ส.คอมพ์มองเทรนด์ตลาดไอทีชี้สภาวะการเติบโตไม่กระเตื้อง

ฐานเศรษฐกิจ : "เอทีซีไอ" ประเมินแนวโน้มการเติบโตธุรกิจไอทีไทยแค่ทรงตัว คาด 3 ปีต่อเนื่องตัวเลขการขยายตัวคงที่เพียง 10-15% ขณะที่ภาพรวมตลาดปี 46 ยังมีโอกาส ระบุ "ซอฟต์แวร์-งานบริการ" ตัวกอบกู้สถานการณ์สิน ค้าประเภทนี้พร้อมเผย "โน้ตบุ๊ก-กล้องดิจิตอล-พีดีเอ" ยืนในตำแหน่งโปรดักต์มาแรงแห่งยุค นายจำรัส สว่างสมุทร เลขาธิการสมาคมธุรกิจคอมพิวเตอร์ไทย หรือ ATCI เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า แนวโน้มตลาดไอทีโดยรวมของประเทศไทยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 10-15% ในอีก 3 ปีข้างหน้า สำหรับในปี 2546 นี้ สมาคมได้คาดการณ์ถึงภาพรวมของตลาดไอทีในประเทศไทยว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 12% หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดรวมประมาณ 79,720 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นมูลค่าของสินค้าฮาร์ดแวร์ 50,331 ล้านบาท สินค้าซอฟต์แวร์ 14,129 ล้านบาท และงานบริการด้านไอทีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการรับจ้างเขียนโปรแกรม บริการให้คำปรึกษา หรือการฝึกอบรมมีมูลค่าประมาณ 15,260 ล้านบาท ซึ่งสินค้าซอฟต์แวร์และงานบริการจะยังคงเป็นจุดเด่นของตลาดไอทีในปีนี้เช่นเดียวกับปี 2545 ทั้งนี้เนื่องจากเหตุผลหลายประการ อาทิ นโยบายด้านไอทีและการสนับสนุนของภาครัฐบาล ซึ่งส่งผลให้เกิดการใช้ซอฟต์แวร์เพิ่มมากขึ้น และการปราบปรามเรื่องลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ที่มีผลต่อเนื่องจากปีก่อนแต่คาดว่าจะมีผลกระทบน้อยกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน นอกจากนี้ผู้ใช้เองเริ่มหันมาใช้แอพพลิเคชันเฉพาะในการทำงานอย่างเช่นการทำบัญชีมากขึ้น นายจำรัสกล่าวว่า ตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซีใน ปี 2546 นี้จะมียอดขายรวมประมาณ 754,600 เครื่อง หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 20% จากยอดขายรวม 629,000 เครื่องในปี 2545 หากคิดเป็นมูลค่าตลาดรวมจะมีเม็ดเงินอยู่ที่ 13,960 ล้านบาทซึ่งมีสัดส่วนการเติบโตไม่ถึง 10% จากมูลค่าตลาดรวมในปีก่อน 12,895 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องมาจากเทคโนโลยีมีการเติบโตสูงทำให้ราคาเครื่องคอมพิวเตอร์ต่ำลงมาก ดังนั้นถึงแม้ว่าจำนวนเครื่องจะมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นมากแต่ราคาต่อหน่วยกลับลดลง นอกจากนี้สัดส่วนคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่เป็นโลคัลแบรนด์ประมาณ 70-75% ทั้งนี้เพราะนโยบายการสนับสนุนให้ซื้อสินค้าไทยของภาครัฐบาล และคุณภาพของคอมพิวเตอร์โลคัลแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจาก มอก. "ตลาดไอทีในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตต่ำกว่าปี 2545 ทั้งนี้เพราะตลาดสินค้าฮาร์ดแวร์มีการเติบโตที่ช้าเนื่องจากภาพรวมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ลดลง เครื่องคอมพิวเตอร์มีราคาถูกลงมาก ในปัจจุบันเราสามารถซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานเบื้องต้นได้ในราคาไม่ถึง 20,000 บาท" นายจำรัส กล่าวเพิ่มเติมว่า สินค้าไอทีที่คาดว่าจะมียอดขายสูงในปี 2546 นี้ ได้แก่ โน้ตบุ๊กมียอดขายรวมประมาณ 154,800 เครื่อง กล้องดิจิตอล 126,000 เครื่อง และพีดีเอ 91,000 เครื่อง โดยในปี 2545 ที่ผ่านมาโน้ตบุ๊กมียอดขายรวมอยู่ที่ 124,000 เครื่อง กล้องดิจิตอล 90,000 เครื่อง และพีดีเอ 70,000 เครื่อง ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ตลาดโน้ตบุ๊ก กล้องดิจิตอล และพีดีเอมีการเติบโตสูงกว่าสินค้าไอทีอื่นเนื่องจากสินค้าดังกล่าวมีราคาถูกลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ตลาดไอทีโดยรวมในปี 2545 ที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 18% หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดรวมประมาณ 71,153 ล้านบาท โดยตลาดซอฟต์แวร์มีอัตราการเติบโตสูงกว่า 20% เมื่อเทียบกับปี 2544 หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดประมาณ 12,530 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องมาจากการปราบปรามเรื่องลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อย่างจริงจังกับร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ส่วนฮาร์ดแวร์มีมูลค่าตลาดประมาณ 46,063 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเพียง 10-12% และบริการด้านไอทีมีมูลค่าตลาด 12,560 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 20%