รีวิว Sony Ericsson K610i
ช่วงหลังมานี้จะว่าไปแล้วโทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบ 3G จะมีออกมาค่อนข้างเยอะ ทั้งในตลาดต่างประเทศ และบ้านเราเอง แต่ด้วยความที่ประเทศไทยเรานั้นยังไม่พร้อมที่จะรองรับกับระบบ 3G ในตอนนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็แล้วแต่ ซึ่งเราในฐานะผู้ใช้โทรศัพท์เองก็มิอาจปฏิเสธกับความน่าสนใจและทันสมัย บวกทันใจในยุค 3G นี้ไปได้อย่างแน่นอน ที่ถึงแม้ว่าตอนนี้เรายังไม่พร้อมใช้ แต่ความน่าสนใจของมือถือที่รองรับกับยุค 3G นี้ ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ ให้เราได้เป็นเจ้าของได้ไม่น้อย
ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ โทรศัพท์มือถือที่รองรับ 3G แบบ Sony Ericsson K610i เครื่องนี้ อย่างไรเสีย ก็น่าสนใจกว่ามือถือที่ไม่รองรับ 3G เป็นไหนๆ ถึงแม้จะยังใช้ไม่ได้ในตอนนี้ แต่ไม่นานเกินรอเราต้องได้ลิ้มรสกับ ยุค 3G กันอย่างแน่นอน และก็ไม่เสียหายอะไรที่เราจะมี หรือศึกษาถึงความสามารถในมือถือระบบ 3G มาไว้ใช้งานก่อนใครๆ ซึ่ง K610i ตัวที่เราจะนำมาแกะกล่องลองเครื่องวันนี้ก็น่าจะเป็นบทพิสูจน์ถึงความสามารถที่มากกว่าได้เป็นอย่างดีครับ
แกะกล่องลองเครื่อง
สัมผัสแรก ทำให้รู้สึกถึงความมีเสน่ห์ อะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ ภายใต้ดีไซน์ที่ถือว่าเป็นการออกแบบ ได้ค่อนข้างเข้าสมัยดีทีเดียว โดย การเน้นสีเทา (สำหรับเครื่องที่นำมาทดสอบ) ที่ถึงแม้ว่าอาจจะดูเรียบๆ ไปบ้าง แต่ก็ไปได้ดีกับการใช้งานที่ไม่เน้นความหวือหวาในแบบวัยรุ่นเท่าใดนัก ทั้งนี้ตัวปุ่มกด รวมถึงแผงคีย์แพ็ดนั้นทำให้กลมกลืนไปกับตัวโทรศัพท์ดีทีเดียว แต่ที่ดูแล้วรู้สึกชอบใจมากๆ ก็คือส่วนของปุ่มเมนูแบบ 5 ทิศทาง นั้นใช้งานได้ง่ายดีครับ ส่วนตัวเครื่องโดยรวมๆ แล้วถือว่ากำลังพอดีมือดีทีเดียวกับขนาด 102 x 45 x 17 มิลลิเมตร น้ำหนัก 92 กรัม ซึ่งกำลังพอดีมือเลยครับ แม้จะเอาใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงก็ไม่ดูตุงจนน่าเกลียดครับ ใช้ได้ทีเดียวสำหรับรูปทรงของ K610i เครื่องนี้
ด้านหน้า อย่างที่ได้เกริ่นไว้ครับ ว่าส่วนที่ดูจะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งก็คือ เรื่องของการออกแบบที่คงความเรียบง่าย แต่ไม่ใช่ว่าจะเชยไปซะทีเดียวกับความเรียบง่ายดังกล่าว แต่กลับตรงกันข้ามด้วยกลิ่นอายแห่งมือถือยุค 3G อย่างแท้จริงแถมใช้งานได้ดีจริงอีกด้วย (หากบ้านเรารองรับ 3G เมื่อใด รับรองว่าโดนใจสุดๆ ครับ) ตั้งแต่การติดตั้งกล้องไว้ด้านหน้า (มุมขวามือด้านบน) สำหรับการใช้งานสนทนาแบบเห็นหน้าหรือ Video Calls ในระบบ 3G ส่วนต่อมาก็จะเป็นหน้าจอที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ดีทีเดียว 176 x 220 หรือประมาณ 1.9 นิ้ว ซึ่งก็น่าจะใหญ่พอสำหรับการแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ดี โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานอินเตอร์เน็ตหรือใช้อ่านข้อความต่างๆ ตัวหนังสือจะได้ไม่เล็กจนเกินไปครับ ถัดลงมาก็จะเป็นส่วนของปุ่มควบคุม ต่างๆ ซึ่งถูกจัดวางไว้ตามหน้าที่การใช้งานอย่างครบถ้วนทีเดียวครับ
ด้านหลัง หรูหราดีกับการเล่นกับความเท่ห์เสริมเสน่ห์ด้วยตัวอักษร และโลโก้ของ Sony Ericsson แถมยังมีรูปแบบอักษร (Font) สวยๆ ที่บอกความละเอียดของกล้องว่าอยู่ในระดับ 2.0 mega pixels อีกด้วย โดยส่วนของกล้องถ่ายรูปนั้นจะมีทั้งกระจกสะท้อนเงา และลำโพงอยู่ในส่วนเดียวกันอีกด้วยครับ ส่วนฝาหลังนั้นจะเป็นฝาหลังแบบเลื่อนเปิด-ปิด ธรรมดาครับ
ด้านข้าง (ซ้ายมือ) จะมีปุ่มกดสำหรับการควบคุมและใช้งานเครื่องเล่นเพลง (Play/Pause Button) อยู่ด้านบนเป็นปุ่มสีดำที่กลืนไปกับแถบคาดด้านข้างเครื่องครับ ถัดลงมาถ้าสังเกตดีๆ จีมีการพิมพ์คำว่า M2 อยู่ที่ด้านข้างของฝาหลัง โดยจะเป็นการบอกนัยๆ ว่าด้านในนี้หากเปิดฝาหลังจะเป็นช่องสำหรับรองรับ Memory Stick Micro หรือชื่อย่อก็คือ M2 นั่นเองครับ
ด้านข้าง (ขวา) เมื่อพลิกมาด้านนี้ จะเห็นปุ่มกดแบบคู่ใช้กดขึ้น-ลง สำหรับลด-เพิ่มความดังของลำโพง หรือเป็นการเพิ่มเสียงของลำโพงหูฟังในขณะสนทนาก็ได้ด้วย และยังสามารถใช้เป็นปุ่มควบคุมการซูมภาพ ในโหมดกล้องถ่ายรูปได้อีกซะด้วย ถัดลงมาจะเป็นปุ่มชัตเตอร์ สำหรับการเข้าใช้งานกล้องแบบทันใจ และใช้เป็นปุ่มลั่นกล้องสำหรับถ่ายภาพทั้งแบบภาพนิ่ง และวิดีโอ
ด้านบน และล่าง โดยด้านบนส่วนหัวของตัวเครื่องนั้นจะมีหลอดไฟ LED อยู่บนส่วนหัวเครื่องซึ่งจะใช้กระพริบบอกสถานะทำงานโทรศัพท์ และการชาร์จแบตเตอรี่อีกด้วย ใกล้ๆกันนั้น (ทางซ้ายมือ) จะมีปุ่มเพาเวอร์สวิทช์สำหรับใช้ ปิด-เปิดเครื่อง ส่วนด้านล่างตัวเครื่องนั้นจะเป็นช่องต่อต่างๆ ที่รองรับทั้งการต่อกับสายชาร์จแบตเตอรี่, สายดาต้า และหูฟังแบบ Stereo ก็ได้ด้วยเช่นกัน
ถอดแบตเตอรี่/ใส่ซิมการ์ด ทำได้ง่าย เพียงใช้ปลายนิ้วที่ถนัดกดลงบนรอยประ ใต้เลนส์กล้องแต่เบามือพร้อมไปกับการดันฝาหลังลง ฝาหลังจะหลุดออก แล้วจะเห็นตัวแบตเตอรี่อยู่ด้านในหากจะถอดแบตเตอรี่ออกก็เพียงแค่งัดแบตเตอรี่ขึ้นเล็กน้อย ก็สามารถให้เราดึงแบตเตอรี่ออกได้โดยทันที แล้วจะเห็นช่องใส่ซิมการ์ดด้านในทันที ซึ่งเป็นช่องใส่ซิมการ์ดแบบเลื่อนพร้อมขารองรับธรรมดา ช่วยให้ถอด หรือ ใส่ซิมการ์ดได้ง่ายดีทีเดียว แถมยังไม่ก่อให้เกิดรอยขีดข่วนบนตัวซิมการ์ดได้ง่ายๆอีกด้วย กรณีที่เราถอดเข้า ถอดอกบ่อยๆ
ทดสอบการใช้งาน
เริ่มการใช้งาน โดยการกดไปที่ปุ่มเพาเวอร์สวิทช์ที่อยู่ด้านบนส่วนหัวเครื่อง จนเครื่องจะเริ่มทำงาน โดยจะมีการแสดงโลโก้ สักครู่ก็จะเข้าสู่โหมด Start-Up Menu (ซึ่งเราสามารถเลือกตั้งค่า ปิด หรือ เปิด โหมดนี้ได้เองด้วย) เพื่อที่จะให้เราเลือกว่าจะเปิดเข้าสู่โหมดโทรศัพท์ปกติ (Start phone) หรือ จะใช้ฟังเพลงอย่างเดียว (Music only) ในกรณีที่ไม่ต้องการเปิดใช้งานโทรศัพท์ ซึ่งหากเราเลือกเข้าสู่โหมดโทรศัพท์ (Start phone) ตามปกติแล้ว เครื่องก็จะเริ่มสตาร์ทการทำงานโดยการแสดงโลโก้ Walkman phone พร้อมเสียงและสั่น (ส่วนของภาพและเสียงที่แสดงขณะเปิด หรือปิดเครื่องนั้นสามารถตั้งค่าการใช้งานได้ด้วย) หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่หน้าจอปกติ ที่แสดงทั้งภาพพื้นหลัง, เวลา, วันที่, ชื่อเครือข่าย, ระดับสัญญาณเครือข่าย, แสดงสถานะของแบตเตอรี่ และแถบบาร์สำหรับเมนูบนปุ่มซอพท์คีย์ อย่างละเอียด
หน้าจอ ส่วนของจอแสดงผลนั้นจะเป็นแบบ TFT-LCD ความละเอียดสูง สามารถตอบสนองการแสดงผลต่างๆได้คมชัดสุดๆ ที่ระดับ 262,144 สี ขนาด 176 x 220 พิกเซล หรือความกว้างมาตรฐานขนาด 2 นิ้วทีเดียว ให้ความสามารถแสดงผลการทำงาน ได้อย่างละเอียดสวยงาม คมชัดทุกเฉดสี ตอบสนองได้ดีแม้จะใช้งานกลางแจ้งแสงแดดจ้าเพียงใดก็ตาม รวมไปถึงการแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ทั้งนาฬิกาบอกเวลา (มีนาฬิกาแสดงขณะอยู่ใน Save mode ด้วย), วันที่/เดือน/ปี, ชื่อเครือข่าย, สัญญาณเครือข่าย, แบตเตอรี่ และ รายละเอียดต่างๆ รวมถึงแถบบาร์เมนูสำหรับการใช้งานปุ่มควบคุมเมนูต่างๆด้วย นอกจากนี้แล้วยังสามารถให้ผู้ใช้ได้ปรับตั้งค่าต่างๆ บนหน้าจอได้ เองตามใจชอบด้วยไม่ว่าจะเป็น การเลือกภาพพื้นหลัง (Wallpaper) ที่มีให้เลือกในเครื่อง หรือดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้เอง, รูปแบบธีม (Themes) มีให้เลือกหลายแบบตามสไตล์ที่แตกต่างกันไปของผู้ใช้งาน, ตั้งค่าแสดงภาพตอนเปิดเครื่อง (Start-up screen), ตั้งค่าภาพพักหน้าจอ (Screen saver), เลือกตั้งค่าความสว่างของจอภาพ (Brightness) ได้หลายระดับเป็นแบบเปอร์เซ็นต์ , เลือกเปิด-ปิด Sleep mode clock หรือเลือก Edit line names แถมยังให้เราสามารถตั้งค่าบนปุ่ม Shotcuts ได้เองตามถนัดด้วย
รูปแบบเมนู มีภาษาเมนูมาให้เลือกใช้มากมายทั้งแบบ Acording to SIM, English (อังกฤษ) แต่จะไม่มีภาษาไทยให้เราได้เลือกใช้งานครับ(สำหรับเครื่องที่นำมาทดสอบ) โดยเราสามารถตั้งค่าภาษาเมนูได้โดยการเลือกเข้าที่ Menu > Settings > General > Language นอกจากนี้แล้วรูปแบบเมนูนั้นจะแสดงเป็นรูปไอคอนสีสันสวยงามแปลกตา (Grid Matrix Menu Style) พร้อมทั้งการแสดงแว่นขยายแบบสี ที่จะเลื่อนไปตามเมนูหลักที่เราต้องการจะเลือก ส่วนการเลื่อนเพื่อเลือกเมนูนั้นจะเป็นการเลื่อนได้ทั้งซ้าย-ขวา หรือเลื่อนขึ้น-ลงก็ได้ เมื่อเลือกเข้าเมนูหลักใดๆ เข้าไปแล้ว จะมีแถบหน้าเมนูซ่อน ให้เราใช้ Navi-Keys แบบ 5 ทิศทางในการ เลื่อนควบคุมการเลือกเมนูทั้งซ้าย-ขวา หรือขึ้น-ลง ส่วนเมนูหลักๆนั้นจะมีอยู่ทั้งหมด 12 เมนูด้วยกันได้แก่
- PlayNow เมนูสำหรับการใช้งานเชื่อมต่อเข้าสู่ Web Site หลักของทาง Sony Ericsson เพื่อการดาวน์โหลดเพลงของศิลปินในเครือโซนี่ได้จากทั่วทุกมุมโลก
- Internet Service เมนู บริการ สำหรับการเข้าใช้งานเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและการตั้งค่าการเชื่อม ต่อใช้งานมากมาย ทั้งการ Search, Picture Gallery และอีกมากมายแบบสะดวกทันใจ
- Entertainment เป็นเมนูสำหรับความบันเทิงที่ถูกรวบรวมไว้ทั้ง Menu บริการของผู้ให้บริการหรือเครือข่าย, Games, VideoDJ สำหรับตกแต่งตัดต่อวิดีโอ, PhotoDJ สำหรับใช้ตกแต่งรูปภาพ, MusicDJ สำหรับแต่งเพลง, Remote Control ผ่าน Bluetooth, Record Sound, Demo Tour
- Camera เมนูสำหรับเข้าใช้งานกล้องถ่ายรูป ที่มีให้เลือกใช้ทั้งการถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอพร้อมเสียง แถมด้วยโหมดปรับตั้งหน้ากล้องมากมาย
- Messages เมนูข้อความ สำหรับการใช้งาน สร้างข้อความใหม่ (Write New), กล่องข้อความเข้า (Inbox), กล่องข้อความคนสนิท (My Friend), กล่องข้อความแบบ Email, Call Voicemail, แบบร่างข้อความ (Draft), กล่องข้อความออก (Outbox), กล่องเก็บข้อความที่ส่ง (Sent Messages), กล่องบันทึกข้อความเผื่อเรียกดู (Save Messages), ข้อความอัตโนมัติ (Templates) และการตั้งค่าข้อความต่างๆ (Settings)
- Music Player เมนูสำหรับการเข้าสูโลกแห่งพลังเสียง กับระบบเครื่องเล่นเพลงเพื่อการฟังเพลง
- File manager เมนูสำหรับเข้าสู่การจัดการไฟล์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Picture, Videos, Sounds, Themes, Web pagesGames, Applications และ Other สำหรับรายการอื่นๆที่เพิ่มเติม
- Contacts เมนูสมุดโทรศัพท์ พร้อมการปรับตั้งค่าได้มากมาย ทั้งการตั้งค่า Send message, Edit contact, Make video call, Send contact, Delete contact, Mark several รวมถึงการตั้งค่า Speed dial, Groups และการทำรายการพิเศษในสมุดโทรศัพท์ได้มากมาย
- Video Call เมนูสำหรับเข้าใช้งานโทรศัพท์สนทนาแบบเห็นหน้า ผ่าน 3G
- Calls เมนูข้อมูลการโทร สำหรับการเลือกดู เบอร์ที่ไม่ได้รับ (Missed), เบอร์ที่ได้รับ (Answered), เบอร์ที่โทรออก (Dialed), ลบเบอร์ในรายการทั้งหมด (Delete all) และ ลบเฉพาะรายการ (Delete entry) เป็นต้น
- Organizer เมนูสำหรับการเข้าใช้งาน นาฬิกาปลุก (Alarms), Application, ปฏิทิน (Calendar), บันทึกรายการเตือนต่างๆ (Notes), บันทึกสั่งงาน (Tasks), เครื่องคิดเลข (Calculator), Synchronization, ตั้งเวลา (Timer), จับเวลา (Stopwatch), เลือกใช้งานหลอดไฟส่องสว่าง (Light) และ Codememo (สำหรับบันทึกลับสำคัญที่ต้องการเข้ารหัสเพื่อป้องกันการดึงข้อมูล)
- Settings เมนู การตั้งค่า สำหรับการเลือกตั้งค่าต่างๆในเครื่อง ทั้งรูปแบบ General สำหรับตั้งพวก Profile (มี Flightmode ให้
ด้วย), Time&Date, Language และอีกมกามายทั้งการ ตั้งค่า Sounds & Alerts, Display, Calls, Connectivity
เสียงเรียกเข้า นอกจากเสียงเพลงในระดับ 72 โพลีโฟนิกแล้ว ยังสามารถนำเพลง MP3, MIDI, AMR และ AAC มาตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าได้ด้วย แถมยังมีเครื่องมือสำหรับแต่งเพลงได้แบบส่วนตัวด้วย MusicDJ รวมไปถึงการตั้งรูปแบบการเตือนได้หลากหลายรูปแบบตามใจชอบไม่ว่าจะเป็น ความดังของเสียงเตือนใน Ring Volume, เลือกเสียง Ringtone, เสียงเงียบใน Silent mode On/Off, ค่อยๆ ดังใน Increasing ring On/Off, ระบบสั่นใน Vibrating alert, เลือกรูปแบบเตือนข้อความใน Message alert และ เลือกเสียงปุ่มกดใน Key sounds ในแบบ Click, Tone, Silent
สมุดโทรศัพท์ สามารถลงบันทึกรายการเพิ่มเบอร์และเลขหมายโทรศัพท์ (Contact) ได้ทั้งในตัวโทรศัพท์ (500 รายการ/ 20 ไฟล์) หรือจะเลือกบันทึกลงในซิมการ์ด (SIM) ก็ได้ ตามแต่ที่ผู้ใช้ถนัด การบันทึกลงเครื่องนั้นสามารถเลือกบันทึกแยกลงรายการบันทึกได้ทั้ง Name, New number, New Email, Web Address, Presence ID, Web address, Picture, Ringtone, Voice commands, Title, Company รวมถึงชื่อที่อยู่และ รหัสไปรษณีย์เมืองต่างๆ, ลงบันทึก Info และ Birthday ก็ได้ด้วยเช่นกัน หรือจะเลือกเข้าใน Options เพื่อเข้าไปตั้งค่า Speed dial, My Business card สำหรับนามบัตรอิเล็กทรอนิกส์, ตั้ง Groups, SIM contact สำหรับเลือกทำรายการต่างๆ ในซิม, Special numbers สำหรับหมายเลขพิเศษ หรือจะตั้งค่าการทำรายการแบบละเอียด หรือแบบอัตโนมัติ ใน Advanced ก็ได้ด้วยเช่นกันเพื่อความสะดวก และรวดเร็ว
การเชื่อมต่อ รองรับ Bluetooth เวอร์ชั่น 2.0 SyncPC ผ่าน USB 2.0 (full speed) หรือหากต้องการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตก็ทำได้ด้วย WAP 2.0/xHTML Browser ผ่าน GPRS Class 10, 3G และ HSCSD พร้อมกันนี้ยังรองรับการส่งข้อความรูปแบบ SMS, MMS, IM และ Email (มี Push Email ด้วย) รวมไปถึงการรองรับ Java 3D MIDP 2.0 และ Macromedia Flash Lite รวมถึงเกมส์แบบ 2D และ 3D ได้ดีอีกด้วย
กล้องถ่ายรูป ระดับ 2 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับระบบซูมภาพดิจิตอล 4 เท่า (Digital zoom 4x) โดยใช้ปุ่ม ด้านข้างเครื่องในการช่วยควบคุมการซูมภาพ (ทั้งนี้ภาพขนาด 1600 x 1200 ไม่สามารถใช้ซูมได้) กล้องสามารถบันทึกได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอเคลื่อนไหวพร้อมเสียง (3GPP/MPEG4) เลือกเข้าใช้งานได้โดยเลือกผ่านเมนู Camera หรือเข้าใช้งานผ่านปุ่มชัตเตอร์ด้านข้างเครื่องก็ได้ ส่วนการปรับตั้งหน้ากล้องนั้นมีมาให้ทั้งการตั้งค่า Shoot mode สำหรับเลือกโหมดการถ่ายภาพแบบต่างๆทั้ง Normal, Panorama, Burst และใส่ Frames, เลือก Picture size สำหรับตั้งค่าขนาดภาพถ่าย ตั้งแต่ VGA (640 x 480) / 1 MP (Mega Pixels ) / 2 MP (1600 x 1200), Night mode On/Off สำหรับตั้งโหมดถ่ายภาพกลางคืน, Effect สำหรับใส่เอฟเฟ็กท์ต่างๆ ในภาพให้ดูแปลกตากว่าธรรมชาติ ทั้งแบบ Black & White / Nagative / Sepia / Solarize, Self timer สำหรับตั้งเวลาถ่ายภาพ, White balance สำหรับปรับสมดุลแสงสีขาว Auto / Daylight / Cloudy / Fluorescent / Incandescent, Turn On/Off Time and date สำหรับใส่วันที่ลงในภาพถ่าย, Picture quality สำหรับเลือกคุณภาพของภาพถ่ายแบบ Fine / Normal, Shutter sound สำหรับเลือกเปลี่ยนเสียงชัตเตอร์ได้ตามต้องการ, Reset file number สำหรับการรีเซ็ทค่าไฟล์ภาพในการจัดเก็บ, Save to สำหรับการเลือกว่าจะให้บันทึกภาพลง เครื่อง หรือลง การ์ดความจำ นอกจากนี้แล้วยังสามารถตกแต่งภาพถ่ายและภาพวิดีโอต่างด้วยเครื่องมืออย่าง PhotoDJ และ VideoDJ ได้ด้วย สำหรับกล้องตัวที่สองด้านหน้าเครื่องนั้นจะเป็นกล้องในระดับ VGA สำหรับใช้งานสนทนาแบบเห็นหน้าแบบ Video Call ผ่าน 3G (ซึ่งในตอนนี้ในบ้านเรายังไม่รองรับ)
เครื่องเล่นเพลง รองรับการเล่นเพลงในไฟล์ฟอร์แม็ตประเภท MP3 / AAC / AAC+ / eAAC+ พร้อมโหมดเลือกปรับตั้งมากมาย รวมถึงการลงเพลงนั้นก็ไม่ยากอย่างที่คิด ทำได้ทั้งผ่าน Bluetooth ผ่าน Data Cable กับช่อง USB 2.0 รวมถึงสามารถดาวน์โหลดผ่านเว็บของโซนี่ อีริกสัน นอกจากนี้สามารถตั้งการเลือกเล่นแบบสุ่มเพลง (Shuffle) หรือวนซ้ำ (Loop) เลือกดูรายการเพลง, ซ่อนการเล่นเพลง ตั้งค่า Equalizer ได้มากมาย ทั้ง Normal, Bass, Voice, Treble Boost โดยเราสามารถตั้งค่าเสียงเพิ่มเติมเองได้โดยกดเลือก Manual เพื่อตั้งค่า EQ เองตามชอบครับ
หน่วยความจำ ภายในตัวมีพื้นที่หน่วยความจำรองรับอยู่ถึง 64MB แบบใช้ร่วมกัน (Share Memory) ซึ่งก็ถือว่าเป็นหน่วยความจำที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว และยังเพียงพอสำหรับการจัดเก็บข้อมูลทั้งภาพและเสียง และอื่นๆ ได้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจดีทีเดียว แต่หากต้องการพื้นที่มากว่านั้นก็สามารถเพิ่ม Memory Stick Micro (M2) ได้ ซึ่งรองรับได้สูงสุดถึง 1 GB เลยทีเดียว
สรุปผลการทดสอบ
ถือว่าเป็นโทรศัพท์มือถือที่รองรับเทคโนโลยี 3G ได้ค่อนข้างครบถ้วนดีทีเดียว แต่ที่น่าเสียดายที่ในตอนนี้บ้านเรายังไม่รองรับกับระบบนี้ (ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับทาง ก.ท.ช ด้วยว่าจะสรุปผลกันได้เมื่อใดคนไทยอยากใช้แล้วครับ) แต่หากใช้งานได้เมื่อใดเจ้ามือถือตัวนี้ก็สามารถตอบสนองต่อการใช้งาน 3G ได้อย่างดีทีเดียว นอกจากจะรองรับ 3G แล้ว การใช้งานโดยรวมๆ ตั้งแต่การเป็นโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้งานสนทนาก็ทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว ซึ่งในขณะสนทนานั้นเราสามารถตั้งความดังลำโพงหูฟังได้ทันทีด้วย ปุ่มด้านข้าง แต่ดังสุดๆ แล้วหากอยู่ข้างถนน หรือตามตลาดนัดบางครั้งเสียงรบกวนจากภายนอกจะทำให้ไม่ค่อยได้ยินเสียงสนทนาชัดเจนเท่าใดนัก แต่หากอยู่ในห้องหรือในสภาวะที่ไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอกมากนัก ก็ถือว่าชัดเจนดี ส่วนการรับสัญญาณ เครือข่ายนั้นก็ถือว่าทำได้ดีเต็มร้อยครับ (ขึ้นอยู่กับเครือข่ายผู้ให้บริการด้วย) ส่วนการใช้งานด้านมีเดียนั้น ถือว่าสอบผ่านทั้งในเรื่องกล้องถ่ายภาพ ที่มีความคมชัดสูงดีทีเดียว เครื่องเล่นเพลง ก็สามารถใช้งานได้ง่ายสะดวกในการเรียกใช้งานและปรับตั้งค่าได้ดี เรื่องของการเชื่อมต่อนั้นถือว่าค่อนข้างครบถ้วนดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น บลูทูธ, USB 2.0, WAP Browser, NetFront Web Browser รวมถึงการรองรับ Push E-Mail เหล่านี้ก็เอื้ออำนวยต่อการใช้งานในแบบ Business Phone ได้อย่างเต็มรูปแบบดีทีเดียว แถมหากมีแอ็ปพลิเคชั่นแบบ JAVA MIDP 2.0 หรือ Macromedia Flsh Lite รวมถึงเกมส์ในแบบ 2D และ 3D ได้ครบสูตรครับ แล้วที่สำคัญ ใน K610i นี้มีโมเด็ม (Modem) ในตัวด้วย เพื่อสะดวกหากต้องการจะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือนี้ หากจะว่าไปแล้ว Sony Ericsson K610i เครื่องนี้พร้อมแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการความโดดเด่น ทั้งการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบ และความบันเทิงที่หลากหลาย ในแบบพกพา ที่ทั้งสะดวกและคุ้มค่า
Special thanks : บริษัท โซนี่ อีริคสัน (ประเทศไทย) เอื้อเฟื้อเครื่องโทรศัพท์มือถือในการทดสอบครั้งนี้
แกะกล่องลองเครื่อง
สัมผัสแรก ทำให้รู้สึกถึงความมีเสน่ห์ อะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ ภายใต้ดีไซน์ที่ถือว่าเป็นการออกแบบ ได้ค่อนข้างเข้าสมัยดีทีเดียว โดย การเน้นสีเทา (สำหรับเครื่องที่นำมาทดสอบ) ที่ถึงแม้ว่าอาจจะดูเรียบๆ ไปบ้าง แต่ก็ไปได้ดีกับการใช้งานที่ไม่เน้นความหวือหวาในแบบวัยรุ่นเท่าใดนัก ทั้งนี้ตัวปุ่มกด รวมถึงแผงคีย์แพ็ดนั้นทำให้กลมกลืนไปกับตัวโทรศัพท์ดีทีเดียว แต่ที่ดูแล้วรู้สึกชอบใจมากๆ ก็คือส่วนของปุ่มเมนูแบบ 5 ทิศทาง นั้นใช้งานได้ง่ายดีครับ ส่วนตัวเครื่องโดยรวมๆ แล้วถือว่ากำลังพอดีมือดีทีเดียวกับขนาด 102 x 45 x 17 มิลลิเมตร น้ำหนัก 92 กรัม ซึ่งกำลังพอดีมือเลยครับ แม้จะเอาใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงก็ไม่ดูตุงจนน่าเกลียดครับ ใช้ได้ทีเดียวสำหรับรูปทรงของ K610i เครื่องนี้
ด้านหน้า อย่างที่ได้เกริ่นไว้ครับ ว่าส่วนที่ดูจะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งก็คือ เรื่องของการออกแบบที่คงความเรียบง่าย แต่ไม่ใช่ว่าจะเชยไปซะทีเดียวกับความเรียบง่ายดังกล่าว แต่กลับตรงกันข้ามด้วยกลิ่นอายแห่งมือถือยุค 3G อย่างแท้จริงแถมใช้งานได้ดีจริงอีกด้วย (หากบ้านเรารองรับ 3G เมื่อใด รับรองว่าโดนใจสุดๆ ครับ) ตั้งแต่การติดตั้งกล้องไว้ด้านหน้า (มุมขวามือด้านบน) สำหรับการใช้งานสนทนาแบบเห็นหน้าหรือ Video Calls ในระบบ 3G ส่วนต่อมาก็จะเป็นหน้าจอที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ดีทีเดียว 176 x 220 หรือประมาณ 1.9 นิ้ว ซึ่งก็น่าจะใหญ่พอสำหรับการแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ดี โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานอินเตอร์เน็ตหรือใช้อ่านข้อความต่างๆ ตัวหนังสือจะได้ไม่เล็กจนเกินไปครับ ถัดลงมาก็จะเป็นส่วนของปุ่มควบคุม ต่างๆ ซึ่งถูกจัดวางไว้ตามหน้าที่การใช้งานอย่างครบถ้วนทีเดียวครับ
ด้านหลัง หรูหราดีกับการเล่นกับความเท่ห์เสริมเสน่ห์ด้วยตัวอักษร และโลโก้ของ Sony Ericsson แถมยังมีรูปแบบอักษร (Font) สวยๆ ที่บอกความละเอียดของกล้องว่าอยู่ในระดับ 2.0 mega pixels อีกด้วย โดยส่วนของกล้องถ่ายรูปนั้นจะมีทั้งกระจกสะท้อนเงา และลำโพงอยู่ในส่วนเดียวกันอีกด้วยครับ ส่วนฝาหลังนั้นจะเป็นฝาหลังแบบเลื่อนเปิด-ปิด ธรรมดาครับ
ด้านข้าง (ซ้ายมือ) จะมีปุ่มกดสำหรับการควบคุมและใช้งานเครื่องเล่นเพลง (Play/Pause Button) อยู่ด้านบนเป็นปุ่มสีดำที่กลืนไปกับแถบคาดด้านข้างเครื่องครับ ถัดลงมาถ้าสังเกตดีๆ จีมีการพิมพ์คำว่า M2 อยู่ที่ด้านข้างของฝาหลัง โดยจะเป็นการบอกนัยๆ ว่าด้านในนี้หากเปิดฝาหลังจะเป็นช่องสำหรับรองรับ Memory Stick Micro หรือชื่อย่อก็คือ M2 นั่นเองครับ
ด้านข้าง (ขวา) เมื่อพลิกมาด้านนี้ จะเห็นปุ่มกดแบบคู่ใช้กดขึ้น-ลง สำหรับลด-เพิ่มความดังของลำโพง หรือเป็นการเพิ่มเสียงของลำโพงหูฟังในขณะสนทนาก็ได้ด้วย และยังสามารถใช้เป็นปุ่มควบคุมการซูมภาพ ในโหมดกล้องถ่ายรูปได้อีกซะด้วย ถัดลงมาจะเป็นปุ่มชัตเตอร์ สำหรับการเข้าใช้งานกล้องแบบทันใจ และใช้เป็นปุ่มลั่นกล้องสำหรับถ่ายภาพทั้งแบบภาพนิ่ง และวิดีโอ
ด้านบน และล่าง โดยด้านบนส่วนหัวของตัวเครื่องนั้นจะมีหลอดไฟ LED อยู่บนส่วนหัวเครื่องซึ่งจะใช้กระพริบบอกสถานะทำงานโทรศัพท์ และการชาร์จแบตเตอรี่อีกด้วย ใกล้ๆกันนั้น (ทางซ้ายมือ) จะมีปุ่มเพาเวอร์สวิทช์สำหรับใช้ ปิด-เปิดเครื่อง ส่วนด้านล่างตัวเครื่องนั้นจะเป็นช่องต่อต่างๆ ที่รองรับทั้งการต่อกับสายชาร์จแบตเตอรี่, สายดาต้า และหูฟังแบบ Stereo ก็ได้ด้วยเช่นกัน
ถอดแบตเตอรี่/ใส่ซิมการ์ด ทำได้ง่าย เพียงใช้ปลายนิ้วที่ถนัดกดลงบนรอยประ ใต้เลนส์กล้องแต่เบามือพร้อมไปกับการดันฝาหลังลง ฝาหลังจะหลุดออก แล้วจะเห็นตัวแบตเตอรี่อยู่ด้านในหากจะถอดแบตเตอรี่ออกก็เพียงแค่งัดแบตเตอรี่ขึ้นเล็กน้อย ก็สามารถให้เราดึงแบตเตอรี่ออกได้โดยทันที แล้วจะเห็นช่องใส่ซิมการ์ดด้านในทันที ซึ่งเป็นช่องใส่ซิมการ์ดแบบเลื่อนพร้อมขารองรับธรรมดา ช่วยให้ถอด หรือ ใส่ซิมการ์ดได้ง่ายดีทีเดียว แถมยังไม่ก่อให้เกิดรอยขีดข่วนบนตัวซิมการ์ดได้ง่ายๆอีกด้วย กรณีที่เราถอดเข้า ถอดอกบ่อยๆ
ทดสอบการใช้งาน
เริ่มการใช้งาน โดยการกดไปที่ปุ่มเพาเวอร์สวิทช์ที่อยู่ด้านบนส่วนหัวเครื่อง จนเครื่องจะเริ่มทำงาน โดยจะมีการแสดงโลโก้ สักครู่ก็จะเข้าสู่โหมด Start-Up Menu (ซึ่งเราสามารถเลือกตั้งค่า ปิด หรือ เปิด โหมดนี้ได้เองด้วย) เพื่อที่จะให้เราเลือกว่าจะเปิดเข้าสู่โหมดโทรศัพท์ปกติ (Start phone) หรือ จะใช้ฟังเพลงอย่างเดียว (Music only) ในกรณีที่ไม่ต้องการเปิดใช้งานโทรศัพท์ ซึ่งหากเราเลือกเข้าสู่โหมดโทรศัพท์ (Start phone) ตามปกติแล้ว เครื่องก็จะเริ่มสตาร์ทการทำงานโดยการแสดงโลโก้ Walkman phone พร้อมเสียงและสั่น (ส่วนของภาพและเสียงที่แสดงขณะเปิด หรือปิดเครื่องนั้นสามารถตั้งค่าการใช้งานได้ด้วย) หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่หน้าจอปกติ ที่แสดงทั้งภาพพื้นหลัง, เวลา, วันที่, ชื่อเครือข่าย, ระดับสัญญาณเครือข่าย, แสดงสถานะของแบตเตอรี่ และแถบบาร์สำหรับเมนูบนปุ่มซอพท์คีย์ อย่างละเอียด
หน้าจอ ส่วนของจอแสดงผลนั้นจะเป็นแบบ TFT-LCD ความละเอียดสูง สามารถตอบสนองการแสดงผลต่างๆได้คมชัดสุดๆ ที่ระดับ 262,144 สี ขนาด 176 x 220 พิกเซล หรือความกว้างมาตรฐานขนาด 2 นิ้วทีเดียว ให้ความสามารถแสดงผลการทำงาน ได้อย่างละเอียดสวยงาม คมชัดทุกเฉดสี ตอบสนองได้ดีแม้จะใช้งานกลางแจ้งแสงแดดจ้าเพียงใดก็ตาม รวมไปถึงการแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ทั้งนาฬิกาบอกเวลา (มีนาฬิกาแสดงขณะอยู่ใน Save mode ด้วย), วันที่/เดือน/ปี, ชื่อเครือข่าย, สัญญาณเครือข่าย, แบตเตอรี่ และ รายละเอียดต่างๆ รวมถึงแถบบาร์เมนูสำหรับการใช้งานปุ่มควบคุมเมนูต่างๆด้วย นอกจากนี้แล้วยังสามารถให้ผู้ใช้ได้ปรับตั้งค่าต่างๆ บนหน้าจอได้ เองตามใจชอบด้วยไม่ว่าจะเป็น การเลือกภาพพื้นหลัง (Wallpaper) ที่มีให้เลือกในเครื่อง หรือดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้เอง, รูปแบบธีม (Themes) มีให้เลือกหลายแบบตามสไตล์ที่แตกต่างกันไปของผู้ใช้งาน, ตั้งค่าแสดงภาพตอนเปิดเครื่อง (Start-up screen), ตั้งค่าภาพพักหน้าจอ (Screen saver), เลือกตั้งค่าความสว่างของจอภาพ (Brightness) ได้หลายระดับเป็นแบบเปอร์เซ็นต์ , เลือกเปิด-ปิด Sleep mode clock หรือเลือก Edit line names แถมยังให้เราสามารถตั้งค่าบนปุ่ม Shotcuts ได้เองตามถนัดด้วย
รูปแบบเมนู มีภาษาเมนูมาให้เลือกใช้มากมายทั้งแบบ Acording to SIM, English (อังกฤษ) แต่จะไม่มีภาษาไทยให้เราได้เลือกใช้งานครับ(สำหรับเครื่องที่นำมาทดสอบ) โดยเราสามารถตั้งค่าภาษาเมนูได้โดยการเลือกเข้าที่ Menu > Settings > General > Language นอกจากนี้แล้วรูปแบบเมนูนั้นจะแสดงเป็นรูปไอคอนสีสันสวยงามแปลกตา (Grid Matrix Menu Style) พร้อมทั้งการแสดงแว่นขยายแบบสี ที่จะเลื่อนไปตามเมนูหลักที่เราต้องการจะเลือก ส่วนการเลื่อนเพื่อเลือกเมนูนั้นจะเป็นการเลื่อนได้ทั้งซ้าย-ขวา หรือเลื่อนขึ้น-ลงก็ได้ เมื่อเลือกเข้าเมนูหลักใดๆ เข้าไปแล้ว จะมีแถบหน้าเมนูซ่อน ให้เราใช้ Navi-Keys แบบ 5 ทิศทางในการ เลื่อนควบคุมการเลือกเมนูทั้งซ้าย-ขวา หรือขึ้น-ลง ส่วนเมนูหลักๆนั้นจะมีอยู่ทั้งหมด 12 เมนูด้วยกันได้แก่
- PlayNow เมนูสำหรับการใช้งานเชื่อมต่อเข้าสู่ Web Site หลักของทาง Sony Ericsson เพื่อการดาวน์โหลดเพลงของศิลปินในเครือโซนี่ได้จากทั่วทุกมุมโลก
- Internet Service เมนู บริการ สำหรับการเข้าใช้งานเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและการตั้งค่าการเชื่อม ต่อใช้งานมากมาย ทั้งการ Search, Picture Gallery และอีกมากมายแบบสะดวกทันใจ
- Entertainment เป็นเมนูสำหรับความบันเทิงที่ถูกรวบรวมไว้ทั้ง Menu บริการของผู้ให้บริการหรือเครือข่าย, Games, VideoDJ สำหรับตกแต่งตัดต่อวิดีโอ, PhotoDJ สำหรับใช้ตกแต่งรูปภาพ, MusicDJ สำหรับแต่งเพลง, Remote Control ผ่าน Bluetooth, Record Sound, Demo Tour
- Camera เมนูสำหรับเข้าใช้งานกล้องถ่ายรูป ที่มีให้เลือกใช้ทั้งการถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอพร้อมเสียง แถมด้วยโหมดปรับตั้งหน้ากล้องมากมาย
- Messages เมนูข้อความ สำหรับการใช้งาน สร้างข้อความใหม่ (Write New), กล่องข้อความเข้า (Inbox), กล่องข้อความคนสนิท (My Friend), กล่องข้อความแบบ Email, Call Voicemail, แบบร่างข้อความ (Draft), กล่องข้อความออก (Outbox), กล่องเก็บข้อความที่ส่ง (Sent Messages), กล่องบันทึกข้อความเผื่อเรียกดู (Save Messages), ข้อความอัตโนมัติ (Templates) และการตั้งค่าข้อความต่างๆ (Settings)
- Music Player เมนูสำหรับการเข้าสูโลกแห่งพลังเสียง กับระบบเครื่องเล่นเพลงเพื่อการฟังเพลง
- File manager เมนูสำหรับเข้าสู่การจัดการไฟล์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Picture, Videos, Sounds, Themes, Web pagesGames, Applications และ Other สำหรับรายการอื่นๆที่เพิ่มเติม
- Contacts เมนูสมุดโทรศัพท์ พร้อมการปรับตั้งค่าได้มากมาย ทั้งการตั้งค่า Send message, Edit contact, Make video call, Send contact, Delete contact, Mark several รวมถึงการตั้งค่า Speed dial, Groups และการทำรายการพิเศษในสมุดโทรศัพท์ได้มากมาย
- Video Call เมนูสำหรับเข้าใช้งานโทรศัพท์สนทนาแบบเห็นหน้า ผ่าน 3G
- Calls เมนูข้อมูลการโทร สำหรับการเลือกดู เบอร์ที่ไม่ได้รับ (Missed), เบอร์ที่ได้รับ (Answered), เบอร์ที่โทรออก (Dialed), ลบเบอร์ในรายการทั้งหมด (Delete all) และ ลบเฉพาะรายการ (Delete entry) เป็นต้น
- Organizer เมนูสำหรับการเข้าใช้งาน นาฬิกาปลุก (Alarms), Application, ปฏิทิน (Calendar), บันทึกรายการเตือนต่างๆ (Notes), บันทึกสั่งงาน (Tasks), เครื่องคิดเลข (Calculator), Synchronization, ตั้งเวลา (Timer), จับเวลา (Stopwatch), เลือกใช้งานหลอดไฟส่องสว่าง (Light) และ Codememo (สำหรับบันทึกลับสำคัญที่ต้องการเข้ารหัสเพื่อป้องกันการดึงข้อมูล)
- Settings เมนู การตั้งค่า สำหรับการเลือกตั้งค่าต่างๆในเครื่อง ทั้งรูปแบบ General สำหรับตั้งพวก Profile (มี Flightmode ให้
ด้วย), Time&Date, Language และอีกมกามายทั้งการ ตั้งค่า Sounds & Alerts, Display, Calls, Connectivity
เสียงเรียกเข้า นอกจากเสียงเพลงในระดับ 72 โพลีโฟนิกแล้ว ยังสามารถนำเพลง MP3, MIDI, AMR และ AAC มาตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าได้ด้วย แถมยังมีเครื่องมือสำหรับแต่งเพลงได้แบบส่วนตัวด้วย MusicDJ รวมไปถึงการตั้งรูปแบบการเตือนได้หลากหลายรูปแบบตามใจชอบไม่ว่าจะเป็น ความดังของเสียงเตือนใน Ring Volume, เลือกเสียง Ringtone, เสียงเงียบใน Silent mode On/Off, ค่อยๆ ดังใน Increasing ring On/Off, ระบบสั่นใน Vibrating alert, เลือกรูปแบบเตือนข้อความใน Message alert และ เลือกเสียงปุ่มกดใน Key sounds ในแบบ Click, Tone, Silent
สมุดโทรศัพท์ สามารถลงบันทึกรายการเพิ่มเบอร์และเลขหมายโทรศัพท์ (Contact) ได้ทั้งในตัวโทรศัพท์ (500 รายการ/ 20 ไฟล์) หรือจะเลือกบันทึกลงในซิมการ์ด (SIM) ก็ได้ ตามแต่ที่ผู้ใช้ถนัด การบันทึกลงเครื่องนั้นสามารถเลือกบันทึกแยกลงรายการบันทึกได้ทั้ง Name, New number, New Email, Web Address, Presence ID, Web address, Picture, Ringtone, Voice commands, Title, Company รวมถึงชื่อที่อยู่และ รหัสไปรษณีย์เมืองต่างๆ, ลงบันทึก Info และ Birthday ก็ได้ด้วยเช่นกัน หรือจะเลือกเข้าใน Options เพื่อเข้าไปตั้งค่า Speed dial, My Business card สำหรับนามบัตรอิเล็กทรอนิกส์, ตั้ง Groups, SIM contact สำหรับเลือกทำรายการต่างๆ ในซิม, Special numbers สำหรับหมายเลขพิเศษ หรือจะตั้งค่าการทำรายการแบบละเอียด หรือแบบอัตโนมัติ ใน Advanced ก็ได้ด้วยเช่นกันเพื่อความสะดวก และรวดเร็ว
การเชื่อมต่อ รองรับ Bluetooth เวอร์ชั่น 2.0 SyncPC ผ่าน USB 2.0 (full speed) หรือหากต้องการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตก็ทำได้ด้วย WAP 2.0/xHTML Browser ผ่าน GPRS Class 10, 3G และ HSCSD พร้อมกันนี้ยังรองรับการส่งข้อความรูปแบบ SMS, MMS, IM และ Email (มี Push Email ด้วย) รวมไปถึงการรองรับ Java 3D MIDP 2.0 และ Macromedia Flash Lite รวมถึงเกมส์แบบ 2D และ 3D ได้ดีอีกด้วย
กล้องถ่ายรูป ระดับ 2 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับระบบซูมภาพดิจิตอล 4 เท่า (Digital zoom 4x) โดยใช้ปุ่ม ด้านข้างเครื่องในการช่วยควบคุมการซูมภาพ (ทั้งนี้ภาพขนาด 1600 x 1200 ไม่สามารถใช้ซูมได้) กล้องสามารถบันทึกได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอเคลื่อนไหวพร้อมเสียง (3GPP/MPEG4) เลือกเข้าใช้งานได้โดยเลือกผ่านเมนู Camera หรือเข้าใช้งานผ่านปุ่มชัตเตอร์ด้านข้างเครื่องก็ได้ ส่วนการปรับตั้งหน้ากล้องนั้นมีมาให้ทั้งการตั้งค่า Shoot mode สำหรับเลือกโหมดการถ่ายภาพแบบต่างๆทั้ง Normal, Panorama, Burst และใส่ Frames, เลือก Picture size สำหรับตั้งค่าขนาดภาพถ่าย ตั้งแต่ VGA (640 x 480) / 1 MP (Mega Pixels ) / 2 MP (1600 x 1200), Night mode On/Off สำหรับตั้งโหมดถ่ายภาพกลางคืน, Effect สำหรับใส่เอฟเฟ็กท์ต่างๆ ในภาพให้ดูแปลกตากว่าธรรมชาติ ทั้งแบบ Black & White / Nagative / Sepia / Solarize, Self timer สำหรับตั้งเวลาถ่ายภาพ, White balance สำหรับปรับสมดุลแสงสีขาว Auto / Daylight / Cloudy / Fluorescent / Incandescent, Turn On/Off Time and date สำหรับใส่วันที่ลงในภาพถ่าย, Picture quality สำหรับเลือกคุณภาพของภาพถ่ายแบบ Fine / Normal, Shutter sound สำหรับเลือกเปลี่ยนเสียงชัตเตอร์ได้ตามต้องการ, Reset file number สำหรับการรีเซ็ทค่าไฟล์ภาพในการจัดเก็บ, Save to สำหรับการเลือกว่าจะให้บันทึกภาพลง เครื่อง หรือลง การ์ดความจำ นอกจากนี้แล้วยังสามารถตกแต่งภาพถ่ายและภาพวิดีโอต่างด้วยเครื่องมืออย่าง PhotoDJ และ VideoDJ ได้ด้วย สำหรับกล้องตัวที่สองด้านหน้าเครื่องนั้นจะเป็นกล้องในระดับ VGA สำหรับใช้งานสนทนาแบบเห็นหน้าแบบ Video Call ผ่าน 3G (ซึ่งในตอนนี้ในบ้านเรายังไม่รองรับ)
เครื่องเล่นเพลง รองรับการเล่นเพลงในไฟล์ฟอร์แม็ตประเภท MP3 / AAC / AAC+ / eAAC+ พร้อมโหมดเลือกปรับตั้งมากมาย รวมถึงการลงเพลงนั้นก็ไม่ยากอย่างที่คิด ทำได้ทั้งผ่าน Bluetooth ผ่าน Data Cable กับช่อง USB 2.0 รวมถึงสามารถดาวน์โหลดผ่านเว็บของโซนี่ อีริกสัน นอกจากนี้สามารถตั้งการเลือกเล่นแบบสุ่มเพลง (Shuffle) หรือวนซ้ำ (Loop) เลือกดูรายการเพลง, ซ่อนการเล่นเพลง ตั้งค่า Equalizer ได้มากมาย ทั้ง Normal, Bass, Voice, Treble Boost โดยเราสามารถตั้งค่าเสียงเพิ่มเติมเองได้โดยกดเลือก Manual เพื่อตั้งค่า EQ เองตามชอบครับ
หน่วยความจำ ภายในตัวมีพื้นที่หน่วยความจำรองรับอยู่ถึง 64MB แบบใช้ร่วมกัน (Share Memory) ซึ่งก็ถือว่าเป็นหน่วยความจำที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว และยังเพียงพอสำหรับการจัดเก็บข้อมูลทั้งภาพและเสียง และอื่นๆ ได้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจดีทีเดียว แต่หากต้องการพื้นที่มากว่านั้นก็สามารถเพิ่ม Memory Stick Micro (M2) ได้ ซึ่งรองรับได้สูงสุดถึง 1 GB เลยทีเดียว
สรุปผลการทดสอบ
ถือว่าเป็นโทรศัพท์มือถือที่รองรับเทคโนโลยี 3G ได้ค่อนข้างครบถ้วนดีทีเดียว แต่ที่น่าเสียดายที่ในตอนนี้บ้านเรายังไม่รองรับกับระบบนี้ (ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับทาง ก.ท.ช ด้วยว่าจะสรุปผลกันได้เมื่อใดคนไทยอยากใช้แล้วครับ) แต่หากใช้งานได้เมื่อใดเจ้ามือถือตัวนี้ก็สามารถตอบสนองต่อการใช้งาน 3G ได้อย่างดีทีเดียว นอกจากจะรองรับ 3G แล้ว การใช้งานโดยรวมๆ ตั้งแต่การเป็นโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้งานสนทนาก็ทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว ซึ่งในขณะสนทนานั้นเราสามารถตั้งความดังลำโพงหูฟังได้ทันทีด้วย ปุ่มด้านข้าง แต่ดังสุดๆ แล้วหากอยู่ข้างถนน หรือตามตลาดนัดบางครั้งเสียงรบกวนจากภายนอกจะทำให้ไม่ค่อยได้ยินเสียงสนทนาชัดเจนเท่าใดนัก แต่หากอยู่ในห้องหรือในสภาวะที่ไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอกมากนัก ก็ถือว่าชัดเจนดี ส่วนการรับสัญญาณ เครือข่ายนั้นก็ถือว่าทำได้ดีเต็มร้อยครับ (ขึ้นอยู่กับเครือข่ายผู้ให้บริการด้วย) ส่วนการใช้งานด้านมีเดียนั้น ถือว่าสอบผ่านทั้งในเรื่องกล้องถ่ายภาพ ที่มีความคมชัดสูงดีทีเดียว เครื่องเล่นเพลง ก็สามารถใช้งานได้ง่ายสะดวกในการเรียกใช้งานและปรับตั้งค่าได้ดี เรื่องของการเชื่อมต่อนั้นถือว่าค่อนข้างครบถ้วนดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น บลูทูธ, USB 2.0, WAP Browser, NetFront Web Browser รวมถึงการรองรับ Push E-Mail เหล่านี้ก็เอื้ออำนวยต่อการใช้งานในแบบ Business Phone ได้อย่างเต็มรูปแบบดีทีเดียว แถมหากมีแอ็ปพลิเคชั่นแบบ JAVA MIDP 2.0 หรือ Macromedia Flsh Lite รวมถึงเกมส์ในแบบ 2D และ 3D ได้ครบสูตรครับ แล้วที่สำคัญ ใน K610i นี้มีโมเด็ม (Modem) ในตัวด้วย เพื่อสะดวกหากต้องการจะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือนี้ หากจะว่าไปแล้ว Sony Ericsson K610i เครื่องนี้พร้อมแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการความโดดเด่น ทั้งการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบ และความบันเทิงที่หลากหลาย ในแบบพกพา ที่ทั้งสะดวกและคุ้มค่า
Special thanks : บริษัท โซนี่ อีริคสัน (ประเทศไทย) เอื้อเฟื้อเครื่องโทรศัพท์มือถือในการทดสอบครั้งนี้
เนื้อหาโดย
Mobile Mag
Issue 48 July 2006
สนับสนุนเนื้อหา
