ความรู้สึกแรกเมื่อผมได้ลอง Samsung Omnia 2 ตัวจริง

วันนี้ผมขอมาเล่าแชร์ประสบการณ์ความรู้สึกหลังจากที่ได้สัมผัสเครื่อง Samsung Omnia 2 ตัวใหม่ล่าสุดให้ฟังกันครับ ผมเองเพิ่งได้เครื่องมาไม่นานนี้ ซึ่งจากความรู้สึกแรกก่อนที่จะได้เครื่องมาอยู่ในมือ ผมคิดว่ามันก็ไม่น่าจะมีอะไรที่ด฿งดูดมากนัก เพราะลูกเล่นเด่นๆมันถูกยัดไปใน Omnia รุ่นแรกเสียเกือบหมดแล้ว เครื่อง Samsung Omnia 2 คงไม่น่าจะมีอะไรแปลกใหม่น่าดึงดูดเท่าเครื่องรุ่นแรกแน่ๆ ซึ่งมันก็ใช่ครับแต่ไม่ใช่ทั้งหมด สำหรับข้อมูลคร่าวๆของ Samsung Omnia 2 ก็มีดังนี้ครับ Samsung Omnia 2 จะยังคงใช้ระบบปฎิบัติการ Windows Mobile 6.1 Professional ซึ่งก็คงจะให้อัพเกรดเครื่องเป็น Windows Mobile 6.5 ในภายหลัง โดยเครื่อง Omnia II นั้นจัดว่าเป็นเครื่องที่มีหน้าจอแบบ AMOLED ที่ใหญ่ที่สุดในเวลานี้โดยมีขนาดหน้าจอถึง 3.7นิ้วด้วยการแสดงผลในแบบ WVGA resolution มาพร้อมกับอินเตอร์เฟส ที่ครอบลงบน Windows Mobile แบบ TouchWiz 2.0 User Interface และ 3D effects ระบบหน้าจอสัมผัสรุ่นนี้มีการพัฒนามากขึ้นเป็นแบบ Advanced R Touch (Resistive Touch) ซึ่งจะช่วยให้การสัมผัสแบบใช้นิ้วบนหน้าจอเครื่องในแบบ Windows Mobile ทำงานได้แม่นยำขึ้น และเร็วขึ้น สำหรับเรื่องมัลติมิเดียใน Omnia II นั้นจะใช้ DVD (480p) video recording/playback การเชื่อมต่อแบบ Omnia II’s HSUPA 5.76Mbps, HSDPA 7.2Mbps and Wi-Fi capabilities. หน่วยความจำ 2GB to 16GB internal storage มีกล้อง 5 ล้านพิกเซลพร้อม Auto Focus และ Flash สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจแรกเจอครั้งแรกับ Samsung Omnia 2 กลับไม่ใช่เรื่องของการออกแบบตัวเครื่องที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องหยุดตะลึงกับความงามกลับกลายเป็นเรื่องของหน้าจอ WVGA แบบ AMOLED ซึ่งมีความสดใสและคมกริบมากครับ สว่างชัดเจนจนสังเกตได้ ดูแล้วอย่างกับนั่งจ้อง TV LCD แบบนั้นเลยครับ แต่เรื่องของความคมชัดหน้าจอ จริงๆยังหาได้ในเครื่องรุ่นอื่นๆ แต่สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจและชอบใจกับเครื่อง Samsung Omnia 2 รุ่นนี้มากที่สุดก็คือเรื่อง หน้าจอสัมผัสแบบ Resistive Touch หากใครได้อ่านบทความที่ผมเล่าเป็นประจำ ผมมักจะบ่นเรื่องเครื่อง Windows Mobile ที่ชอบทำอินเตอร์เฟสแบบ iPhone ให้ใช้นิ้วสัมผัสได้แต่ในความเป็นจริงมันไม่ Work เพราะรูปแบบการสัมผัสของหน้าจอเครื่อง Windows Mobile นั้นเน้นใช้ Stylus เป็นหลัก เอาง่ายๆ อย่างโปรแกรมพวก Contact ต่างๆ ในเครื่อง Windows Mobile แม้จะทำให้เหมือนว่าเอานิ้วรูดได้ แต่พอใช้งานจริงรูดไม่ค่อยไป จังหวะไม่ดีเท่า iPhone หรืออย่าง Omnia รุ่นแรก พอเลือก Contact เอานิ้วแตะปุ๊บไปเลย กดผิดประจำจนน่ารำคาญ แต่หน้าจอสัมผัสของ Samsung Omnia 2 รุ่นนี้บอกได้เลยว่าเหมือนกับความรู้สึกใช้ iPhone เปี๊ยบครับ ลองสังเกตง่ายๆ เครื่องที่เป็น Windows Mobile พอเรียก Keyboard เพื่อป้อนข้อมูลบนหน้าจอขึ้นมา พอเอานิ้วแตะปุ๊บมันพิมพ์เลย แต่ถ้าเป็น iPhone เราจะสามารถแตะค้างไว้แล้วรูดนิ้วไปยังตัวอักษรอื่นได้ เครื่องจะทำการ input ก็ตอนที่เราปล่อยนิ้วออกจากหน้าจอ มันเลยทำให้การสัมผัสมันใช้งานแบบใช้นิ้วได้สมบูรณ์กว่าเครื่อง Windows Mobile ทั่วไปที่พยายามทำอินเตอร์เฟสแบบใช้นิ้วควบคุม อินเตอร์เฟสของ Samsung Omnia 2 รุ่นนี้หากเปิดเครื่องมาแทบจะไม่เหลือความเป็น Windows Mobile อยุ่เลยครับ เพราะ Samsung ใช้อินเตอร์เฟสที่ตนเองพัฒนาขึ้นมาครอบไว้เกือบหมด อินเตอร์เฟสของ Samsung ก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจดีครับ คุณภาพกล้อง 5 ล้านพิกเซล เท่าที่ทดสอบลองถ่ายเล่นๆดู ไม่แตกต่างจากในรุ่นก่อนหน้าเท่าไรนัก ที่สำคัญและหลายๆคนชอบก็คือ รูหูฟังแบบ 3.5 mm ที่เป็นมาตราฐานสำหรับการมใช้งานร่วมกับหูฟังดีๆทั่วไปได้อย่างสะดวกมากขึ้น ส่วนช่องการเชื่อมต่อเป็น ช่องแบบ USB บางๆที่แตกต่างจาก mini USB ผมเองก็เรียกไม่ถูกไว้จะมาบอกเล่ากันต่อภายหลังดีกว่า ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบากว่าเครื่องรุ่นแรกนิดหน่อยตามความรู้สึกผม ขนาดเครื่องใหญ่ขึ้นนิดเดียวแทบไม่ค่อยรู้สึก แต่หน้าจอใหญ่กว่าเดิมครับ ลองเทียบกับขนาดทั้งสามเครื่อง ขนาดไม่หนีกันมากเท่าไร ผมลองทดสอบดูหน้าจอ AMOLED ที่เค้าว่ากันว่าดูกลางแจ้งให้คุณภาพที่ไม่ค่อยดี ซึ่งจากการทดสอบมันก็ไม่ค่อยดีจริงๆด้วย ดูแทบมองไม่เห็นเลยครับ หากลองไปยืนกลางแจ้งแล้วหยิบเครื่องออมาดู แทบจะมองอะไรไม่ค่อยเห็น ซึ่งมันเป็นข้อเสียของหน้าจอแบบนี้ แต่ข้อดีก็คือดูในที่ร่มจะชัดเจนมาก และหน้าจอมีความยืดหยุ่นสูง ตกไม่แตก แผ่นหลังเครื่องเต็มๆ สังเกตว่าเครื่องรุ่นนี้ไม่มี Stylus ให้มาเลยนะครับ ไม่มีช่องเก็บด้วย เพราะเค้าเน้นใช้นิ้วแบบเต็มๆ ด้วยหน้าจอแบบใหม่ผมว่า โอเค ลดความจำเป็น Syulus ลงไปได้เยอะ แต่หากเป็น Omnia ตัวแรกยังไงก็ขาด Stylus ไม่ได้ ถ้าไม่เห็นเมนู แทบไม่รู้เลยว่ามันเป็น Windows Mobile เพราะในภาพผมปรับปิดฟังค์ชั่น interface ของ Samsung บางตัวลงไป ไม่งั้นแทบไม่รู้เลยว่าเป็น Windows mobile เพราะมันแก้ระบบเกือบหมดแล้ว อินเตอร์เฟสทุกเมนูโดนเปลี่ยนครอบด้วยโปรแกรมของทาง Samsung เอง เท่าที่ทดสอบลองคร่าวๆผมรู้สึกชอบกับเครื่องรุ่นนี้นะครับ สิ่งที่ชอบตอนนี้มีเพียงสองเรื่องคือหน้าจอ WVGA ที่ชัดกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก และรูปแบบหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced R Touch (Resistive Touch) ที่เราสามารถใช้นิ้วควบคุมได้แม่นยำมากขึ้น แม่นเทียบเท่ากับหน้าจอ iPhone เลยครับ ซึ่งมันเป็นส่วนหลักที่ผมไม่เคยเห็นด้วยกับการใช้ Interface ที่บริษัทหลายๆเจ้าพัฒนาขึ้นมา เอามาครอบลงบน Windows mobile เพื่อให้ใช้นิ้วแทน Stylus แต่แทบทุกเจ้ากลับลืมไปว่าหน้าจอเครื่องมันไม่ได้ออกแบบการสัมผัสใช้นิ้ว เลยทำให้การใช้งานที่ผ่านมาลำบากมาก แต่พอเจอหน้าจอแบบ Advanced R Touch (Resistive Touch) พูดได้เต็มปากเลยว่า ใช่แล้วมันต้องให้ความรู้สึกแบบนี้สิ! ส่วนเรื่องอื่นๆผมยังลองไม่ทั่ว แต่เท่าที่ดูก็ไม่แตกต่างด้าน Hardware มากเท่าไรนัก ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก...