Aspire One เน็ตบุ๊คตัวจิ๋วประสิทธิภาพแจ๋ว
นับเป็นกระแสนิยมที่กำลังมาแรงทีเดียวสำหรับความนิยมคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คขนาดเล็กที่เรียกกันไปต่างๆ นาๆ บ้างก็ว่า Netbook หรือ Subnotebook บางคนก็เรียก UMPC (Ultra-Mobile PC) ไปเลยก็มี
แนวคิดหลักของโน้ตบุ๊คขนาดเล็กจำพวกนี้ก็คือการลดทอนบางฟีเจอร์ลงไป ที่เห็นชัดๆ ก็อย่างใช้โปรเซสเซอร์รุ่นเล็กไม่กินไฟหรือตัดพวกออพติคัลไดรฟ์ที่ใช้อ่านแผ่น CD / DVD ออก ซึ่งช่วยให้ประหยัดไฟไปได้มากทีเดียว นอกจากนี้โน้ตบุ๊คขนาดเล็กส่วนใหญ่ยังมีราคาค่าตัวที่เรียกได้ว่าถูกมากพอสมควรเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊คปกติธรรมดา ช่วงนี้เวลาที่ไปเดินตามห้างแล้วเห็นคนซื้อคอมพิวเตอร์ส่วนมากก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เกือบหมด
Acer Aspire One ก็เป็นโน้ตบุ๊คขนาดเล็กอีกตัวที่กำลังมาแรงไม่น้อยหน้าใครจริงๆ ถ้าสังเกตจะเห็นว่า Acer กำลังเน้นทำตลาด Aspire One ตัวนี้เป็นพิเศษ (ทาง Acer เรียกผลิตภัณฑ์ในหมวดนี้ว่าเป็นว่าเป็น Netbook) มีแคมเปญโฆษณาต่างๆ ให้เราเห็นกันโดยทั่วไปแถมมีดาราและนักร้องที่กำลังมีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้อีกด้วย สงสัยปีหน้าตลาดในเซ็กเมนต์นี้คงแข่งขันกันอย่างดุเดือดเผ็ดมันเอาเรื่อง
รูปลักษณ์ลงตัว
สำหรับ Aspire One ที่ได้รับมาครั้งนี้เป็นรุ่นที่สเปคจัดว่าอยู่ในระดับกลางๆ ของ Acer รหัสคือ A150-Bb ตัวเครื่องเป็นสีน้ำเงินเข้ม ดูสวยดีทีเดียว ส่วนสีอื่นๆ ก็จะมีให้เลือกทั้งสีขาว, สีดำ และสีน้ำตาล ลองจับๆ ดูรู้สึกว่าค่อนข้างเบาเป็นพิเศษ ทาง Acer แจ้งว่าน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ1.28 กิโลกรัม เบามากทีเดียวถึงแม้จะติดตั้งแบตเตอรี่แบบ 6 เซลล์เข้าไปแล้วก็ตาม เวลาพกพาไปไหนมาไหนก็สะดวกดี สบายกว่าเวลาที่ต้องพกโน้ตบุ๊คไซส์ปกติอย่างมาก
รูปลักษณ์ภายนอกของ Aspire One นั้นดูสุขุมเรียบร้อย ทันสมัย นอกจากจะดูลงตัวกับกลุ่มผู้ใช้ที่ออกจะวัยรุ่นหน่อยๆ แล้ว ขณะเดียวกันถ้าเป็นคนทำงานที่ออกจะเป็นผู้ใหญ่ก็ยังดูเข้ากันได้ไม่ผิดเพี้ยนอะไร
โลโก้ Acer ที่อยู่บริเวณมุมบนฝาพับนั้นดูเรียบง่ายลงตัว เมื่อเปิดฝาพับขึ้นมาก็จะพบกับจอแอลซีดี CrystalBrite ให้เนทีฟเรโซลูชั่นที่ระดับ 1024 x 600 พิกเซลไวด์สกรีน หน้าจอของ Aspire One เล็กว่าจอโน้ตบุ๊คทั่วไปค่อนข้างมากโดยมีขนาดเพียงแค่ 8.9 นิ้วเท่านั้น รวมทั้งกรอบสีดำโดยรอบของจอก็ยังดูหนากว่าปกติทั่วไป ด้านบนของจอมีกล้องเว็บแคม CrystalEye ซึ่งแน่นอนว่าเป็นฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับโน้ตบุ๊คยุคปัจจุบันนี้ รวมทั้งบริเวณด้านข้างของกล้องเว็บแคมก็ยังมีไมโครโฟนรับเสียงติดตั้งอยู่ ถ้าใครชอบเล่นพวกโปรแกรม chat อย่าง MSN Messenger หรือโทรผ่านเน็ตด้วย Skype ล่ะก็โดนใจเลยทีเดียวกับฟีเจอร์เหล่านี้
ด้านแผงคีย์บอร์ด Acer เลือกใช้พื้นสีดำที่ตัดกันกับตัวหนังสือสีขาวมองเห็นชัดเจนและไม่ค่อยมีเงาสะท้อนจนมากเกินไป ที่สังเกตได้ชัดก็คือขนาดแป้นคีย์บอร์ดของ Aspire One นั้นใหญ่กว่าเน็ตบุ๊คของคู่แข่งบางรายพอสมควร สำหรับทัชแพดนั้นมีการจัดวางต่างจากโน้ตบุ๊คทั่วไป โดยเรียงเริ่มจากปุ่มคลิกซ้าย จากนั้นถัดมาเป็นแผงทัชแพด แล้วตามด้วยปุ่มคลิกขวาหรืออีกนัยก็คือเป็นการจัดเรียงตำแหน่งในแนวนอนนั่นเอง
ส่วนประกอบของตัวเครื่อง
เริ่มแรกมาดูส่วนประกอบที่อยู่ภายในกันก่อน โดยโปรเซสเซอร์ที่ใช้จะเป็น Intel? Atom? processor N270 ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับเน็ตบุ๊คโดยเน้นด้านการประหยัดพลังงาน สำหรับแรมก็ใส่มาให้ที่ 1 กิกะไบต์ ด้านฮาร์ดดิสก์ของ Aspire One ตัวนี้จะเป็นแบบโน้ตบุ๊คทั่วไป ไม่ใช่แบบ Solid State Drive โดยความจุจะอยู่ที่ 120 กิกะไบต์ ทั้งนี้สเปคของเครื่องจะแตกต่างกันไปตามรุ่น สามารถสอบถามไปที่ทาง Acer สำหรับรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ในแต่ละรุ่น
ด้านการเชื่อมต่อ Aspire One ก็มีให้ใช้ครบครันทั้ง ช่องต่อหูฟัง, ช่องต่อไมโครโฟน, พอร์ต USB 2.0 (3 พอร์ต), พอร์ต VGA สำหรับต่อจอมอนิเตอร์หรือโปรเจ็กเตอร์ภายนอก, ช่องเสียบสาย LAN, มัลติมีเดียการ์ดรีดเดอร์ 5-in-1 แบบครอบจักรวาล รวมทั้งมีช่องสำหรับเสียบเมมโมรี่การ์ดแบบ SDHC แยกออกมาอีกหนึ่งช่อง เพิ่มทางเลือกสำหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้อีกเป็นพิเศษ
ส่วนระบบไร้สาย Aspire One จะมีมาให้แค่ Wireless LAN เท่านั้น โดยจะมีสวิตช์สำหรับเปิด / ปิดที่จัดวางตำแหน่งไว้เห็นได้ชัดเจนที่ด้านหน้า น่าเสียดายที่ไม่มี Bluetooth มาให้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราสามารถหาซื้อ Bluetooth แบบที่เป็นยูเอส บีมาเสียบเพิ่มได้ ราคาก็ไม่แพงเท่าไหร่เคยเห็นแถวห้างไอทีมีวางขายอันละร้อยกว่าบาทเกือบสองร้อยเท่านั้น
ทดลองใช้งาน
เริ่มแรกขอทดลองใช้แป้นคีย์บอร์ดกันก่อนเลย ความรู้สึกครั้งแรกอาจจะดูขัดๆ ไปบ้างเล็กน้อยเนื่องจากแป้นคีย์บอร์ดของ Aspire One ค่อนข้างต่างจากแป้นคีย์บอร์ดของโน้ตบุ๊คทั่วไป เวลาพิมพ์อาจติดขัดไปบ้างเพราะปุ่มที่ใช้งานบ่อยบางปุ่มอย่างเช่น Tab หรือ Backspace นั้นมีขนาดเล็กกว่าปกติอาจต้องทำความคุ้นเคยสักพักถึงจะเริ่มชิน
หลังจากที่ลองพิมพ์ตัวหนังสือใน Microsoft office Word รู้สึกตัวหนังสือจะไม่ค่อยคม เรโซลูชั่นที่ 1024 x 600 พิกเซลอาจดูแปลกๆ ไปนิดเพราะปกติทั่วไปที่เห็นก็จะเป็น 1024 x 768 พิกเซล
ด้านทัชแพดก็ให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างแปลกเนื่องจากการจัดเรียงปุ่มในแนวนอน โดยจะแผงทัชแพดจะคั่นกลางอยู่ระหว่างปุ่มคลิกซ้ายกับคลิกขวา ซึ่งต่างจากโน้ตบุ๊คทั่วไปที่ปุ่มคลิกซ้ายและปุ่มคลิกขวาจะวางอยู่คู่กันใต้แผงทัชแพด นอกจากนี้ปุ่มคลิกซ้าย / ขวาทั้งสองปุ่มก็ยังรู้สึกแข็งใช้ยากเกินไปหน่อย
สำหรับฟังก์ชันการใช้งานของบอร์ดอีกหนึ่งคุณสมบัติที่น่าสนใจก็คือพวกคีย์ลัดที่ต้องใช่คู่กับปุ่ม ‘Fn’ อย่างเช่น สามารถล็อกทัชแพดด้วยการกดปุ่มคีย์ลัด Fn + F7 เรียกว่าสะดวกมากเลยทีเดียว เพราะปกติเวลาที่ต้องใช้งานหนักๆ ก็อาจเปลี่ยนเอาเมาส์มาใช้แทนแล้วก็ปิดทัชแพดไปเลย จะได้ไม่ต้องคอยกังวลเวลาเผลอเอามือไปโดน นอกจากนี้ก็ยังมีคีย์ลัดอื่นๆ ที่น่าสนใจอย่างการกดปุ่ม Fn + F5 เพื่อเปิด / ปิดหน้าจอ หรือ Fn + F8 เพื่อเปิด / ปิดเสียง
ลองดูหนังบ้าง
เวลาที่ใช้พิมพ์งานหน้าจอที่เล็กอาจทำให้มองตัวหนังสือลำบากนิดหน่อย แต่เวลาดูภาพวิดีโอนั้นลงตัวกว่ามาก จอไวด์สกรีนของ Aspire One นอกจากจะคมชัดแล้วคอนทราสต์กับสีสันก็ยังดูดีไม่น้อย รวมถึงมุมมองในการรับชมก็กว้างพอสมควรและยังมีอัตราการตอบสนองภาพอยู่ในเกณฑ์ที่พอเหมาะ
ลองเล่นไฟล์ Hi-Def ตอนแรกไม่ค่อยมั่นใจเพราะได้ยิน ‘เสียงร่ำลือ’ ด้านการประมวลผลมาว่าไม่ค่อยจะถึงใจใครหลายคน เลยขอลองเบาะๆ กันก่อนที่ 720p แต่เนื่องด้วย Acer ตัดฟีเจอร์เกี่ยวกับออพติคัลไดรฟ์สำหรับอ่านแผ่นพวก CD / DVD ออกไป (เข้าใจว่าเพราะเป็นฮาร์ดแวร์ส่วนหนึ่งที่กินพลังงานเอาเรื่องทีเดียว) ในเมื่อไม่มีออพติคัลไดรฟ์แต่ยังไงก็ไม่กลัวไปโหลดไฟล์หนังมาดูกันดีกว่า พอดีมีไฟล์ DivX ที่ดาวน์โหลดเอาไว้ตั้งแต่สมัยเว็บไซต์ยังไม่ปิดตัวลง เป็นไฟล์ 720p ลองดูผ่านโปรมแกรมครอบจักรวาลอย่าง KM Player ก็ดูได้สบายๆ ไม่มีกระตุก และถึงแม้จะมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กแต่จอ Crys- talBrite กลับสามารถแสดงประสิทธิ ภาพออกมาได้อย่างน่าประทับใจเป็นพิเศษ
ลองเปลี่ยนมาเป็นไฟล์ 1080p กันบ้าง สุดๆ กันไปเลยกับฝูงโลมาน่ารักในสารคดี Dolphins จากค่าย IMAX ภาพที่ออกมาอาจดูอืดๆ เล็กน้อยแต่ก็พอดูได้
ลองเปลี่ยนไปดูฟอร์แมต WMV กันบ้าง คราวนี้มาเป็นแผ่น DVD ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมากมายเพราะแค่เอาไดรฟ์ DVD แบบ External มาต่อผ่านทางพอร์ตยูเอสบีก็เล่นได้แล้ว ตัวนึงก็ไม่แพงมากเท่าไหร่นัก ลองดู Robotica ภาพนี่คมกริบ แถมเล่นได้ราบรื่นไม่มีปัญหา เพราะฉะนั้นแผ่นฟอร์แมต DVD ธรรมดาก็สบายมากเลย ถ้าดู Hi-Def ได้แค่ DVD นี่ก็ต้องบอกว่าเด็กๆ
ด้านการใช้งานซอฟต์แวร์สามัญประจำเครื่อง Aspire One ก็ทำได้ค่อนข้างดี อย่าง Photoshop CS3 นี่ก็รันได้สบายๆ รวมถึงเกมเบาๆ อย่าง Counter Strike นี่ก็เล่นได้ไหลลื่นไม่มีปัญหา แต่ในส่วนของการเล่นเกม ใครที่ชอบจอใหญ่ๆ Aspire One ก็ยังมีพอร์ต VGA สำหรับต่อสัญญาณออกไปยังภายนอก ในที่นี้ลองต่อกับจอแอลซีดีมอร์นิเตอร์ของ Viewsonic ภาพนั้นก็ใหญ่สะใจดีเหมือนกันซึ่งพอร์ต VGA นี้ยังสามารถต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ อย่างพวกโปรเจ็กเตอร์ได้อีกด้วย
ฟีเจอร์สำหรับคนชอบคุย
กลายเป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ไปแล้วนะครับสำหรับกล้องเว็บแคม เป็นฟีเจอร์ที่โน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ จะต้องมีติดมาเสมอ กล้องเว็บ CrystalEyes ของ AspireOne จะติดตั้งอยู่ที่ด้านบนของหน้าจอแอลซีดี คุณภาพนั้นถือว่ากลางๆ พอใช้งานได้ สำหรับใครที่ชอบใช้โปรแกรมพวก Messenger ต่างๆ คุยกับเพื่อนก็คงจะถูกใจกับฟีเจอร์นี้แถมมีไมโครโฟนในตัวอีกเรียกว่าครบครันเลยทีเดียว
ใช้งานสะดวกหลายรูปแบบ
Aspire One ตัวนี้มีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบาแม้จะรวมพวกแบตเตอรี่แล้วก็ตาม สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก โดยทั่วไปอาจเอาไปใช้พิมพ์งาน นั่งเล่น อินเตอร์เน็ต หรือนั่งแชตกับเพื่อนผ่านโปรแกรมพวก Messenger เหล่านี้เป็นการใช้งานในลักษณะทั่วไป แต่การประยุกต์ใช้งานอย่างอื่นเช่นเอาไว้แบ็คอัพไฟล์รูปถ่ายก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเหมือนกัน
นอกจากน้ำหนักที่เบาพกไปไหนมาไหนได้สะดวกแล้ว Aspire One ยังมีการ์ดรีเดอร์แบบ 5-in-1 ที่สามารถอ่านการ์ดได้หลากหลายฟอร์แมต เวลาที่ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็เอามาโหลดเก็บไว้ในเครื่องได้เลย รวมทั้งสามารถเลือกพรีวิวดูรูปเพื่อถ่ายซ่อมได้อีกด้วย ถ้าเป็นกล้องที่ไฮโซหน่อยอย่างพวก DSLR และต้องการถ่ายงานที่ประณีตเป็นพิเศษ เช่นการถ่ายภาพสินค้า ก็สามารถเอาสายยูเอสบีต่อแล้วให้ Aspire One สั่งให้กดชัตเตอร์กล้อง หรือถ้าชอบเดินทาง ก็อาจหา GPS ที่เป็นแบบยูเอสบีมาต่อแล้วดูผ่านจอของ Aspire One ได้เลย ขนาดที่เล็กกะทัดรัดและน้ำหนักที่เบาช่วยให้สามารถประยุกต์ใช้ได้งานหลากหลายรูปแบบ
สรุป
สำหรับการใช้งานโดยรวมแล้วถือว่า Aspire One ค่อนข้างน่าประทับใจ แต่ไม่อยากให้นำไปเทียบประสิทธิภาพด้านการประมวลผลกับโน้ตบุ๊คหรือเดสก์ท็อปปกติ เพราะนั่นจะทำให้หลงประเด็น แนวคิดของ Aspire One คือการเป็นคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กที่เน้นการใช้งานเบาๆ สบายๆ มากกว่าการประมวลผลหนักๆ จุดเด่นของ Aspire One นอกจากจะมีขนาดเล็กพกพาสะดวกแล้วก็ยังกินไฟน้อย เมื่อใช้กับแบตเตอรี่แบบ 6 เซลล์ที่มาพร้อมกับเครื่อง (เฉพาะรุ่น) ทาง Acer เคลมว่าสามารถใช้งานได้นานถึงประมาณ 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนฟีเจอร์ที่ขาดหายไปอย่าง Bluetooth หรือไดรฟ์อ่าน CD / DVD นั้นเป็นออพชั่นที่สามารถหามาเพิ่มเติมได้ ในทางกลับกันสิ่งที่ถูกลดทอนลงไปเหล่านั้นก็ช่วยประหยัดการใช้พลังงานไปได้มาก ถ้าเปรียบเทียบในแง่มุมต่างๆ แล้ว Aspire One ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าน่าใช้มากเลยทีเดียว
ราคา : 17,900 บาท
แนวคิดหลักของโน้ตบุ๊คขนาดเล็กจำพวกนี้ก็คือการลดทอนบางฟีเจอร์ลงไป ที่เห็นชัดๆ ก็อย่างใช้โปรเซสเซอร์รุ่นเล็กไม่กินไฟหรือตัดพวกออพติคัลไดรฟ์ที่ใช้อ่านแผ่น CD / DVD ออก ซึ่งช่วยให้ประหยัดไฟไปได้มากทีเดียว นอกจากนี้โน้ตบุ๊คขนาดเล็กส่วนใหญ่ยังมีราคาค่าตัวที่เรียกได้ว่าถูกมากพอสมควรเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊คปกติธรรมดา ช่วงนี้เวลาที่ไปเดินตามห้างแล้วเห็นคนซื้อคอมพิวเตอร์ส่วนมากก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เกือบหมด
Acer Aspire One ก็เป็นโน้ตบุ๊คขนาดเล็กอีกตัวที่กำลังมาแรงไม่น้อยหน้าใครจริงๆ ถ้าสังเกตจะเห็นว่า Acer กำลังเน้นทำตลาด Aspire One ตัวนี้เป็นพิเศษ (ทาง Acer เรียกผลิตภัณฑ์ในหมวดนี้ว่าเป็นว่าเป็น Netbook) มีแคมเปญโฆษณาต่างๆ ให้เราเห็นกันโดยทั่วไปแถมมีดาราและนักร้องที่กำลังมีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้อีกด้วย สงสัยปีหน้าตลาดในเซ็กเมนต์นี้คงแข่งขันกันอย่างดุเดือดเผ็ดมันเอาเรื่อง
รูปลักษณ์ลงตัว
สำหรับ Aspire One ที่ได้รับมาครั้งนี้เป็นรุ่นที่สเปคจัดว่าอยู่ในระดับกลางๆ ของ Acer รหัสคือ A150-Bb ตัวเครื่องเป็นสีน้ำเงินเข้ม ดูสวยดีทีเดียว ส่วนสีอื่นๆ ก็จะมีให้เลือกทั้งสีขาว, สีดำ และสีน้ำตาล ลองจับๆ ดูรู้สึกว่าค่อนข้างเบาเป็นพิเศษ ทาง Acer แจ้งว่าน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ1.28 กิโลกรัม เบามากทีเดียวถึงแม้จะติดตั้งแบตเตอรี่แบบ 6 เซลล์เข้าไปแล้วก็ตาม เวลาพกพาไปไหนมาไหนก็สะดวกดี สบายกว่าเวลาที่ต้องพกโน้ตบุ๊คไซส์ปกติอย่างมาก
รูปลักษณ์ภายนอกของ Aspire One นั้นดูสุขุมเรียบร้อย ทันสมัย นอกจากจะดูลงตัวกับกลุ่มผู้ใช้ที่ออกจะวัยรุ่นหน่อยๆ แล้ว ขณะเดียวกันถ้าเป็นคนทำงานที่ออกจะเป็นผู้ใหญ่ก็ยังดูเข้ากันได้ไม่ผิดเพี้ยนอะไร
โลโก้ Acer ที่อยู่บริเวณมุมบนฝาพับนั้นดูเรียบง่ายลงตัว เมื่อเปิดฝาพับขึ้นมาก็จะพบกับจอแอลซีดี CrystalBrite ให้เนทีฟเรโซลูชั่นที่ระดับ 1024 x 600 พิกเซลไวด์สกรีน หน้าจอของ Aspire One เล็กว่าจอโน้ตบุ๊คทั่วไปค่อนข้างมากโดยมีขนาดเพียงแค่ 8.9 นิ้วเท่านั้น รวมทั้งกรอบสีดำโดยรอบของจอก็ยังดูหนากว่าปกติทั่วไป ด้านบนของจอมีกล้องเว็บแคม CrystalEye ซึ่งแน่นอนว่าเป็นฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับโน้ตบุ๊คยุคปัจจุบันนี้ รวมทั้งบริเวณด้านข้างของกล้องเว็บแคมก็ยังมีไมโครโฟนรับเสียงติดตั้งอยู่ ถ้าใครชอบเล่นพวกโปรแกรม chat อย่าง MSN Messenger หรือโทรผ่านเน็ตด้วย Skype ล่ะก็โดนใจเลยทีเดียวกับฟีเจอร์เหล่านี้
ด้านแผงคีย์บอร์ด Acer เลือกใช้พื้นสีดำที่ตัดกันกับตัวหนังสือสีขาวมองเห็นชัดเจนและไม่ค่อยมีเงาสะท้อนจนมากเกินไป ที่สังเกตได้ชัดก็คือขนาดแป้นคีย์บอร์ดของ Aspire One นั้นใหญ่กว่าเน็ตบุ๊คของคู่แข่งบางรายพอสมควร สำหรับทัชแพดนั้นมีการจัดวางต่างจากโน้ตบุ๊คทั่วไป โดยเรียงเริ่มจากปุ่มคลิกซ้าย จากนั้นถัดมาเป็นแผงทัชแพด แล้วตามด้วยปุ่มคลิกขวาหรืออีกนัยก็คือเป็นการจัดเรียงตำแหน่งในแนวนอนนั่นเอง
ส่วนประกอบของตัวเครื่อง
เริ่มแรกมาดูส่วนประกอบที่อยู่ภายในกันก่อน โดยโปรเซสเซอร์ที่ใช้จะเป็น Intel? Atom? processor N270 ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับเน็ตบุ๊คโดยเน้นด้านการประหยัดพลังงาน สำหรับแรมก็ใส่มาให้ที่ 1 กิกะไบต์ ด้านฮาร์ดดิสก์ของ Aspire One ตัวนี้จะเป็นแบบโน้ตบุ๊คทั่วไป ไม่ใช่แบบ Solid State Drive โดยความจุจะอยู่ที่ 120 กิกะไบต์ ทั้งนี้สเปคของเครื่องจะแตกต่างกันไปตามรุ่น สามารถสอบถามไปที่ทาง Acer สำหรับรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ในแต่ละรุ่น
ด้านการเชื่อมต่อ Aspire One ก็มีให้ใช้ครบครันทั้ง ช่องต่อหูฟัง, ช่องต่อไมโครโฟน, พอร์ต USB 2.0 (3 พอร์ต), พอร์ต VGA สำหรับต่อจอมอนิเตอร์หรือโปรเจ็กเตอร์ภายนอก, ช่องเสียบสาย LAN, มัลติมีเดียการ์ดรีดเดอร์ 5-in-1 แบบครอบจักรวาล รวมทั้งมีช่องสำหรับเสียบเมมโมรี่การ์ดแบบ SDHC แยกออกมาอีกหนึ่งช่อง เพิ่มทางเลือกสำหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้อีกเป็นพิเศษ
ส่วนระบบไร้สาย Aspire One จะมีมาให้แค่ Wireless LAN เท่านั้น โดยจะมีสวิตช์สำหรับเปิด / ปิดที่จัดวางตำแหน่งไว้เห็นได้ชัดเจนที่ด้านหน้า น่าเสียดายที่ไม่มี Bluetooth มาให้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราสามารถหาซื้อ Bluetooth แบบที่เป็นยูเอส บีมาเสียบเพิ่มได้ ราคาก็ไม่แพงเท่าไหร่เคยเห็นแถวห้างไอทีมีวางขายอันละร้อยกว่าบาทเกือบสองร้อยเท่านั้น
ทดลองใช้งาน
เริ่มแรกขอทดลองใช้แป้นคีย์บอร์ดกันก่อนเลย ความรู้สึกครั้งแรกอาจจะดูขัดๆ ไปบ้างเล็กน้อยเนื่องจากแป้นคีย์บอร์ดของ Aspire One ค่อนข้างต่างจากแป้นคีย์บอร์ดของโน้ตบุ๊คทั่วไป เวลาพิมพ์อาจติดขัดไปบ้างเพราะปุ่มที่ใช้งานบ่อยบางปุ่มอย่างเช่น Tab หรือ Backspace นั้นมีขนาดเล็กกว่าปกติอาจต้องทำความคุ้นเคยสักพักถึงจะเริ่มชิน
หลังจากที่ลองพิมพ์ตัวหนังสือใน Microsoft office Word รู้สึกตัวหนังสือจะไม่ค่อยคม เรโซลูชั่นที่ 1024 x 600 พิกเซลอาจดูแปลกๆ ไปนิดเพราะปกติทั่วไปที่เห็นก็จะเป็น 1024 x 768 พิกเซล
ด้านทัชแพดก็ให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างแปลกเนื่องจากการจัดเรียงปุ่มในแนวนอน โดยจะแผงทัชแพดจะคั่นกลางอยู่ระหว่างปุ่มคลิกซ้ายกับคลิกขวา ซึ่งต่างจากโน้ตบุ๊คทั่วไปที่ปุ่มคลิกซ้ายและปุ่มคลิกขวาจะวางอยู่คู่กันใต้แผงทัชแพด นอกจากนี้ปุ่มคลิกซ้าย / ขวาทั้งสองปุ่มก็ยังรู้สึกแข็งใช้ยากเกินไปหน่อย
สำหรับฟังก์ชันการใช้งานของบอร์ดอีกหนึ่งคุณสมบัติที่น่าสนใจก็คือพวกคีย์ลัดที่ต้องใช่คู่กับปุ่ม ‘Fn’ อย่างเช่น สามารถล็อกทัชแพดด้วยการกดปุ่มคีย์ลัด Fn + F7 เรียกว่าสะดวกมากเลยทีเดียว เพราะปกติเวลาที่ต้องใช้งานหนักๆ ก็อาจเปลี่ยนเอาเมาส์มาใช้แทนแล้วก็ปิดทัชแพดไปเลย จะได้ไม่ต้องคอยกังวลเวลาเผลอเอามือไปโดน นอกจากนี้ก็ยังมีคีย์ลัดอื่นๆ ที่น่าสนใจอย่างการกดปุ่ม Fn + F5 เพื่อเปิด / ปิดหน้าจอ หรือ Fn + F8 เพื่อเปิด / ปิดเสียง
ลองดูหนังบ้าง
เวลาที่ใช้พิมพ์งานหน้าจอที่เล็กอาจทำให้มองตัวหนังสือลำบากนิดหน่อย แต่เวลาดูภาพวิดีโอนั้นลงตัวกว่ามาก จอไวด์สกรีนของ Aspire One นอกจากจะคมชัดแล้วคอนทราสต์กับสีสันก็ยังดูดีไม่น้อย รวมถึงมุมมองในการรับชมก็กว้างพอสมควรและยังมีอัตราการตอบสนองภาพอยู่ในเกณฑ์ที่พอเหมาะ
ลองเล่นไฟล์ Hi-Def ตอนแรกไม่ค่อยมั่นใจเพราะได้ยิน ‘เสียงร่ำลือ’ ด้านการประมวลผลมาว่าไม่ค่อยจะถึงใจใครหลายคน เลยขอลองเบาะๆ กันก่อนที่ 720p แต่เนื่องด้วย Acer ตัดฟีเจอร์เกี่ยวกับออพติคัลไดรฟ์สำหรับอ่านแผ่นพวก CD / DVD ออกไป (เข้าใจว่าเพราะเป็นฮาร์ดแวร์ส่วนหนึ่งที่กินพลังงานเอาเรื่องทีเดียว) ในเมื่อไม่มีออพติคัลไดรฟ์แต่ยังไงก็ไม่กลัวไปโหลดไฟล์หนังมาดูกันดีกว่า พอดีมีไฟล์ DivX ที่ดาวน์โหลดเอาไว้ตั้งแต่สมัยเว็บไซต์ยังไม่ปิดตัวลง เป็นไฟล์ 720p ลองดูผ่านโปรมแกรมครอบจักรวาลอย่าง KM Player ก็ดูได้สบายๆ ไม่มีกระตุก และถึงแม้จะมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กแต่จอ Crys- talBrite กลับสามารถแสดงประสิทธิ ภาพออกมาได้อย่างน่าประทับใจเป็นพิเศษ
ลองเปลี่ยนมาเป็นไฟล์ 1080p กันบ้าง สุดๆ กันไปเลยกับฝูงโลมาน่ารักในสารคดี Dolphins จากค่าย IMAX ภาพที่ออกมาอาจดูอืดๆ เล็กน้อยแต่ก็พอดูได้
ลองเปลี่ยนไปดูฟอร์แมต WMV กันบ้าง คราวนี้มาเป็นแผ่น DVD ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมากมายเพราะแค่เอาไดรฟ์ DVD แบบ External มาต่อผ่านทางพอร์ตยูเอสบีก็เล่นได้แล้ว ตัวนึงก็ไม่แพงมากเท่าไหร่นัก ลองดู Robotica ภาพนี่คมกริบ แถมเล่นได้ราบรื่นไม่มีปัญหา เพราะฉะนั้นแผ่นฟอร์แมต DVD ธรรมดาก็สบายมากเลย ถ้าดู Hi-Def ได้แค่ DVD นี่ก็ต้องบอกว่าเด็กๆ
ด้านการใช้งานซอฟต์แวร์สามัญประจำเครื่อง Aspire One ก็ทำได้ค่อนข้างดี อย่าง Photoshop CS3 นี่ก็รันได้สบายๆ รวมถึงเกมเบาๆ อย่าง Counter Strike นี่ก็เล่นได้ไหลลื่นไม่มีปัญหา แต่ในส่วนของการเล่นเกม ใครที่ชอบจอใหญ่ๆ Aspire One ก็ยังมีพอร์ต VGA สำหรับต่อสัญญาณออกไปยังภายนอก ในที่นี้ลองต่อกับจอแอลซีดีมอร์นิเตอร์ของ Viewsonic ภาพนั้นก็ใหญ่สะใจดีเหมือนกันซึ่งพอร์ต VGA นี้ยังสามารถต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ อย่างพวกโปรเจ็กเตอร์ได้อีกด้วย
ฟีเจอร์สำหรับคนชอบคุย
กลายเป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ไปแล้วนะครับสำหรับกล้องเว็บแคม เป็นฟีเจอร์ที่โน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ จะต้องมีติดมาเสมอ กล้องเว็บ CrystalEyes ของ AspireOne จะติดตั้งอยู่ที่ด้านบนของหน้าจอแอลซีดี คุณภาพนั้นถือว่ากลางๆ พอใช้งานได้ สำหรับใครที่ชอบใช้โปรแกรมพวก Messenger ต่างๆ คุยกับเพื่อนก็คงจะถูกใจกับฟีเจอร์นี้แถมมีไมโครโฟนในตัวอีกเรียกว่าครบครันเลยทีเดียว
ใช้งานสะดวกหลายรูปแบบ
Aspire One ตัวนี้มีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบาแม้จะรวมพวกแบตเตอรี่แล้วก็ตาม สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก โดยทั่วไปอาจเอาไปใช้พิมพ์งาน นั่งเล่น อินเตอร์เน็ต หรือนั่งแชตกับเพื่อนผ่านโปรแกรมพวก Messenger เหล่านี้เป็นการใช้งานในลักษณะทั่วไป แต่การประยุกต์ใช้งานอย่างอื่นเช่นเอาไว้แบ็คอัพไฟล์รูปถ่ายก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเหมือนกัน
นอกจากน้ำหนักที่เบาพกไปไหนมาไหนได้สะดวกแล้ว Aspire One ยังมีการ์ดรีเดอร์แบบ 5-in-1 ที่สามารถอ่านการ์ดได้หลากหลายฟอร์แมต เวลาที่ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็เอามาโหลดเก็บไว้ในเครื่องได้เลย รวมทั้งสามารถเลือกพรีวิวดูรูปเพื่อถ่ายซ่อมได้อีกด้วย ถ้าเป็นกล้องที่ไฮโซหน่อยอย่างพวก DSLR และต้องการถ่ายงานที่ประณีตเป็นพิเศษ เช่นการถ่ายภาพสินค้า ก็สามารถเอาสายยูเอสบีต่อแล้วให้ Aspire One สั่งให้กดชัตเตอร์กล้อง หรือถ้าชอบเดินทาง ก็อาจหา GPS ที่เป็นแบบยูเอสบีมาต่อแล้วดูผ่านจอของ Aspire One ได้เลย ขนาดที่เล็กกะทัดรัดและน้ำหนักที่เบาช่วยให้สามารถประยุกต์ใช้ได้งานหลากหลายรูปแบบ
สรุป
สำหรับการใช้งานโดยรวมแล้วถือว่า Aspire One ค่อนข้างน่าประทับใจ แต่ไม่อยากให้นำไปเทียบประสิทธิภาพด้านการประมวลผลกับโน้ตบุ๊คหรือเดสก์ท็อปปกติ เพราะนั่นจะทำให้หลงประเด็น แนวคิดของ Aspire One คือการเป็นคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กที่เน้นการใช้งานเบาๆ สบายๆ มากกว่าการประมวลผลหนักๆ จุดเด่นของ Aspire One นอกจากจะมีขนาดเล็กพกพาสะดวกแล้วก็ยังกินไฟน้อย เมื่อใช้กับแบตเตอรี่แบบ 6 เซลล์ที่มาพร้อมกับเครื่อง (เฉพาะรุ่น) ทาง Acer เคลมว่าสามารถใช้งานได้นานถึงประมาณ 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนฟีเจอร์ที่ขาดหายไปอย่าง Bluetooth หรือไดรฟ์อ่าน CD / DVD นั้นเป็นออพชั่นที่สามารถหามาเพิ่มเติมได้ ในทางกลับกันสิ่งที่ถูกลดทอนลงไปเหล่านั้นก็ช่วยประหยัดการใช้พลังงานไปได้มาก ถ้าเปรียบเทียบในแง่มุมต่างๆ แล้ว Aspire One ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าน่าใช้มากเลยทีเดียว
ราคา : 17,900 บาท
สนับสนุนข้อมูลโดย...
สนับสนุนเนื้อหา
