Asus PG221 LCD Monitor

Asus PG221 LCD Monitor

Asus PG221 LCD Monitor
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Asus
PG221
LCD Monitor

" If You want more than Monitor."
 

    ในปัจจุบันนี้ความต้องการสินค้าในหมวดจอภาพค่อนข้างหลากหลาย ถ้าผมจะขมวดไปที่การใช้งานกับคอมพิวเตอร์ เรามักเรียกจอเหล่านั้นว่า ‘มอนิเตอร์’ สมัยก่อนคำว่ามอนิเตอร์นี้มันไม่มีอะไรเลย (เปิดช่องการปรับแต่งอย่างละเอียดเอาไว้ ถึงแม้ว่ามันจะถูกประคบประหงมมาอย่างดีจากโรงงานแล้ว) แล้วมันไม่ควรที่จะมีอะไรด้วย เพราะมันเอาไว้แสดงผลเพื่อวัดประสิทธิภาพจากเอาต์พุตจากที่หนึ่ง ส่งมาเป็นอินพุตให้มันเท่านั้น แต่ในปัจจุบันจอแสดงผลที่เรียกว่า ‘มอนิเตอร์’ กลับถูกตั้งคำถามว่า

    มันมีอะไรให้เลือกมากกว่าจะเลือกจากสเปคราคาหรือยี่ห้อที่ขายดี

    แต่ถ้าคุณมองหามอนิเตอร์ที่ระบุตัวตนว่าเกิดขึ้นมาเพื่อความบันเทิงทุกรูปแบบแล้วล่ะก็ Asus PG221 เป็นอีกชื่อหนึ่งที่คุณควรต้องรู้จักเอาไว้ครับ

    • รูปลักษณ์และการใช้งาน
    LCD monitor ของเอซุสโผล่มาในรูปแบบทู-โทน สองสี กรอบจอเป็นพลาสติกเคลือบเงาสีดำ ตัวฐานทำด้วยโลหะกัดเสี้ยนเป็นอะลูมิเนียมเชื่อมต่อกับลำโพงซับวูฟเฟอร์ขนาด กำลังขับ 15 วัตต์ เป็นทรงกระบอกอยู่ส่วนบนของขาตั้งหลังของจอสวยงามมาก ลักษณะของจอตัวนี้ดูแล้วก็ไม่เหมือนมอนิเตอร์เท่าไหร่ เพราะถ้ามองดูด้านหน้าจะเห็นเป็นลำโพงขนาบอยู่ด้านล่างของจอ หน้าจอเคลือบด้วยฟิล์มกันแสงสะท้อนเหมือนอย่างโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันใช้กัน ด้วยขนาดของจอเมื่อวัดตามมุมทแยงได้ 22.1 นิ้วเป็นที่มาของตัวเลขในชื่อโมเดล ซึ่งก็จัดกลุ่มเป็นจอภาพขนาด 22 นิ้วในท้องตลาด ซึ่งถ้าคนที่คิดว่าเริ่มเบื่อไซส์ของจอขนาด 19 นิ้ว ก็มักจะกระเถิบขึ้นมาที่ไซส์นี้เพราะจะได้เห็นน้ำเห็นเนื้อ เห็นความแตกต่างหน่อย เป็นสเกลขนาด 16:10 เทียบขนาดง่ายๆ คือเอากระดาษ A4 มาเรียงกันสองแผ่นพอดี ดีตรงคุณสามารถเปิดหน้าเอกสารทำงานเป็นหน้าคู่ได้พร้อมกันสองหน้าบนหน้าจอ เดียว ส่วนด้านบนของจอเอซุสให้กล้องเว็บแคมประดับมุมก้มเงยได้ความละเอียดระดับ 1.3 ล้านพิกเซลมาด้วย เมื่อใช้งานร่วมกับไมค์แจ๊ค และรูเสียบหูฟังขนาด 3.5 ม.ม. ก็ครบเครื่องเรื่อง chat สำหรับคนที่ชอบมีสังคมอยู่บนหน้าจอ อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของจอตัวนี้คืออินเทอร์เฟสของการควบคุมคำสั่ง หรือการปรับแต่งต่างๆ เป็นระบบสัมผัสทั้งหมด บอกไว้ก่อนจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาหาปุ่มคอนโทรลอยู่พักใหญ่เหมือนผม ยิ่งปุ่มเปิด-ปิดที่อยู่เยื้องไปทางขวาตรงพาเนลด้านหน้าเป็นปุ่มสำคัญที่ เปิด-ปิดการทำงาน ต้องสัมผัสให้ถูก ไฟโชว์ของปุ่มทั้งหมดจะขึ้นมาแพรวพราว เป็นลูกเล่นที่ตอบสนองการทำงานพร้อมเสียง เมื่อกดแต่ละคีย์มันจะเปล่งเสียงเท่ๆ ออกมาทุกครั้ง แต่ถ้าชอบเงียบๆ ก็ทำได้ ยังไม่หมดครับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ PG221 ตัวนี้กินขาดเรื่องการออกแบบจอมอนิเตอร์อีกจุดหนึ่งเห็นจะเป็นไฟ LED ที่วางเป็นแนวยาวด้านล่างซ่อนคั่นไว้ระหว่างขอบจอกับแผงควบคุม ไฟนี่เปลี่ยนสีได้ด้วยนะครับ ได้ถึงห้าสีตามโปรแกรมของเสียงที่คุณเลือก
    
> กล้องเว็บแคม 1.3 ล้านพิกเซลที่ปรับมุมได้
เหมือนกับที่ใช้ในโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบัน <
         
> โลโก้ระบบเสียงเซอร์ราวนด์ SRS TrueSurround
XT ทำให้เสียงไม่ตกจมอยู่หน้าจออย่างเดียว <
 
ขั้ว ต่อต่างๆ ทั้งภาพและเสียงเรียงรายอยู่ด้านหลัง และงอกมาทางด้านข้างเล็กน้อย สำหรับประเภทที่ต้องการความสะดวกในการถอดเข้า ถอดออก อย่างช่องเสียง USB หรือแจ๊คสำหรับเสียบหูฟัง ด้านหลังมีช่องต่อสัญญาณภาพให้ครบเหมือนๆ กับแอลซีดีทีวีทั่วไปทีเดียว ทั้งอะนาล็อกและดิจิตอล ที่ดิจิตอลนี่เป็นขั้วต่อในแบบ DVI-D แต่ก็ให้อะแด็ปเตอร์แปลงสำหรับสาย HDMI มาพร้อมกับ HDCP (High definition content protection) การันตีได้ว่าสามารถต่อกับเครื่องเล่นต่างๆ ทางช่องดิจิตอลได้เหมือนกับทีวีปกติ แต่เพราะเอซุสเลือกใช้ขั้วต่อแบบ DVI-D มันจึงยังไม่สามารถส่งผ่านทั้งภาพและเสียงได้ภายในสายเส้นเดียว ต้องพึ่งพาสายอะนาล็อกอีกหนึ่งคู่ แต่ชุดของสายที่แถมมาในกล่องกับจอตัวนี้ก็ทำให้คุณอุ่นใจว่าไม่ต้องไปควานหา มาจากที่อื่น ทั้งสาย DVI, สายอะนาล็อกแบบรวมทั้ง DB15pin กับสเตอริโอ และ USB สำหรับกล้องเว็บแคมไว้ในเส้นเดียว

    การ ปรับแต่งภาพของเอซุสตัวนี้ก็ใช่ว่าจะยุ่งยาก มีโหมดเป็นค่าจากโรงงานให้คุณเลือก 6 โหมดตั้งแต่ Standard, Theater, Game, Night Mode, Scenery mode จนถึง Splendid Mode

    อันดับ แรกก่อนเข้าสู่กระบวนการทดสอบ ต้องมีการเช็คกันก่อนว่าสัญญาณแต่ละชนิดที่ป้อนเข้าไปให้  PG221 นั้น มันถูกโฉลกกับสัญญาณแบบไหนที่สุด เริ่มจากการป้อนสัญญาณ ‘Widescreen Enhance resolution patten’ มีวงกลมห้าวง สี่วงเล็กๆ กระจายอยู่ตามมุม และมีวงใหญ่อยู่ตรงกลางจากแผ่น ‘Avia Guide to Home Theater’ คือเรื่อง 'สัดส่วนของภาพ' (Aspect Ratio) ไปในตัว ใน PG221 มีการกำหนด Aspect Ratio โดยผู้ใช้แบ่งเป็น 3 แบบ คือ Full (เต็มจอ), 1:1 (ไม่มีการสเกล) และ 4:3 (สำหรับต้องการดูสัญญาณที่เหมือนต้นฉบับที่เป็น 4:3 การป้อนสัญญาณทุกชนิดเข้าไปแล้วเลือก Aspect Ratio เป็น ‘Full’ เอาไว้ สเกลเลอร์ในจอตัวนี้จะทำการดึงภาพให้เต็มจอทั้งหมด และก็เพี้ยนทั้งหมด คือเนื่องจากสัดส่วนของจอมันเป็น 16:10 เพราะฉะนั้นความสูงของภาพเมื่อดึงเต็มจอมันจะเกินมาอยู่หนึ่งส่วน วงกลมที่อยู่ตรงกลางภาพมันก็เลยกลายเป็นวงรีแทน สำหรับผมฟังก์ชันนี้ยังขอข้ามไปเมื่อป้อนสัญญาณวิดีโอให้กับมัน ทางออกก็คือหันไปหาดีวีดีเพลเยอร์ที่สเกลภาพเป็น 1080i หรือ 1080p ได้ และปรับ Aspect Ratio ของ PG221 ไปที่ 1:1 แทน ภาพโดนตัดทิ้งไปบ้างประมาณ 5% แต่ก็รักษาสัดส่วนของภาพทำให้วงกลมตรงกลาง และอีกสี่วงที่อยู่ด้านมุมกลมดิกเลย อย่างนี้สิทำให้ต้องโยน CRT ทิ้งเร็วขึ้น เพราะเรื่องการรักษา geometry ให้เท่ากันทั่วทั้งจอนี่ยังไงก็สู้พวกจอแบนไม่ได้ แต่ละรายละเอียดที่โชว์บน pattrern ดูดีมากครับ ยิ่งที่รายละเอียดสูงๆ ไม่มีสั่นไหว เรียงเป็นเส้นตรงลงมา กับสัญญาณ HD และ Full HD ที่ป้อนเข้าไป ต้องบอกว่าเป็น ภาพที่น่าทึ่งทีเดียว เพราะภาพที่ผมเห็นนี่เพียงต้นฉบับมาจากดีวีดี 480i เท่านั้น!!!

    ที นี้ก็ได้ดูภาพสวยๆ กันเสียที เริ่มจากดีวีดีกันก่อน ผมเลือกเอาหนังภาคเก่าของพระเอกนักบู๊ Indiana Jone ‘The Last Crusade’ เวอร์ชั่นที่ทำออกมาเป็นบ็อกเซ็ต ผ่านการปรับปรุงมาสเตอร์เรียบร้อยแล้ว สีสันของภาพจึงดูสดใสกว่าทุกเวอร์ชั่น การทรานสเฟอร์ทำได้สะอาดปราศจากน้อยส์รบกวน ฉากที่สองคนพ่อลูกขี่มอเตอร์ไซค์พ่วงสมัยสงครามโลกหนีพวกทหารเยอรมันสนุกมาก เรื่องการเคลื่อนไหวต้องบอกว่าเป็นความรู้สึกเดียวกับตอนที่ดูผ่านโป รเจ็กเตอร์ราคาแพงๆ เลย ไม่มีภาพค้างอยู่ในตา หรือเบลอวูบวาบแบบ LCD สมัยก่อน

    สุด ท้ายมาถึงขนาดนี้แล้วถ้าไม่ลองเล่นเกมดูก็คงอกแตกตายแน่ ผมใช้ Colin McRae/DiRT เกมสุดสวยที่ใช้ลงสนาม ด้วยว่าเกมสมัยนี้มันทำขึ้นมาใช้กับจอไวด์สกรีนจริงๆ ยิ่งสัดส่วนขนาด 16:10 ถือว่าลงตัว เต็มตา โหมดการปรับภาพแบบ ‘Game’ จะเพิ่มความแรงของคอนทราสต์ขึ้นมา บางเกมที่มีฉากมืดๆ ทึมๆ หน่อยก็สว่างพอดี ความเร็วในการแสดงผลถึง 2ms เป็นเรื่องที่ทำให้จอตัวนี้ได้เปรียบ เห็นรายละเอียด พื้นผิวของถนน Shading (การให้เงา) ของแสง ทำให้เกมสมัยนี้เป็นสามมิติขึ้นมาก เรื่องเสียงที่คาดหวังไว้แต่ทีแรกก็ต้องบอกให้ทำใจไว้หน่อย ยังต้องพัฒนากันต่ออีกสักรุ่น สองรุ่น ถึงให้เสียงเครื่องยนต์ที่แสบทรวงจากเครื่อง 4G63 2000cc. ทวินเทอร์โบของ EVO IX RallyArt Version อย่างกับลำโพงภายนอกได้ แต่ได้เรื่องเซอร์ราวนด์มาทดแทน

    • สรุป
    สรุป ความว่า ถ้าจะเอาเอซุสตัวนี้ไปต่อกับเครื่องเล่นดีวีดีภายนอก ขออย่างเดียวคือเครื่องเล่นดีวีดีตัวนั้นต้องสเกลได้ถึง 1080i หรือ 1080p ทางช่อง HDMI ถึงจะดี ความละเอียดของการปรับแต่งสีสันของตัวนี้ดูจะน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับคำว่า ‘มอนิเตอร์’ แต่ก็นั่นแหละครับ แลกกับการทำให้เข้าใจได้ง่าย ยูสเซอร์เองก็ปรับเองได้ แล้วแต่มุมมองครับ PG221 เมื่อวางเทียบกับมอนิเตอรรุ่นอื่นๆ เรื่องการดีไซน์ของ PG221 สำหรับผมถือว่าสอบผ่านฉลุย  อย่างน้อยก็อีกพักใหญ่ กว่าจะหา LCD TV มาตั้งบนโต๊ะทำงานแทนได้ล่ะครับ... @
    
    ....................................................................................................

 ตัวแทนจำหน่าย :
    บริษัท  AsusTek Computer (Thailand) Co.,Ltd.
    โทร.0-2677-4422-9
    ราคา :
    16,000  บาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook