ซันเปิดศึกไมโครซอฟท์ แจ้งเกิด'จาวาซิสเต็มส์'

"ซัน" ประกาศชน "ไมโครซอฟท์" ดัน จาวา เดสก์ท็อป ซิสเต็มส์ แจ้งเกิดเต็มตัว เผย จะขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มผู้ใช้ระบบพีซี มั่นใจจะเพิ่มนักพัฒนาโปรแกรมให้เป็น 10 ล้านคน ใน 3-5 ปี โดยอาศัยแนวคิด โอเพน ซอร์ซ เข้าช่วยส่วนนโยบายปีหน้าเปลี่ยนรูปแบบการขายซอฟต์แวร์มาเป็นแบบเหมาจ่าย ช่วยลดภาระของลูกค้าในระยะยาว นายโรเบิร์ต ยังจอห์นส์ รองประธาน บริหารอาวุโส บริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์ อิงค์ เปิดเผยถึงนโยบายธุรกิจของบริษัทในงานสัมม- นา "ซัน เพรส แอนด์ อะนาลิสต์ ซิมโพเซียม 2003" ณ ประเทศสิงคโปร์ ว่า นโยบายของบริษัท ในปีหน้านอกเหนือจากการเร่งพัฒนาเทคโนโลยี จาวาเป็นหลักแล้ว บริษัทยังมุ่งเน้นการขยายตลาดของซอฟต์แวร์จาวา เอ็นเตอร์ไพร้ส์ ซิสเต็มส์ ซึ่งได้รวบรวมซอฟต์แวร์ต่างๆ ของซันเข้าด้วยกันเพื่อช่วยองค์กรต่างๆ ในการสร้างระบบงาน หรือเว็บเซอร์วิสขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะมีรูปแบบการขายแบบระบบเหมาจ่าย นอกจากนี้ในมุมมองของซันเอง ยังมั่นใจ ว่าระบบทุกอย่างจะสามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่าย หรือเน็ตเวิร์กได้ และจะมีการใช้เทคโนโลยี จาวา เข้ามาเป็นหนึ่งในมาตรฐานของการพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้มองว่าในอนาคตคอม พิวเตอร์กว่า 80-90% ทั่วโลกจะติดตั้งเทคโนโลยี จาวา และผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการพัฒนาเทคโนโลยีของจาวา อาทิ บัตรสมาร์ตการ์ต หรือ จาวาการ์ด คอมพิวเตอร์ ขณะเดียวกันอุปกรณ์ไร้สายและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าก็จะมีการนำเทคโนโลยี จาวาเข้ามาช่วยพัฒนาด้วยเช่นกัน ซึ่งต่อไปเทคโนโลยีจาวา จะต้องเป็นเทคโนโลยีที่อยู่บนพื้นฐานของการใช้งานได้ทุกที่และทุกเวลา สำหรับตลาด จาวา เกม ก็เช่นกัน โดย ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือนำระบบจาวาเข้ามาใช้ในการพัฒนาเกม โดยเฉพาะตลาดเกมบนโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยถือว่าเป็นตลาดที่มีการเติบโตมากสุดและยังพบว่าคนทั่วโลกใช้ จาวา เกม ประมาณ 70 นาทีต่อคนต่อวัน หรือเท่ากับว่ามีมากกว่า 17.6 ล้านคน ใช้เวลาในการเล่นเกม ประมาณ 8.2 พันล้านนาที จะเห็นได้ว่าเป็นตัวเลขที่เพิ่มสูงมากขึ้นทีเดียว ด้านนางมาร์จ เบรยา รองประธานอาวุโส ฝ่ายการตลาด ส่วนปฏิบัติการงานขายทั่วโลก บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ อิงค์ กล่าวว่า บริษัทต้องการผลักดันระบบจาวา เดสก์ท็อป ซิสเต็มส์ ให้สา-มารถแข่งขันกับระบบไมโครซอฟท์ได้ เพราะมั่นใจว่าเป็นระบบที่มีความโดดเด่นเรื่องของระบบความปลอดภัยสูง รวมถึงการใช้งานที่สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับระบบวินโดว์สแต่มีราคาที่ถูกกว่า เช่น ในประเทศไทยลูกค้าที่ซื้อระบบ จาวา เอ็นเตอร์ไพร้ส์ ซิสเต็มส์ สามารถซื้อระบบ จาวา เดสก์ท็อป ซิสเต็มส์ ได้ในราคาเพียงแค่ครึ่งเดียว ส่วนการทำงานของ จาวา เดสก์ท็อปนั้น เป็นการทำงานบนสถาปัตยกรรมแบบ x-86 และซัน สปาร์ค โดยการใช้ระบบปฏิบัติการโซลาริส หรือ ลีนุกซ์ ซึ่งเป็นระบบเปิดเผยรหัส หรือ โอเพน ซอร์ซ ทั้งหมด โดยสามารถทำงานร่วมได้หลากหลายระบบ และยังถูกออกแบบมาเพื่อเป็นการลด ต้นทุนในการจัดการระบบไอที รวมถึงลดปัญหาการซับซ้อนของระบบ โดยมีเทคโนโลยีบริหารเครือข่าย เอ็น-วัน เน็ตเวิร์ก ช่วยในการควบคุมบริหารเครือข่าย หรือปรับการบริการผ่านเครือข่าย "ข้อดีอีกประการหนึ่งของระบบจาวา เดสก์ท็อป คือมีระบบโซลูชัน ซอฟต์แวร์ ที่สามารถเชื่อม ต่อกับระบบต่างๆ ที่ใช้งานอยู่อย่างสะดวกและ ง่ายดาย เพราะมีชุดโซลูชัน อาทิเช่น สตาร์ออฟฟิศ 7 ที่ทำงานเช่นดียวกับไมโครซอฟท์ ออฟฟิศในโปรแกรม วินโดว์ส เป็นต้น ซึ่งชุดโซลูชันดังกล่าวจะทำงานร่วมกับไฟล์ต่างๆ ที่ใช้งานอยู่ได้ รองรับเทคโนโลยี แอพพลิเคชันล่าสุดได้ และจุดเด่นที่แข็งแรงที่สุดอย่างที่กล่าวไปแล้วคือเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งซันเน้นมากที่สุด" สำหรับลูกค้าหลักที่บริษัทมุ่งนำเสนอเทค โนโลยีดังกล่าว คือ กลุ่มองค์กรใหญ่ อาทิ กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจการเงิน และกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง หรือ เอสเอ็มอี อาทิ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจสุขภาพ เป็นต้น โดยจุดเด่นของซอฟต์แวร์ดังกล่าว คือราคาประหยัด ส่วนซอฟต์แวร์ จาวา เดสก์ท็อป บริษัทจะมุ่งนำเสนอซอฟต์แวร์ดังกล่าวไปยังตลาดของกลุ่มผู้ใช้ คอมพิวเตอร์ทั่วไปนอกจากนี้ทางด้านการสร้างนักพัฒนาโปรแกรมบนเทคโนโลยีจาวานั้น บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มนักพัฒนาโปรแกรม ให้เป็น 10 ล้านคน ได้ในเวลา 3-5 ปี จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 3 ล้านคน เนื่องจากเทคโนโลยีจาวาเป็นระบบเปิด ซึ่งง่ายต่อการนำไปค้นคิด และพัฒนาต่อ