เมื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องใช้สารสนเทศ

เมื่อวันเสาร์ที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปเข้าร่วมการสัมมนางานคอมเทค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานคอมมาร์ต ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในหัวข้อเกี่ยวกับไอทีและธุรกิจเอสเอ็มอี ธุรกิจที่กำลังเฟื่องฟูอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ของไทย ได้ฟังทรรศนะของวิทยากรหลายท่านแล้วอดไม่ได้ เกิดคันไม้คันมือจนต้องถ่ายทอดมาฝากแฟน ๆ หน้าไซเบอร์บิส ผู้จัดการออนไลน์กันก่อนที่จะสายไป ยุคนี้เป็นยุคที่ธุรกิจเอสเอ็มอีเกิดขึ้นราวกับดอกเห็ด แต่ผู้ประกอบการหลายคนตกม้าตายเอาง่าย ๆ เมื่อต้องมาแข่งขันธุรกิจกันในยุคดิจิตอลนี้ ก็เหมือนพังพอนกับงูเห่า ที่มันแพ้ทางกัน ทำยังไง ๆ ก็ไม่อยากเข้าใจ แต่ต้องบอกว่า ณ วันนี้ไม่เข้าใจไอทีได้ แต่ไม่ยอมรับ ไม่ได้!!! เพราะจะไม่มีที่ว่างสำหรับธุรกิจของคุณใน 10 ปีข้างหน้าอีกเลย มาดูกรณีตัวอย่างกรณีนี้กัน คุณจิรวิทย์ แม้ประเสริฐ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) วิทยากรอีกท่านหนึ่งของการบรรยายได้เล่าให้ฟังถึงผู้ประกอบการรายหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เขาทำธุรกิจรับจัดสวน เครื่องมือในการติดต่อธุรกิจคือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และกล้องดิจิตอล เมื่อเขาจัดสวนเสร็จ เขาจะถ่ายรูปสวนของเขาเก็บเข้าคอมพิวเตอร์ ทำเป็นประวัติผลงาน และเมื่อมีใครสนใจจะจ้างเขาจัดสวน เขาก็จะเปิดผลงานการจัดสวนในอดีตให้ชมกัน รวมถึงไฟล์แนะนำตัวด้วย ซึ่งนอกจากจะทำให้ลูกค้าสามารถเห็นผลงานที่ผ่านมาแล้ว เขาสามารถใช้ซอฟต์แวร์ในการคำนวณราคาค่าจัดสวน อัตราต่อรองที่ยอมรับได้ และปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว นี่คือการใช้ไอทีอย่างง่าย ๆ แล้วอย่างนี้จะไม่เปิดใจ ศึกษากันหน่อยหรือ ว่าไอทีจะมาช่วยเอสเอ็มอีได้อย่างไรบ้าง ความจำเป็นของระบบไอทีกับธุร็มอี ใครที่อ่านหัวข้อแล้วบอกว่าไม่จำเป็น ก็ไม่ว่ากัน แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือเราทุกคนกำลังอยู่ในยุคแห่งดิจิตอลแล้ว การใช้ชีวิต สังคม โลก ทุกอย่างกำลังเคลื่อนเข้าสู่ระบบดิจิตอลอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจก็เช่นกัน รูปแบบการทำมาค้าขายยุคนี้จึงเป็นแบบที่เรียกว่า เศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) ซึ่งก็คือเศรษฐกิจยุคใหม่ ยุคที่มีการค้าอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) มีการเชื่อมโยงข้อมูลกันระหว่างองค์กร และสามารถแลกเปลี่ยน ตลอดจนค้นคว้าได้อย่างรวดเร็วผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า อินเทอร์เน็ต เมื่อเข้าใจแนวโน้มแห่งการเปลี่ยนแปลงแล้ว สิ่งที่องค์กรจะต้องทำคือปรับตัวก่อนที่จะสาย เศรษฐกิจดิจิตอลเป็นโลกที่ต้องการความรวดเร็ว ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการประสิทธิภาพในการทำงานแบบทำได้จากทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime) เพราะถ้าคุณจับมันช้าไป คู่แข่งของคุณอาจคว้าโอกาสดี ๆ ไปก่อนแล้ว สร้างนวัตกรรม สิ่งที่เอสเอ็มอีต้องสังวรไว้อีกประการหนึ่ง คือ ธุรกิจต้องมีการคิดค้นนวัตกรรมของตนเอง การที่เรารอให้ค่ายอื่นทำแล้วเราทำตาม นั่นจะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจเราต้องกลายเป็นผู้ตาม หรือก็คือผู้ประกอบการรายย่อยตลอดไป เราจะไม่มีวันกลายเป็นตัวจริง เบอร์หนึ่ง หรือของแท้ได้ การสร้างนวัตกรรม จะเป็นจุดที่ทำให้เราสามารถต่อสู้ได้ในอนาคต จากที่ได้ฟังวิทยากรบรรยาย และเคยพบเจอผู้ประกอบการเอสเอ็มอีบางท่านที่มีความกระตือรือร้นจะเรียนรู้เกี่ยวกับไอที จะพบว่าท่านเหล่านั้นมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา อยากศึกษาทุกอย่าง อยากจะทำเป็น และเข้าใจได้ในทุก ๆ ฟังก์ชันไอทีขององค์กร เช่น ต้องทำเว็บเป็น ต้องค้าขายแบบอีคอมเมิร์สเป็น ฯลฯ อยากจะบอกว่า เหลืองานไว้ให้คนไอทีทำบ้างเถอะค่ะ ผู้ประกอบางรายเป็นคนปราดเปรื่องจริง ๆ แต่ถ้าบางคนไม่เก่งเรื่องไอที ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะทำธุรกิจไม่ได้ เพราะจริง ๆ แล้วหน้าที่ของผู้บริหาร ผู้ประกอบการ คือการจัดการ การทำให้ธุรกิจมันดำเนินไปรอด มันมีกำไร ประสบความสำเร็จ ไอทีเป็นแค่เครื่องมือเท่านั้นเอง ไอทีในองค์กร ผู้ประกอบการบางรายอาจจ้างผู้ดูแลไอทีให้กับองค์กร หรือจะเรียกให้เป็นตำแหน่งสวยหรูว่าผู้จัดการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ มีหน้าที่ในการคัดสรร ดูแล ปรับปรุงระบบ โดยมีหน้าที่หลักก็คือ การเลือกใช้เทคโนโลยีให้เป็น ใช้ให้เป็นใช้อย่างไร นอกจากคำนึงถึงเรื่องของแนวโน้มของอนาคตธุรกิจแล้ว การพิเคราะห์อย่างสมเหตุสมผล ถึงเรื่องงบประมาณที่ใช้ในการลงทุนกับผลตอบแทนที่จะได้กลับมาก็เป็นสิ่งสำคัญ คุณสายัณต์ ไข่มุกข์ บรรณาธิการจัดการนิตยสาร eLeader วิทยากรผู้บรรยายกล่าวไว้ชัดเจนว่า สิ่งที่องค์กรต้องทำ ก็คือต้องมีการวิเคราะห์กระบวนการทำงานขององค์กร ตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อหาจุดบกพร่อง จุดที่ต้องแก้ไข จุดที่จะพัฒนา ไม่ใช่ขายของได้แค่เดือนละ 100,000 บาท แต่ดันเลือกซื้อเทคโนโลยีราคา 700,000 บาทมาใช้ นอกจากจะไม่คุ้มค่าแล้ว ยังอาจจะเกิดกรณี ใช้ไม่คุ้ม ด้วย