Elze Z7000 Upscaling DVD Player

Elze Z7000
Upscaling DVD Player
 
 Elze Z7000 Upscaling DVD Player

สไตล์
เป็นเครื่องที่ออกแบบมาอย่างสอดคล้องกับยุคสมัยทีเดียว เรียกว่าสามารถเข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้อย่างลงตัวเหมาะเจาะ ด้วยตัวเครื่องที่ดูแบนบางกะทัดรัด ใช้สีดำเข้มตัดกับไฟหน้าปัดสีน้ำเงินดูล้ำสมัย
    
ถาดใส่แผ่นดูบางเฉียบ แต่เคลื่อนเข้าออกอย่างมั่นคงและเงียบเชียบมาก มีปุ่มบนหน้าปัดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น คือปุ่มเปิด/ปิดถาด, ปุ่มเล่น/หยุดชั่วคราว และปุ่มหยุดเล่นรวมทั้งปุ่มเพาเวอร์ ไม่มีปุ่มเลือกแทร็คหรือกรอภาพ (เดินหน้า/ถอยหลัง) และไม่มีปุ่มเมนูบนหน้าปัด
    
ที่หน้าปัดด้านหน้ามีช่องต่อไมค์ให้ 2 ช่อง พร้อมช่องต่อ USB และช่องการ์ดรีดเดอร์ SD/MS/MMC
    
ด้านหลังเครื่องมีช่องต่อสัญญาณภาพและเสียง HDMI (HDCP) ช่องสัญญาณภาพ Component Video, S-Video และ Composite Video ช่องสัญญาณเสียงอะนาล็อกเอาต์พุต 5.1 ช่องสัญญาณเสียงดิจิตอลเอาต์พุต Coaxial และช่องสัญญาณเสียงอะนาล็อกเอาต์พุต (MIX L/R) สำหรับสายไฟ AC ก็จะเป็นแบบที่ไม่สามารถจะถอดแยกได้ (เป็นปกติของเครื่องในระดับราคานี้)
    
หน้าปัดแสดงไฟและตัวอักษรต่างๆ สีน้ำเงิน สอดรับกับทีวีที่นำมาใช้คู่กันอย่างลงตัวที่สุด
    
รีโมตขนาดกะทัดรัดมีปุ่มใช้งานต่างๆ เรียงรายอย่างครบครัน การใช้งานก็มีความคล่องตัวดีเมื่อมีความคุ้นเคยกับปุ่มเหล่านั้นที่ค่อนข้างจะอยู่ติดชิดกันเล็กน้อย
 
ทดสอบ
โดดเด่นด้วยแสงไฟสีน้ำเงินที่ดูสวยงามสะดุดตา และเข้ากันอย่างลงตัวกับพวกจอภาพ Plasma TV หรือ LCD TV ที่ออกแบบตัวเครื่องด้วยสีดำเคลือบเงาและใช้ไฟสีน้ำเงินในแบบเดียวกัน แต่ในทางกลับกันก็อาจจะรบกวนสายตาได้ถ้านำมาใช้งานในห้องที่ค่อนข้างมืด
    
การอ่านแผ่นมีความไวในระดับกลางๆ และสามารถอ่านแผ่นได้ดี เสียงถาดในขณะเปิดเข้าออกก็ค่อนข้างเงียบใกล้เคียงกับเครื่องเล่นซีดีหรือเครื่องเล่นดีวีดีราคาสูงๆ
     
การเลือก Chapter เมื่อเล่นแผ่นดีวีดีมีความคล่องตัวใช้ได้ มีความว่องไว แต่อาจจะไม่สามารถข้ามย้อนกลับไปยัง Chapter ที่ต้องข้ามไปหลายๆ Chapter ได้อย่างทันทีทันใด หรือในการเล่นข้ามไตเติล (ตัวอย่างเช่นแผ่น Digital Video Essential ที่แบ่งเป็นไตเติลต่างๆ)
    
คุณภาพของภาพของเครื่องนี้จะออกมาในระดับกลางๆ เน้นการใช้งานที่หลากหลาย เช่น มีช่อง USB และช่องอ่านการ์ด SD/MS/MMC ทำให้สามารถใช้งานทางเชิงมัลติมีเดียได้ครอบคลุมกว้างขวางมาก (ดูหนังฟังเพลงผ่านสื่อตัวกลางที่เชื่อมต่อผ่านช่องดังกล่าว) และความคุ้มค่าในราคาค่าตัวที่จ่ายไป มากกว่าที่จะให้มาแบบสุดๆ (ต้องปรับลด Contrast ของเครื่องนี้ลงเล็กน้อย โดยการเข้าไปปรับในเมนูเซ็ตอัพ เพราะเครื่องจากโรงงานจะตั้งมาสูงกว่ามาตรฐานอยู่บ้าง) ดังนั้นคุณภาพที่ได้ก็ไม่ถึงกับดีกว่า GK-9900 (ที่มีใช้อยู่ในห้องทดสอบ) เช่น ทางด้านความโปร่งความสะอาดใสก็จะลดหย่อนลงมาบ้าง อย่างไรก็ตาม, สำหรับรายละเอียดภาพก็นับว่ามีความคุ้มค่าดีทีเดียว และสามารถ Scale สัญญาณขึ้นไปเป็น 720p 60Hz/50Hz และ 1080i 60Hz/50Hz ทางช่อง Component Video ได้ด้วย (สำหรับแผ่นดีวีดีที่ไม่มีโปรเทคชั่น)
    
สัญญาณภาพ 480i ที่ช่องสัญญาณภาพดังกล่าว สามารถให้ความใสและความคมได้ดีพอสมควร มีความสว่างและลึกดี ภาพโดยทั่วๆ ไปสอบผ่านตลอด แต่พอถึงฉากมืดๆ ก็อาจจะมองเห็นเม็ดสีเขียวๆ ปะปนออกมาบ้างเล็กน้อย แต่จุดที่โดดเด่นที่สุดของสัญญาณ 480i ก็คือฉากที่วัตถุภายในภาพกำลังเคลื่อนไหว ที่จะดูราบรื่นดีไม่ค่อยสั่นกระตุกสักเท่าไหร่
    
สัญญาณภาพ 480p จะสว่างสดใสกว่า 480i อย่างเห็นได้ชัด ความคมชัดของสัญญาณแสง (Luminance) นับว่าดีเกินตัว ซึ่งนับว่าจะยกระดับตัวเองขึ้นมาได้อีกพอสมควรเมื่อเป็นสัญญาณ 480p
    
หากมีแผ่นดีวีดีที่ไม่มีโปรเทคชั่นก็จะเริ่มเห็นความคุ้มค่าของเครื่องนี้ที่สัญญาณ 720p ซึ่งจะคมชัดกว่าภาพที่รายละเอียด 480i, 480p อย่างเห็นได้ชัดมากและภาพจะใสกว่าด้วย (สัญญาณสีหรือ Chrominance ซึ่งยังทำได้ไม่ค่อยดีที่ 480i, 480p ก็จะ Improve หรือดีขึ้นอย่างมาก)
    
และที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่ง, ภาพที่ Scale ขึ้นไปเป็น 720p หรือ 1080i จะได้บรรยากาศภาพเพิ่มขึ้นด้วย โดย 1080i จะดูนุ่มกว่า 720p นิดหน่อย (ทั้งกับ LG 32PC5RV และ InFocus IN82 –ซึ่งอินโฟกัสรุ่นนี้ได้ชื่อว่าให้ภาพได้โปร่งโล่งอย่างโดดเด่นทีเดียว)
    
อย่างไรก็ตามที่ช่องสัญญาณภาพ Component Video กับสัญญาณ 1080i ซึ่งแม้ว่าจะไม่ให้ภาพที่ดูหมองๆ หรือผิดเพี้ยนไป แต่พลังภาพที่สามารถให้ได้อย่างยอดเยี่ยมของ IN82 ก็ยังไม่สามารถช่วยให้ Z7000 หายจากลักษณะภาพที่ทึมอยู่นิดๆ ได้ รวมทั้งความโปร่งทะลุและการเคลื่อนไหวของวัตถุในภาพก็ดูจะถูกลดทอนลงไปบ้าง (720p ไม่ค่อยเป็น)
    
สำหรับ Flesh Tone หรือสีผิวของตัวละครในภาพยนตร์ก็ออกมาค่อนข้างดี
    
ช่อง HDMI มีเฉพาะรายละเอียดภาพ 720 50HZ กับ 1080i 50Hz เท่านั้น
    
เช่นเดียวกันกับ GK-9900 เครื่องนี้จะให้ภาพในโหมด Letter Box ที่มีรายละเอียดดี เส้นขอบวัตถุภาพในแนวเฉียงจะไม่ค่อยแตกหรือหยักเป็นลอนๆ อย่างที่จะเกิดกับเครื่องโดยส่วนใหญ่ แต่พลังภาพ, ความคมและความใสของภาพจะลดหย่อนลงมาบ้าง
    
Picture Cropping พบว่าทางด้านขวาของภาพจะถูกตัดออกไปประมาณ 2 Pixels ส่วนด้านที่เหลือจะพอดีๆ
    
ทางด้านเสียง, คุณภาพเสียงทางด้านเซอร์ราวนด์, ระบบเสียง Dolby Digital จะให้ขนาดเวทีเสียงพอประมาณ จะไม่ใหญ่มาก ขนาดของอิมเมจต่างๆ ก็เช่นกัน ระยะห่างระหว่างด้านหน้าสุดของเวทีกับด้านหลังที่ลึกลงไปจะไม่ห่างมาก แต่ก็สามารถแยกแยะพิกัดหน้าหลังได้อย่างชัดเจนไม่แพ้เครื่องที่อยู่ในระดับราคาสูงกว่ามากนัก การแพนเสียงเชื่อมโยงระหว่างแชนแนลต่างๆ ทำได้ในระดับกลางๆ มีแอมเบี๊ยนซ์ที่ก้องสะท้อนออกมาให้ได้ยินพร้อมด้วยไดนามิกของเสียงที่พอสมควรแก่ระดับราคา
    
อย่างไรก็ตามทางด้านบรรยากาศของเสียง (ต้องประกอบไปด้วยฮาร์โมนิกของเสียงในย่านเสียงต่างๆ ซึ่งที่มักจะจางๆ ไปมากคือฮาร์โมนิกคู่ และที่มักจะมากเกินไปคือฮาร์โมนิกคี่ ที่จะมีผลอย่างสำคัญต่อน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติหรือ Timbre ที่ถูกต้อง และที่มักจะเป็นปัญหาคือฮาร์โมนิกคู่ในย่านเสียงต่ำๆ หรือตั้งแต่ช่วงเสียงกลางด้านต่ำลงไป) สำหรับเครื่องนี้ก็จะมีให้สัมผัสได้พอสมควร ไม่ถึงกับจะขาดหายไปเสียทีเดียว เพียงแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยบรรยากาศเสียงโดยรวมให้ออกมาเต็มที่แบบเปิดเผยโปร่งหรือกระจ่างๆ เสียงกลางด้านสูงก็จะเด่นขึ้นมาบ้าง พวกเสียงกระทบกันเสียงแหลมๆ ก็จะเด่นขึ้นมานิดหน่อย รวมทั้งเสียงกลางด้านต่ำและเบสที่จะไม่ค่อยแสดงออกมามากนัก
    
ระบบเสียง DTS (ออกทางช่องดิจิตอล Coaxial เท่านั้น) น้ำเสียงจะออกไปทางหนักแน่น โดยเฉพาะความแน่นของเสียงนั้นจะไม่ค่อยเสียเปรียบเครื่องที่ราคาสูงกว่า แต่ทางด้านความอิ่มของน้ำเสียง, แม้จะเหนือกว่าระบบเสียง Dolby Digital ที่มันให้ออกมาแต่ก็ยังไม่ถือว่าโดดเด่นมาก รวมทั้งทางด้านไดนามิกและขนาดของเวทีเสียง
    
เมื่อพูดถึงเรื่องเวทีเสียง, สำหรับเครื่องนี้พิกัดทางด้านสูงดูจะโดดเด่นกว่าด้านอื่นๆ ทั้งหมด
    
เสียงจากการเล่นแผ่น CD ปริมาณเสียงออกจะแผ่วเบาไปบ้างและน้ำเสียงดูจะเรียบๆ ไม่ค่อยพุ่งเปิดหรือกระแทกกระทั้นเท่าที่ควร ซึ่งก็คล้ายๆ เครื่องเล่นดีวีดีเครื่องอื่นๆ โดยส่วนใหญ่ จึงเหมาะสำหรับฟังเพลงแบบ Background Music มากกว่าที่จะตั้งใจฟังเพลงกันอย่างจริงๆ จังๆ แม้ว่ามันยังคงสามารถแยกแยะแจกแจงตำแหน่งชิ้นดนตรีให้อยู่เป็นที่เป็นทางได้ แต่จะไม่ถึงขนาดแยกย่อยแบ่งกลุ่มเครื่องดนตรีอย่างมีช่องว่างช่องไฟที่ชัดเจนให้เห็นเป็นภาพเปิดโปร่งขึ้นมา อย่างที่เครื่องประเภทเดียวกันในชั้นระดับกลางๆ ขึ้นไปพอจะทำหน้าที่ได้บ้าง
    
ทางด้านความละเอียดอ่อนของน้ำเสียงเมื่อพิจารณาจากเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ก็ดูจะลดหย่อนลงไปพอสมควร โดยเรฟเฟอร์เรนซ์จาก SR8002 ที่จัดเซ็ต  Absolute Phase และ Phase ไฟ AC จนได้ความถูกต้องสมบูรณ์ทั้งหมด และ Totem Model One ที่เป็นยิ่งกว่าสุดยอดลำโพงวางขาตั้ง ตลอดจนการเซ็ตอัพที่ผมเองจะพิถีพิถันให้ในระดับเดียวกันกับการทดสอบเครื่องในระดับไฮเอ็นด์ ซึ่งเคล็ดลับอยู่ที่, จะจัดวางลำโพงแบบหันหน้าตรงไม่โท-อิน เพื่อบรรยากาศเสียงบริเวณด้านหน้าเวทีเสียงทั้งระหว่างลำโพงทั้งคู่และด้านข้างที่จะสามารถแสดงออกมาได้อย่างเต็มที่สุดๆ (ถ้าหากเจอลำโพงที่มีข้อจำกัดอยู่ก็จะโท-อินนิดๆ อย่างเสียไม่ได้) และสมดุลกับบริเวณกลางๆ เวทีและด้านหลัง รวมทั้งขนาดของอิมเมจที่มีความสมดุลเท่าเทียมกัน รวมทั้งรูปแบบเวทีเสียงที่จะแผ่ออกไปอย่างสมดุลกันทั้งชั้นด้านหน้า แถวกลางๆ และด้านหลัง รวมทั้งในทางพิกัดเชิงชั้นระยะห่างระหว่างชั้นแถวหน้า แถวกลางและแถวหลัง 
    
ทางด้านสมดุลเสียงของเครื่องนี้ก็ออกจะเรียบๆ ไม่ค่อยเน้นหนักในย่านเสียงใดๆ (เบสและเสียงกลางด้านต่ำออกไปทางแผ่วนิดๆ) แบนด์ความถี่จะไม่ขยายไปสูงหรือลงต่ำมาก
  
วิเคราะห์
ทางด้านภาพ, ค่าจากโรงงานหรือ Default จะเซ็ตระบบภาพ (TV Type) ไว้ที่ PAL ก็ปรับเปลี่ยนเป็น Auto เพื่อสามารถจะใช้งานได้กับแผ่นภาพทั้งสองระบบ (NTSC และ PAL)  แต่การจะเซ็ตค่าดังกล่าวได้ต้องไปกระทำที่หัวข้อ HDMI Setup เสียก่อน โดยปรับให้เป็น Off (ถ้า On ไว้เครื่องจะปรับให้เป็นระบบ PAL สถานเดียว)
    
อย่างไรก็ตาม, การเลือกระบบภาพนี้, จะไม่สามารถกระทำเพื่อช่อง HDMI เพราะเมื่อปรับให้มีภาพออกทางช่อง HDMI (โดยปรับให้ HDMI Setup เป็น ON) ระบบภาพก็จะเปลี่ยนเป็น PAL โดยอัตโนมัติ และที่ช่อง HDMI นี้จะมีให้เลือกรายละเอียดภาพได้ระหว่าง 720p 50Hz กับ 1080i 50Hz เท่านั้น (จ่ายเฉพาะสัญญาณที่  50Hz) ไม่มี 480i, 576i หรือ 480p, 576p
    
สำหรับช่อง Component Video เมื่อปรับ TV Type เป็น Auto แล้ว ก็สามารถใช้กับแผ่นระบบ NTSC หรือ PAL ได้ตามปกติ และช่อง Component Video ก็สามารถเลือกรายละเอียดภาพที่จะ Scale ได้ (ที่ HD Mode ระหว่าง 720p หรือ 1080i แต่จะเป็นที่ 50Hz หรือ 60Hz ก็จะขึ้นอยู่กับแผ่น-ในกรณีที่เราตั้ง TV Type ไว้ที่ Auto-แต่จะต้องเป็นแผ่นที่ไม่มีโปรเทคชั่นเท่านั้น)
    
นอกจากนั้นค่าจากโรงงานจะเซ็ต TV Display เป็น 4 : 3 Pan&Scan (เอาไว้สำหรับดูภาพอัตราส่วน 16 : 9 ที่ถูกต้องบนจอภาพอัตราส่วน 4 : 3 ที่ไม่มีฟังก์ชันปรับหน้าจอให้เป็นอัตราส่วน 16 : 9 โดยเครื่องจะลดทอนรายละเอียดภาพลงไปบางส่วน) เมื่อต้องการนำมาดูภาพบนจออัตราส่วน 16 : 9 (หรือจออัตราส่วน 4 : 3 ที่มีฟังก์ชันปรับจอภาพให้เป็นอัตราส่วน 16 : 9 ได้) ก็ให้ปรับตั้ง TV Display ไปที่ Wide
   
 ทางด้านระบบเสียง, ที่ SPDIF Page ตรงหัวข้อ SPDIF จาก PCM ก็ให้เปลี่ยนเป็น SPDIF/RAW เพื่อการใช้งานระบบเสียงเซอร์ราวนด์
    
ที่ Dynamic ตรง Digital Audio Setup Page ให้ปรับเป็น Off เพื่อให้สามารถถ่ายทอดไดนามิกเสียงได้เต็มที่ และที่ Analog Audio Setup ตรง D.R.C. จาก Auto ให้ปรับเป็น Off เพื่อให้สามารถฟังเพลงจากแผ่น CD ได้ไดนามิกเต็มที่เช่นกัน และอย่าลืมปรับลด Contrast ของเครื่องนี้ลงจาก 0 ให้เป็น -3 เป็นอย่างน้อย       
 
ตัดสิน
นับเป็นเครื่องเล่นดีวีดีที่น่าสนใจเครื่องหนึ่งในปัจจุบัน แม้ว่าจะไม่ใช่เครื่องที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนอง Performance ทางด้านภาพหรือทางด้านเสียงที่โดดเด่นหรืออะไรทำนองนั้น แต่ด้วยความสวยงามของรูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และความเข้ากันได้อย่างเหมาะสมลงตัวกับจอภาพ Plasma TV หรือ LCD TV รุ่นใหม่ล่าสุดของคุณอย่างที่ไม่อาจจะหาเครื่องอื่นๆ มาทดแทนได้ง่ายๆ ด้วยโทนสีตัวเครื่องในเฉดเดียวกัน มีความแบนบางคล้ายๆ กัน และสีของไฟที่ใช้สีน้ำเงินในแบบเดียวกันด้วย
    
นอกจากนั้น, มันยังมี Video Up-Scaling ในตัว (ซึ่งก็มีคุณภาพที่ดีสมราคา) พร้อมช่องต่อ USB และ SD/MS/MMC และช่องเสียบไมค์อีก 2 ช่อง จึงมีความคุ้มค่ามากๆ เครื่องหนึ่งถ้าคุณจะเรียกหาไว้ใช้
 
....................................................
 
 
ตัวแทนจำหน่าย : บริษัท บี.เค.สยามอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
โทร.0-2891-1111
ราคา : 3,990 บาท