ยักษ์คอมพ์ไทย/เทศเสริมทัพสินค้าถูกเคาะราคาชนไอซีที

ฐานเศรษฐกิจ : ยักษ์คอมพ์แบรนด์เนม "เอชพี" ปรับตัวรับกระแสคอมพ์ไอซีทีฟีเวอร์ หั่นราคาขายเพรสซาริโอต่ำสุดเป็นครั้งแรก 17,900 บาท พร้อมอัดแคมเปญเงินผ่อน 36 เดือน ด้านยักษ์คอมพ์ไทย "เอเทค" พลิกเกมตลาดเดินตามรอยคอมพ์ไอซีทีเปิดจองสินค้าผ่านเซเว่น ร้านหนังสือ ซีเอ็ด นายอโนทัย เวทยากร ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ บริษัทฮิวเลตต์ แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเกิดของโครงการคอมพิวเตอร์ไอซีที ราคา 10,900 บาท ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ทำให้เกิดกลุ่มตลาดใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มระดับล่างที่ต้องการคอมพิวเตอร์ราคาประหยัดหรือต่ำกว่า 15,000 บาท ขึ้นมา อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาบริษัทไม่สามารถทำราคาสินค้า 10,900 บาท เพื่อสนับสนุนโครงการคอมพิวเตอร์ไอซีทีหรือทำราคาจำหน่ายต่ำกว่า 15,000 บาท ได้เนื่องจากมีต้นทุนสูงกว่า ดังนั้นจึงได้นำกลุ่มสินค้าใหม่ที่มีระดับราคาสูงกว่าคอมพิวเตอร์ไอซีทีและคอมพิวเตอร์โลคัลแบรนด์ราคาประหยัดเพียงเล็กน้อยเข้ามาทำตลาด เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่ต้องการคอมพิวเตอร์แบรนด์เนมในระดับตลาดล่าง ขณะเดียวกันยังได้ร่วมกับสถาบันการเงินเอกชนจัดแคมเปญผ่อนชำระดอกเบี้ยต่ำ เป็นเวลา 36 เดือน โดยคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่นำเข้ามาทำตลาดระดับล่างจะประกอบด้วย รุ่นคอมแพค เพรสซาริโอ 4500 AL ซึ่งใช้ตัวประมวลผลอินเทลเซลเลอรอน ความเร็ว 1.8 กิกะเฮิรตซ์, หน่วยความจำแบบเอสดีแรม 128 เมกะไบต์, ฮาร์ดดิสก์ความจุ 40 กิกะไบต์ จอภาพขนาด 15 นิ้ว ระบบปฏิบัติการลีนิกซ์ รับประกัน 1 ปี รวมค่าแรงและอะไหล่ ราคา 17,900 บาท คอมแพค เพรสซาริโอ 4550 AL ซึ่งใช้ตัวประมวลผลอินเทลเซล-เลอรอน ความเร็ว 2.2 กิกะเฮิรตซ์, หน่วย ความจำ แบบเอสดีแรม 128 เมกะไบต์, ฮาร์ดดิสก์ความจุ 40 กิกะไบต์, ซีดี-รอม ความเร็ว 48X, จอภาพขนาด 15 นิ้ว และระบบปฏิบัติการลีนิกซ์ รับประกัน 1 ปีรวมค่าแรงและ อะไหล่ ราคา 19,900 บาท "เป็นครั้งแรกที่เรานำสินค้าใหม่ ซึ่งไม่ใช่เคลียร์แรนซ์เซล เข้ามาเสริมการทำตลาด ในเซ็กเมนต์ตลาดใหม่ที่ราคา 17,900 บาทโดยเราต้องการเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่ ต้องการสินค้าที่เป็นแบรนด์ไฮเอนด์ ในระดับราคาระดับล่าง ซึ่งภายหลังจากที่นำเข้ามาทำตลาดก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนหนึ่ง โดยอาจยังไม่มากเท่ากับโครงการคอมพิวเตอร์ไอซีที ส่วนจะยื่นราคาขายขั้นต่ำในราคานี้ต่อไปหรือไม่นั้นต้องขอดูดีมานด์ในตลาดเซ็กเมนต์ใหม่นี้ก่อนว่าจะเป็นความต้องการระยะสั้นหรือระยะยาว โดยถ้ามีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องเราก็พร้อมจะทำราคานี้ต่อไป" ด้านนายนิธิพัฒน์ ลิ่มวานิชรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเอเทค คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้ปรับแนวทางการทำตลาดใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความคาดหวังของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการเกิดของโครงการคอมพิวเตอร์ไอซีที ราคา 10,900 บาท ทำให้เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลงในตลาดคอมพิวเตอร์ประเทศไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งรูปแบบที่กระทรวงไอซีทีนำมาใช้มีผลต่อการตอบรับของตลาดเป็นอย่างมาก กล่าวคือ มีราคาถูก โดยใช้โครงสร้างเทคโนโลยีเก่า และโครงสร้างการจัดจำหน่ายที่เปิดให้ประชาชนจองตามจุดรับจองต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ อาทิ จองผ่านงานเปิดตัว ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติ สิริกิติ์ และงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่เมืองทองธานี รวมถึงจองผ่านธนาคารออมสินและ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ สำหรับแนวทางการทำตลาดรูปแบบใหม่ของบริษัทก็จะมีลักษณะคล้ายกับโครง การคอมพิวเตอร์ไอซีที โดยทำการเปิดตัวคอมพิวเตอร์เอเทคสุดคุ้ม ราคา 12,990 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งในส่วนของเทคโนโลยีนั้นบริษัทได้เลือกเทคโนโลยีที่เร็วกว่าคอมพิวเตอร์ไอซีที 2 เท่า และมีความทันสมัยมากกว่า แต่มีราคาสูงกว่าเพียงแค่ 2,000 บาท ส่วนของช่องทางจำหน่ายนั้นได้มีการร่วมมือกับพันธมิตร คือ ซีเอ็ด และเซเว่นอีเลฟเว่นโดยพันธมิตรทั้ง 2 ราย จะทำหน้าที่เป็นจุดรับจองสินค้าให้กับบริษัท นอกจากนี้ซีเอ็ดในฐานะสื่อนิตยสารคอมพิวเตอร์ ยังทำหน้าที่ทดสอบคุณภาพของสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และยังทำหน้าที่โปรโมตสินค้าอีกด้วย ส่วนทางด้านบริการหลังการขายบริษัทมีจุดให้บริการ 130-140 แห่งทั่วประเทศ โดยใช้หลักการเดียวกับไอซีที คือรับประกัน 1 ปี ทั้งนี้คาดว่าภายในระยะเวลา 1 เดือนแรกจะมียอดขายประมาณ 10,000 บาท "โครงสร้างการจำหน่ายรูปแบบเดิม ของเรา คือขายผ่านดีลเลอร์ ซึ่งก็มีเรื่องของ ต้นทุนที่ตรงนั้นเราเข้าไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่สำหรับโครงสร้างรูปแบบใหม่เราจะเปิด ให้ผู้บริโภคจองผ่านร้านซีเอ็ดที่กระจายตาม หัวเมืองใหญ่ 7 แห่ง และร้านเซเว่น ที่กระจายทั่วประเทศ และเปิดให้ผู้จองสินค้าล็อตแรก สามารถรับเครื่องได้ที่ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ในวันที่ 3-6 กรกฎาคม 2546 ส่วนลูกค้าที่ไม่สะดวกก็จะจัดส่งให้ภายหลัง" นายนิธิพัฒน์กล่าวต่อไปว่า การนำรูปแบบการเปิดรับจองมาใช้สามารถช่วยให้เราสามารถลดต้นทุนการเก็บสต็อกสินค้า และ การเปิดให้รับจองผ่านซีเอ็ด และเซเว่น ยังช่วยลดต้นทุนการจำหน่ายสินค้าลงมา ประกอบกับการสนับสนุนของซัพพลายเออร์ช่วย ให้เราสามารถทำราคาสินค้าลงมาจำหน่ายในราคา 12,990 บาท