ปลุกชีพตลาดแท็บเล็ตพีซี เน้นกลยุทธ์หั่นราคาให้ใกล้เคียงโน้ตบุ๊ก

ไมโครซอฟท์ขอแก้มือ จับมือผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ ฟื้นตลาดแท็บเล็ตพีซี เตรียมทยอยออกสินค้าใหม่ภายในปีนี้ ชี้กลยุทธ์เด็ด ดัมพ์ราคาเครื่องให้ใกล้เคียงกับโน้ตบุ๊ก หวังขยายฐานตลาดผู้ซื้อออกไปให้หลากหลายมากกว่าเดิม นักวิเคราะห์ชี้ เงื่อนไขยังไม่จูงใจ ต้องพัฒนาด้านระบบงานเพิ่มเติม นายโรเบิร์ต วิลเลียมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและวิศวกรร่วมฝ่ายพัฒนาแพล็ตฟอร์มอุปกรณ์เคลื่อนที่ของบริษัท ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยทิศทางการทำตลาดแท็บเล็ตพีซีใหม่ โดยชูกลยุทธ์ด้านราคาที่ถูกลง เพื่อให้สามารถแข่งขันสินค้าประเภทโน้ตบุ๊กที่วางขายในตลาด ซึ่งภายในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ จะมีแท็บเล็ตพีซีวางตลาดในราคาระหว่าง 1,500-1,600 ดอลลาร์สหรัฐ โดยในปีที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ทำงานร่วมกับผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อกดให้ต้นทุนการผลิตเครื่องแท็บเล็ตพีซีต่ำลงมา โดยแท็บเล็ตพีซีรุ่นใหม่ๆ จะมีราคาสูสีกับโน้ตบุ๊กโดยสูงกว่าเพียง 100-200 ดอลลาร์สหรัฐ เท่านั้น นายแทร์รี่ โครนิน ผู้อำนวยการด้านการบริหารผลิตภัณฑ์ฝ่ายผลิตภัณฑ์ดิจิตอลของบริษัทโตชิบา อเมริกา อิงค์ กล่าวว่า โตชิบา อเมริกา วางแผนที่จะวางตลาดแท็บเล็ตพีซี รุ่น Satellite R15-S822 ภายในไตรมาสแรกของปี 2548 นี้ ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกที่บุกเบิกทำตลาดในวงกว้างขึ้น สำหรับตลาดกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป และกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก โดยมีราคาอยู่ที่ 1,599 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ บริษัทน้องใหม่อย่าง อเวอราเทค ซึ่งกำหนดที่จะวางตลาดแท็บเล็ตพีซีรุ่นใหม่ในราคา 1,350 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในกลางปีนี้ เช่นเดียวกับเอเซอร์ อเมริกา ที่คาดว่าจะออกแท็บเล็ตพีซีรุ่นราคาประหยัดภายในปีนี้เช่นกัน ทั้งนี้ สำหรับแท็บเล็ตพีซี นั้นมีการเปิดตัวทำตลาดตั้งแต่เดือน พ.ย. 2545 ในรุ่น วินโดวส์ เอ็กซ์พี แท็บเล็ตพีซี เอดิชั่น โดยไมโครซอฟท์ตั้งเป้าว่าภายใน 5 ปี จะทำให้แท็บเล็ตพีวีเป็นคอมพิวเตอร์ฉบับพกพาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่จากที่ผ่านมา แท็บเล็ตพีซีกลับได้รับการสนับสนุนให้มีการใช้งานในวงจำกัดเฉพาะกลุ่มประกันภัญ อาจารย์มหาวิทยาลัย แพทย์ หรืออาชีพเฉพาะอื่นๆ ทำให้ตลาดแท็บเล็ตไม่กว้างเท่าที่ควร ซึ่งจากข้อมูลของไอดีซี บริษัทวิจัยในอุตสาหกรรมไอทีระบุว่า ตั้งแต่เปิดตัวทำตลาดเป็นต้นมา ยอดขายแท็บเล็ตพีซีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแต่ก็เพียงระยะสั้น เมื่อเทียบกับยอดขายโน้ตบุ๊ก ซึ่งในปี 2547 ที่ผ่านมา ยอดขายของโน้ตบุ๊กทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 48.9 ล้านเครื่อง แต่มีเพียง 650,000 เครื่อง หรือ เพียง 1.3% ของยอดขายทั้งหมดที่เป็นแท็บเล็ตพีซี นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย ทั้งไอดีซี และการ์ทเนอร์ ต่างเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่ากลยุทธ์การทำตลาดแท็บเล็ตของไมโครซอฟท์และกลุ่มผู้ผลิตพีซีด้วยการลดราคาเครื่องลงมาให้ต่ำเพื่อแข่งกับโน้ตบุ๊กนั้น ก็อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยสนับสนุนให้มีการใช้งานแพร่หลายมากขึ้น นอกจาก จะพัฒนาระบบงานที่เป็นแบบเฉพาะ และแตกต่างจากที่มีในตลาด ถึงจะมีความน่าสนใจและดึงดูดได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์บางกลุ่มต้องการหนุนให้แท็บเล็ตพีซีเป็นที่นิยมในตลาดที่กว้างขึ้น แต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่มองว่า แท็บเล็ตพีซียังคงเป็นอุปกรณ์เฉพาะกลุ่ม เช่นในกรณีของเอชพี ที่มีแผนจะวางตลาดแท็บเล็ตพีซี สำหรับกลุ่มองค์กรธุรกิจในวันที่ 2 ก.พ. 2548 โดยมีราคาตั้งแต่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไป เช่นเดียวกับวิวโซนิค ที่ยังคงทำตลาดแท็บเล็ตพีซีสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งเน้นด้านการแพทย์ และการศึกษาเป็นสำคัญ แต่เพื่อให้สามารถดึงดูดผู้ใช้ได้มากขึ้น วิวโซนิคได้ทำการลดราคาสินค้ารุ่นใหม่ ในรุ่น V1250S ลงมา 300 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่1,499 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แอนน์ แคมเดน โฆษกหญิงของบริษัท เดลล์ อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก กล่าวว่า แม้ด้านเทคโนโลยีของแท็บเล็ตพีซีจะมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ทางบริษัทยังไม่คิดที่จะทำตลาดแท็บเล็ตพีซีในขณะนี้ เนื่องจากมองว่า ช่องทางการทำธุรกิจเล็กเกินไป และก็ยังไม่มีแนวโน้มที่ตลาดจะขยายตัวได้มากเท่าที่ควรในเร็วๆ นี้ content by