รีวิว Nokia 7373

รีวิว Nokia 7373

รีวิว Nokia 7373
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หลังจากต้นปี Nokia ได้เปิดตัว Fashion Phone ในชื่อของ LAmour Collection ประกอบด้วย Nokia 7360, 7370 และ 7380 ด้วยดีไซน์ที่แตกต่างและงานประณีตศิลป์ และล่าสุดได้ตอกย้ำความสำเร็จโดยเปิดตัว LAmour Collection II ซึ่งใช้การผสมผสานเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ากับงานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ศิลปะยุคโบราณ และการสื่อสารยุคใหม่อีก 3 รุ่นคือ รุ่น 7390, 7373 และ 7360 โดยรุ่นที่นำมาทดสอบฉบับนี้คือรุ่น 7373 รูปทรงของ Nokia 7373 เป็นแบบหมุนได้ 180 องศา (Swivel) ดีไซน์ลวดลายแบบชนเผ่าที่เพิ่มความหรูหราให้มากขึ้นนับได้ว่าเป็นการตีความการดีไซน์แบบยุคใหม่ ซึ่งมีการผสมผสานรูปทรงและการตกแต่งเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน จึงให้รูปลักษณ์ที่ดูประณีต มีรายละเอียดที่น่าสนใจ แต่งเติมด้วยการพิมพ์แบบดุนนูนที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมอันงดงาม มีให้เลือก 3 สีคือ สีดำบรอนซ์ ชมพูมุก และโครเมี่ยมรมดำ ส่วนรูปลักษณ์ทั่วไปเริ่มจากด้านหน้านเครื่องจะเห็นหน้าจอสีแบบ TFT LCD 262,144 สี ความละเอียด 320x240 พิกเซล พลิกดูด้านหลังเครื่องจะเห็นเลนส์ของกล้องดิจิทัลอยู่ด้านขวามือ ถัดลงมามีโลโก้ตัวอักษร Nokia 2 Megapixel พร้องกระจกเงาอยู่บนแถบเหล็ก ส่วนด้านบนเครื่องมีช่องเสียบสายชาร์จไฟ และช่องเสียบสายดาต้าลิงค์กับชุดหูฟังแบบ Pop Port และที่ด้านข้างเครื่อง เริ่มจากด้านขวามีปุ่มสำหรับปรับเพิ่มลดระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายมีปุ่มใช้งานกล้องดิจิทัล กับปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ทดลองใช้งาน การใส่ SIM CARD ในการใส่ SIM Card เข้าไปในเครื่อง Nokia 7373 เริ่มด้วยการถอดฝาหลังออกมาก่อน โดยใช้มือจับตัวเครื่องไว้แล้วพลิกเครื่องมาด้านหลังให้อยู่ในแนวนอน จากนั้นใช้นิ้วโป้งกดลงบริเวณร่องตรงกลางของฝาหลังแล้วดันเลื่อนลงมาด้านล่างของเครื่องเพื่อปลดล็อคและยกออกก็จะเห็นแบตเตอรี่ วิธีการถอดแบตเตอรี่นั้นให้ใช้นิ้วงัดที่บริเวณช่องด้านท้ายของแบตเตอรี่ขึ้นมาแล้วหยิบออกจากเครื่อง มาถึงการใส่ SIM Card กันบ้าง สำหรับช่องใส่ SIM Card นั้นเป็นแบบบานพับอยู่บริเวณตรงกลางของช่อง ให้เปิดบานพับขึ้นมาก่อน จากนั้นนำ SIM Card ใส่เข้าไปในบานพับให้ด้านหัวตัดอยู่ด้านนอกแล้วทำการปิดบานพับลงไปเพื่อล็อคตัว SIM Card ให้สนิท หลังจากนั้นให้นำแบตเตอรี่และฝาหลังใส่กลับเข้าไปตามเดิม แล้วทำการเปิดเครื่องก็ใช้งานได้ การเปิด-ปิดเครื่อง ตำแหน่งปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง Nokia 7373 อยู่ที่บริเวณด้านขวาข้างเครื่อง โดยเป็นปุ่มวงกลมเล็กๆ ให้กดปุ่มนี้ค้างไว้ประมาณ 1-2 วินาที เครื่องก็จะติดขึ้นมาพร้อมภาพไอคอนแบตเตอรี่ขึ้นตรงหัวมุมบนซ้าย ตามด้วยภาพโลโก้ Nokia มือประสานกันและเสียงโพลีโฟนิกประกอบ จากนั้นเครื่องก็จำทำการค้นหาสัญญาณเครือข่ายก่อนเข้าสู่หน้าจอหลักพร้อมใช้งานต่อไป รูปแบบการแสดงผลของหน้าจอเป็นแบบ Series 40 ที่สามารถเลือกตั้งค่าให้เป็นแบบ Active Standby ซึ่งเป็นหน้าจอหลักที่พร้อมจะใช้งานคำสั่งได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยแสดง Shortcut หรือเมนูที่ใช้งานบ่อยๆ อยู่แถวบน ถัดลงมาเป็นชื่อเพลง MP3 หากเล่นอยู่ พร้อมชื่อคลื่นวิทยุ ถ้ากำลังเปิดฟัง และมีตารางนัดหมายกับลงบันทึกสั้นๆ ไว้เตือนนัดหมาย ทั้งนี้เราสามารถจั้งค่ากลับให้เป็นหน้าจอปกติได้โดยเข้าไปที่เมนู Settings>Main Display>Active standby>Active standby mode>off ปุ่มกดและความเหมาะมือ ปุ่มกดใช้งานหลักของเครื่องรุ่นนี้จะซ่อนอยู่ใต้หน้าจอ โดยหมุนหน้าจอขึ้นมาก่อน ประกอบไปด้วยปุ่ม Navigator Key แบบ 5 ทิศทาง, ปุ่ม Soft Key ซ้ายขวา, ปุ่มโทรออก/รับสาย, ปุ่มวางสาย และแผงปุ่มกดตัวเลข นอกจากนี้ยังมีปุ่มที่อยู่ด้านข้างเครื่องอีก 3 ปุ่ม ด้านซ้ายมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียงและใช้เป็นปุ่มปรับซูมขยายภาพเมื่อใช้งานกล้องดิจิทัล ส่วนด้านขวามีปุ่มเปิดปิดเครื่อง และปุ่มใช้งานกล้องดิจิทัล สำหรับปุ่มกดต่างๆ นั้นใช้วัสดุที่จากพลาสติกสีดำ โดยมีขนาดที่ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป และจัดวางเรียงชิดติดกัน แต่ไม่เป็นปัญหาในการกดใช้งานอย่างใด เมื่ออยู่ในที่มืดแสงสีขาวก็จะส่องขึ้นมาผ่านปุ่มกดทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน ด้านความเหมาะมือนั้นเมื่อลองถือแล้วก็รู้สึกกระชับมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะมือของผู้หญิงที่สามารถจับได้อย่างสบาย และมั่นคง เมนูการใช้งาน วิธีการเข้าสู่เมนูใช้งานของเครื่อง Nokia 7373 ทำได้โดยกดที่ปุ่มตรงกลางของปุ่ม Navigator Key เมื่อกดลงไปแล้วก็จะเข้าสู่เมนูหลักต่างๆ ซึ่งสามารถเลือกการแสดงผลได้ 4 แบบคือ List, Grid, Grid with labels และ Tab โดยกดเลือก Option>Main menu view สำหรับเมนูหลักมีทั้งหมด 9 เมนูดังนี้ Messaging เมนูสำหรับรับ-ส่งข้อความ รองรับการส่งข้อความในรูปแบบ SMS, MMS, Multimedia Plus, Flash Message และ Audio Message Contacts หรือสมุดโทรศัพท์ ประกอบด้วย รายชื่อในโทรศัพท์ ซิงโครไนซ์ทั้งหมด การตั้งค่า ตั้งกลุ่มการโทร โทรด่วน เบอร์ส่วนตัว ลบรายชื่อทั้งหมด ย้ายรายชื่อ และคัดลอกรายชื่อ Log เมนูบันทึกข้อมูลการใช้งานโทรต่างๆ ได้แก่ บันทึกการโทร เบอร์ที่ไม่ได้รับสาย เบอร์ที่ได้รับสาย เบอร์ที่โทรออก เวลาการโทร รวมทั้งสามารถเช็คการใช้งาน GPRS และมีตัวนับจำนวนข้อความ SMS Settings เมนูสำหรับตั้งค่าการใช้งานของเครื่องประกอบด้วย รูปแบบ ลักษณะ แบบเสียง จอแสดงผลหลัก จอเล็ก วันและเวลา ทางลัดส่วนตัว การเชื่อมต่อ โทรออก โทรศัพท์ อุปกรณ์เพิ่มพิเศษ การตั้งกำหนดค่า ความปลอดภัย และเรียกคืนตั้งค่าดั้งเดิม Gallery เป็นเมนูที่เก็บบันทึกข้อมูลต่างๆ ได้แก่ รูปถ่าย วิดีโอคลิป ไฟล์เพลง ธีม ภาพต่างๆ โทนเสียง เสียงที่บันทึก และไฟล์ต่างๆที่ได้รับ Media เมนูใช้งานมัลติมีเดียประกอบด้วย กล้องดิจิทัล เครื่องเล่นวิดีโอ เครื่องเล่นสื่อ เครื่องเล่นเพลง วิทยุ เครื่องบันทึก และอีควอไลเซอร์ Push To Talk เมนูใช้งาน Push To Talk ใช้งานเหมือน Walkie Talkie ผ่านเครือข่าย GPRS Organiser เมนูออร์แกไนเซอร์ ได้แก่ นาฬิกาปลุก ปฏิทิน สิ่งที่ต้องทำ บันทึก เครื่องคิดเลข ตัวนับถอยหลัง และนาฬิกาจับเวลา Appications เป็นเมนูที่เก็บรวบรวมเกม และแอบพลิเคชันต่างๆ ซึ่งเกมในเครื่องมี 3 เกมคือ Music Guess, Snake III และ Rally 3D ส่วนแอบพลิชันหรือแหล่งรวบรวมข้อมูลมี 4 แอบพลิเคชัน Web เป็นเมนูที่ใช้สำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วย WAP Browser คุณสมบัติการใช้งาน ด้านการโทร เริ่มต้นที่ Contacts หรือสมุดโทรศัพท์ นอกจากใส่ชื่อ นามสกุลและเบอร์โทรแล้วยังสามารถเพิ่มรายละเอียดต่างๆ ได้แก่ หมายเลข, PTT address, E-mail address, วิดีโอ, โทนเสียง, ที่อยู่เว็บ, บริษัท, ตำแหน่งงาน, Format name, ชื่อเล่น, รหัสไปรษณีย์, ID ผู้ใช้, วันเกิด, บันทึก และ Picture CLI นอกจากนี้ยังมีรายชื่อติดต่อแบบ Presence-enhanced สำหรับตรวจสอบสถานะของเพื่อนคุณก่อนที่จะติดต่อ รวมทั้งสามารถตั้งกลุ่มการโทร เบอร์โทรด่วน และดูเบอร์ส่วนตัวได้ สำหรับการเรียกดูประวัติการใช้งานโทรต่างๆ นั้นอยู่ในเมนู Log ซึ่งเครื่องจะทำการเก็บบันทึกข้อมูลการโทรทั้งหมด ทั้งเบอร์ที่ไม่ได้รับสาย เบอร์ที่ได้รับสาย และเบอร์ที่โทรออก รวมทั้งสามารถเช็คข้อความที่มีคนส่งเข้ามา เช็คดูเวลาที่ใช้งานล่าสุด เวลาที่โทรเข้า เวลาที่โทรออก และเวลาโทรรวม นอกจากนี้ยังมีตัวนับจำนวนข้อความ SMS กับ MMS ที่ส่งไปกับที่ได้รับเข้ามา พร้อมกับตัวนับจำนวนข้อมูลที่ใช้งาน GPRS ด้านการรับ-ส่งข้อความ การรับส่งข้อความรองรับการส่งข้อความในรูปแบบของ SMS, MMS, Multimedia Plus หรือรวมมัลติมีเดีย, Postcard ข้อความแบบโปสการ์ด, Flash Message หรือข้อความด่วน และ Audio Message หรือข้อความคลิปเสียง พร้อมทั้งรองรับ Email ในรูปแบบของ SMTP, POP3 และ IMAP4 พร้อมทั้งยังมี Instant Message หรือสนทนาแบบ Chat, ข้อความเสียง, ข้อความข้อมูล และคำสั่งขอใช้บริการให้เลือกใช้งานอีกด้วย ด้านมัลติมีเดีย ด้านคุณสมบัติด้านมัลติมีเดียเริ่มที่กล้องดิจิทัลความละเอียด 2.0 ล้านพิกเซล ถ่ายได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ โดยภาพนิ่งเลือกขนาดของภาพได้สูงสุด 1600 x 1200 พิกเซล ซูมดิจิทัล 20 เท่า แสดงภาพถ่ายในโหมดแนวนอน (Landscape) มี Night Mode ตั้งเวลาในการถ่าย ถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง ใส่เอฟเฟค และปรับสมดุลสีขาว ส่วนวิดีโอนั้นถ่ายพร้อมเสียงในรูปแบบไฟล์ 3GP โดยบันทึกได้นานสูงสุดตามหน่วยความจำที่มีอยู่ในเครื่อง และเลือกขนาดภาพได้สูงสุด 176x144 พิกเซล พร้อมตั้งค่าใส่เอฟเฟค และปรับสมดุลสีขาวได้ ส่วนคุณสมบัติด้านมัลติมีเดียอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มี โปรแกรม Media Player สำหรับดูภาพที่ถ่ายจากกล้องดิจิทัล เล่นไฟล์วิดีโอคลิปในรูปแบบ 3GPP และ H.263 video เล่นไฟล์เพลง ดูธีม ภาพกราฟิก เสียงเรียกเข้า เสียงที่บันทึก และไฟล์ที่ได้รับ โปรแกรม Music Player สำหรับเล่นเพลงรองรับไฟล์ประเภท MP3, AAC, M4A, eAAC+, AAC+ และ WMA ด้วยระบบเล่นเพลงซ้ำ เพลงแบบสุ่ม พร้อมระบบปรับอีควอไลเซอร์ 7 แบบ สามารถเล่นผ่าน Bluetooth ใช้เป็นแบบเสียงต่างๆ ส่งต่อ และดาวน์โหลดเพลงมาฟังได้ และฟังก์ชัน Radio พร้อมรองรับเทคโนโลยี Visual Radio สำหรับฟังวิทยุ FM Stereo ซึ่งต้องเสียบชุดหูฟังก่อนจึงจะรับฟังได้ ด้านการเชื่อมต่อ ในส่วนของการเชื่อมต่อประกอบด้วย การใช้งานอินเทอร์เน็ตทำได้ด้วย WAP Browser 2.0 ผ่านเครือข่ายความเร็วสูง GPRS Class 10 และ EDGE พร้อมเบราเซอร์ xHTML/HTML เพื่อรองรับการแสดงผลแบบเว็บเพจได้ นอกจากนี้ยังรองรับ Java Application ทำให้ดาวน์โหลดเกมหรือแอบพลิเคชันต่างๆ มาใช้งานได้ สำหรับหน่วยความจำในเครื่องมี 5 MB สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ MicroSD ได้สูงสุด 2 GB ส่วนการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นเพื่อรับส่งข้อมูลและไฟล์ต่างๆ ทำได้ครบถ้วนทั้งผ่านทางสายดาต้าลิงค์แบบ Pop Port กับผ่านทางไร้สายอย่าง Bluetooth ที่รองรับ A2DP Profile สำหรับเชื่อมต่อกับชุดหูฟัง Bluetooth Stereo Headset นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายโอนข้อมูลหรือซิงโครไนส์กับเซิร์ฟเวอร์และเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านโปรแกรม PC Suite และสั่งพิมพ์ภาพด้วยโปรแกรม PictBridge ได้ เชิงเทคนิค การทดสอบฟังก์ชันพิเศษในเครื่อง การทดสอบฟังก์ชันพิเศษในเครื่อง Nokia 7373 ได้ทำการทดสอบถ่ายภาพจากกล้องดิจิทัลความละเอียด 2.0 ล้านพิกเซล เริ่มจากการถ่ายภาพนิ่งในโหมดปกติ เลือกคุณภาพของภาพที่ระดับ High และเลือกขนาดของภาพสูงสุด 1600x1200 พิกเซล โดยถ่ายในระยะใกล้ที่สุดในการ Focus กับวัตถุที่ถ่ายประมาณ 0.8 เมตร ผลปรากฏว่าภาพที่ถ่ายมามีความชัดเจนดีมาก ส่วนการถ่ายภาพทั่วไปโดยรวมแล้วภาพที่ถ่ายมาอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ส่วนการถ่ายวิดีโอนั้น ได้ทำการทดสอบโดยเลือกขนาดของภาพสูงสุด 176x144 พิกเซล และตั้งค่าคุณภาพของภาพสูงสุดคือ High ผลจากการทดสอบปรากฏว่าความสามารถในการบันทึกวิดีโออยู่ในระดับดี ระยะเวลาในการเปิดเครื่อง Nokia 7373 ใช้แบตเตอรี่รุ่น BL-4B ตามข้อมูลระบุไว้ว่าสามารถคุยต่อเนื่องได้นานสูงสุด 2-2.5 ชั่วโมง เปิดเครื่องรอรับสาบได้นานถึง 250 ชั่วโมง จากการใช้งานจริง โดยเปิดเครื่องตลอด 24 ชั่วโมง ใช้สายสนทนาแบบไม่ต่อเนื่องวันละครึ่งชั่วโมง ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ฟังเพลงวันละประมาณ 1 ชั่วโมง ปรากฏว่าอยู่ได้ประมาณ 1-2 วัน การจัดการพลังงานอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอใช้ครับ ส่วนการชาร์จใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง อุปกรณ์เสริม ชุดอุปกรณ์ในกล่องของเครื่อง Nokia 7373 นั้นประกอบด้วยตัวเครื่อง, แบตเตอรี่รุ่น BL-4B จำนวน 1 ก้อน, อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ขนาดเล็ก AC-3U, ชุดอุปกรณ์ Headset ระบบเสตอริโอ HS-31, การ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card ขนาด 128 MB, ซองผ้าเข้าชุดกับโทรศัพท์, สายคล้องข้อมือเข้าชุดกับโทรศัพท์, แผ่นซีดีรอมพร้อมซอฟต์แวร์ PC Suite และสุดท้ายก็คือคู่มือการใช้งาน โดยรวมแล้วรูปทรงของ Nokia 7373 เหมือนกับรุ่น Nokia 7370 ที่ออกมาก่อนหน้านี้ จะแตกต่างก็ตรงลวดลายและสีสันของตัวเครื่อง ซึ่งใช้ลวดลายแบบชนเผ่าที่เพิ่มความหรูหราให้มากขึ้น รวมถึงการปรับเพิ่มฟังก์ชันใหม่ขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นกล้องดิจิทัลความละเอียด 2.0 Megapixel และสามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ MicroSD ได้ ในราคาที่ใกล้เคียงกันก็ดูน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว >> คลิ๊กดูคุณสมบัติของ Nokia 7373

สนับสนุนเนื้อหาโดย

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ รีวิว Nokia 7373

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook