เราเคยประทับใจกับกล้องตัวนี้
สรุปคะแนน
การออกแบบ 7.5 (รูปลักษณ์สวยถูกใจมีให้เลือก 3 สี ชมพู ดำ เงิน) ปุ่มกดใช้งานง่ายรวดเร็วทันใจ
คุณภาพการผลิต 8 (ยอมรับว่าภาพและสัมผัสของ Z150 ยังคงตามมาหลอกหลอนอยู่ไม่หาย แต่ Z300 นั้นดีกว่ามากมาย)
การใช้งานได้ 10 (ระบบเมกอัพทำงานได้ยอดเยี่ยม เราพอใจกับผลงานที่ได้แม้จะไม่ใช่ความจริง แต่เชื่อเถอะว่าลึกๆ เราทุกคนต้องการภาพให้ตัวเองออกมาดูดีด้วยกันทั้งนั้น แล้วกล้องตัวนี้ก็ตอบสนองความต้องการของเราได้เต็มร้อยในทุกสภาพแสง)
ความคุ้มค่าคุ้มราคา 7.5 (ราคาตัดสินได้ยาก ลองสำรวจราคาตลาดด้วยตัวเอง แล้วคุณจะรู้ว่าคุ้มค่าสำหรับคุณหรือไม่)
สรุป 8.25 (ได้คะแนนดีเกินคาด แต่ก็สมควรแล้วสำหรับกล้องคอมแพ็กตัวระดับท็อปของคาสิโอ)
สนับสนุนข้อมูลโดย...
สนับสนุนเนื้อหา
