ฟูจิตสึฯรุกหนักตลาดโน๊ตบุ๊กตีกันโซนี่-ซัมซุง

ฐานเศรษฐกิจ : ฟูจิตสึโชว์แผนรุกตลาดโน้ตบุ๊กปี 47 ประกาศไล่ล่าตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร พร้อมสร้างเครือข่ายทำตลาด "ฟูจิตสึ ช็อป" ทั่วประเทศ เร่ง สร้างการเติบโต ปิดช่องคู่แข่งรายใหม่โซนี่/ซัมซุงทำตลาด วางเป้าหมาย สิ้นปีนี้ 30-35 แห่ง หนุน ยอดขายทะยานแตะ 15,000-20,000 เครื่อง นายณ.ภพ นุตสติ ผู้จัดการฝ่าย ขาย แผนกธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วน บุคคล บริษัทฟูจิตสึ ซิสเต็มส์ บิสซิเนส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า นโยบายการทำตลาดหลักของบริษัทในปี 2547 คือ การมุ่งเน้นการขยายการเติบโตเป็น หลัก และมุ่งขยายการทำตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้น โดยเล็งเห็นว่าเป็นตลาดที่มีโอกาสในการเติบโต หลังจากที่คู่แข่งขันในตลาดมุ่งการแข่งขันทางด้านราคาให้กลุ่มตลาดลูกค้าทั่วไปเป็นหลัก สำหรับกลยุทธ์หลักในการขยายการเติบโตนั้นบริษัทจะมุ่งเน้นการขยายตัวแทนจำหน่าย ที่มีบริการมาตรฐานภายใต้ชื่อ "ฟูจิตสึ ช็อป" ในตลาด ภูมิภาคมากขึ้น โดยคาดว่าภายในเดือนเมษายนนี้จะมีร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ 22 แห่ง จากปัจจุบันมีร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอยู่ 12 แห่ง และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 30-35 แห่ง ภายในสิ้นปี 2547 ซึ่งเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ในอนาคต คือการสร้างเครือข่ายร้านค้าตัวแทนจำหน่ายจังหวัดละ 1 แห่ง ทั่วประเทศ ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดลูกค้าองค์กรนั้นจะมุ่งเน้นการบริการเป็นหลักเนื่องจากลูกค้ากลุ่มต้องการบริการที่มีประสิทธิภาพ และมีความรวดเร็วสำหรับลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดหลัก คือ กลุ่มบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ, กลุ่มนายหน้าค้าหุ้น หรือโบรกเกอร์ และกลุ่มธนาคาร "ปีนี้จะมีคู่แข่งรายใหม่เข้ามาแข่งขันในตลาดมากขึ้น อาทิ โซนี่ และซัมซุง ซึ่งเราจำเป็นต้องมีการปรับตัว ทั้งในส่วนของบริการ โครงสร้างการจัดจำหน่าย และการตลาดเพื่อรองรับการแข่งขัน ซึ่งขณะนี้เรามีความพร้อมเป็นอย่างมาก และเชื่อว่าโครงสร้างการจัดจำหน่าย, บริการ และการตลาด จะช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้น โดยในปีนี้เราได้วางเป้าหมายยอดขายไว้ประมาณ 15,000-20,000 เครื่อง จากเดิมปีที่ผ่านมามียอดขาย รวม 10,000 เครื่อง" นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนนำสินค้าใหม่เข้ามาเสริมสายผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยตามกำหนดการทำตลาดในภูมิภาคเอเชียนั้น ในปีนี้จะมีการเพิ่มสายผลิตภัณฑ์ทางด้านคอมพิวเตอร์มือถือที่สามารถมีคุณสมบัติการใช้งานเป็นเครื่องโทรศัพท์หรือพีดีเอ โฟน โดยขณะนี้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้เริ่มต้นทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นแล้ว นายณ.ภพกล่าวต่อไปว่า การเกิดขึ้นของโครงการโน้ตบุ๊กไอซีที ในปี 2546 ที่ผ่าน มาสร้างให้ตลาดโน้ตบุ๊กในประเทศไทยเกิดการตื่นตัว โดยคาดว่าตลาดในปีที่ผ่านมามีการเติบโตขึ้นประมาณ 50% และเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะส่งผลดีกับบริษัทในระยะยาว โดย มองว่าหลังจากที่กลุ่มผู้ใช้โน้ตบุ๊กไอซีที มีความคุ้นเคยการใช้งาน จะต้องการเครื่องที่ มีความสามารถเพิ่มขึ้น และเครื่องมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสสำหรับบริษัท ในการเข้าไปนำเสนอขายสินค้าให้กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ ส่วนตลาดโน้ตบุ๊กในปี 2547 นี้คาด ว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 30%