ซีเอยกฐานะขึ้นชั้นชิงเค้กรัฐค่ากว่าหมื่นล้าน

ซีเอยกฐานะขึ้นชั้นชิงเค้กรัฐค่ากว่าหมื่นล้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ฐานเศรษฐกิจ : ซีเอปรับฐานะธุรกิจจากสาขาประจำประเทศสู่บริษัทไทย จำกัดหวังเพิ่มความคล่องตัวในการบริหาร หลังปรับทิศเบนเข็มเข้าจับตลาดราชการ สบช่องนโยบายจากไอซีทีส่งเสริมการลงทุนด้านไอทีในภาค รัฐมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท มั่นใจปีหน้าช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ให้ไม่ต่ำกว่า 30% นายศรีทอง เจริญกรวิจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัทคอมพิวเตอร์ แอสโซซิเอทส์ อินเตอร์ เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือซีเอ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ปรับฐานะของบริษัทจากเดิมที่มีฐานะเป็นบริษัทสาขาประจำประเทศไทยของบริษัทคอมพิวเตอร์ แอสโซซิเอทส์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ฯ เป็นบริษัทคอมพิวเตอร์ แอสโซซิเอทส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้มีความคล่องตัวและเป็นอิสระ ในการบริหารงานมากขึ้นและยังช่วยให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการดำเนินงานในฐานะที่เป็นบริษัทที่มีการจดทะเบียนดำเนินงานในประเทศไทย "ครั้งนี้เป็นการยกฐานะของบริษัทให้มีระดับการดำเนินที่สูงขึ้นจากเดิมที่เป็นเพียงสาขาของบริษัทต่างชาติ ทำให้มีข้อจำกัดในการเข้าร่วมแข่งขันโครงการของภาครัฐหลายๆ อย่าง ที่ จริงเรามองถึงเรื่องนี้มานานแล้ว ในปีหน้าตลาด ไอทีในภาครัฐจะมีมูลค่าสูงมากประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท เราจึงต้องเร่งปรับตัวเองทั้งฐานะและนโยบายการทำงานเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าตลาดส่วนนี้ให้เร็วที่สุด" นายศรีทองยังได้กล่าวต่อถึงโอกาสทางการตลาดของบริษัทต่อการลงทุนทางด้านไอทีของภาครัฐว่า จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของหน่วยงานราชการตามนโยบาย 5 อีของกระทรวงไอซีทีที่ต้องการให้ภาครัฐใช้ข้อมูลสำหรับการทำงานมากขึ้นแต่ละหน่วยงานต้องมีการสร้างระบบฐานข้อมูลของตัวเอง และแต่ละฐานข้อมูลก็ต้องการระบบรักษาความปลอดภัยที่ไม่ใช่แค่ไฟล์วอลหรือระบบป้องกันไวรัส และการที่หน่วยงานส่วนใหญ่ยังไม่มีการ วางระบบเน็ตเวิร์กภายใน ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นโอกาส ทางธุรกิจให้ภาคเอกชนทั้งสิ้น สำหรับซีเอ เรายังคงใช้นโยบายทำตลาดผ่านทางพันธมิตรทั้งกลุ่มเอสไอ (ซิสเต็ม อินติเกรเตอร์) และตัวแทนจำหน่ายเป็นหลัก โดยในขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับกลุ่มธุรกิจเอสไออยู่ 2-3 รายเพื่อให้เป็นพันธมิตรในการทำตลาดองค์กรภาครัฐโดยเฉพาะ คาดว่าในปีถัดไปสัดส่วนรายได้จากตลาดภาครัฐจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 35-40% จากปัจจุบันที่มีเพียง 10% และจะเป็นส่วนรายได้ใหม่ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นปีแรกที่เราจะให้ความสำคัญกับตลาดส่วนนี้ "ตอนนี้เรามีพันธมิตรทางด้านเอสไออยู่ประมาณ 5 ราย และมีแผนจะเพิ่มอีกเรื่อยๆ ให้มากขึ้นแต่จะพยายามเน้นผู้ที่มีความชำ-นาญในตลาดราชการเป็นสำคัญ ส่วนตัวเรา เองก็จะพยายามสร้างความคุ้นเคยและทำให้ตลาดรู้จักเราให้ได้มากที่สุดโดยที่ผ่านมาก็ได้จัดสัมมนาที่กระทรวงพาณิชย์เพื่อให้เขารู้จักเราและผลิตภัณฑ์ของเรา" นายศรีทองกล่าวและ ว่า ในส่วนของตลาดองค์กรขนาดใหญ่ที่เป็นตลาดหลักของซีเอนั้นเรามองว่าในปี 2546 ตลาดจะยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสถาบันการเงินและธุรกิจโทรคมนาคม ที่ต้องการพัฒนาระบบไอทีและระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเพื่อรองรับการทำ ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ตนมองว่าตลาดระบบงานไอทีในองค์กรขนาดใหญ่ปีหน้า ระบบงานอินฟอร์เมชัน แมเนจเมนต์จะมีสัดส่วนประมาณ 40% ระบบอินฟราสตรักเจอร์ แมเนจเมนต์ราว 30% ระบบเอนเตอร์ไพรส์ แมเนจเมนต์ 20% และที่เหลือเป็นระบบ รักษาความปลอดภัยและระบบสำรองข้อมูล 10% อย่างไรก็ตามทั้งระบบสำรองข้อมูลและรักษาความปลอดภัยเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดตามแนวโน้มการพัฒนาของเทคโนโลยี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook